“บก.ลายจุด” เผย จัดกิจกรรม “พร้อม” เพื่อส่งสัญญาณ หากประชาชนตอบรับอาจยกระดับเพิ่มขึ้น มอง ส.ว. เป็นลูกติดของ คสช. พร้อมให้กำลังใจ “เพื่อไทย” รวมเสียงให้ได้ แต่อย่าขัดกับฉันทามติ ปชช.
วันนี้ (23 ก.ค.) นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนก่อนจัดกิจกรรม “พร้อม” เพื่อแสดงอำนาจของประชาชน ที่บริเวณ ถนนอโศกมนตรี แยกอโศกมนตรี
นายสมบัติ กล่าวว่า กิจกรรมวันนี้ เป็นการเชิญชวนประชาชนที่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งผลการเลือกตั้งพรรคที่ได้อันดับ 1 คือ พรรคก้าวไกล แต่ถูก ส.ว. 250 คน เทคะแนนทิ้ง ไม่รู้ไปอยู่ไหน ในฐานะที่เราเป็นประชาชนที่เชื่อว่าอำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน อีกทั้งเสียงของเรายังเป็นโมฆะ ถูก ส.ว.สั่งสอนว่า ไปเลือกคนแบบนั้น นโยบายแบบนี้มาได้อย่างไร เป็นการสถาปนาอำนาจใหม่ที่เหนือกว่าอำนาจของประชาชน ตนเองมองว่าเป็นเรื่องที่พิสดาร จึงได้เชิญชวนให้ประชาชนที่มีความพร้อม และเชื่อว่าประเทศนี้ต้องเคารพเสียงของประชาชน มาร่วมตัดสินว่าจะเอาอย่างไรให้ออกมาแสดงตัวในวันนี้
“ส.ว.ชุดนี้เป็นลูกติดของ คสช.หลังจากที่ คสช.ตายไปแล้ว แต่ลูกยังมีชีวิตอยู่ในระบบการเมือง โดยมีนิสัยพฤติกรรมเช่นเดียวกับ คสช.คือ ขัดขวางประชาธิปไตย โดยตอนนี้เรากำลังต่อสู้กับลูกของ คสช.และผมสู้มาตลอด หากส่งสัญญาณไปแล้ว ประชาชนตอบกลับมา ก็อาจยกระดับเพิ่มขึ้น” นายสมบัติ กล่าว
ส่วนความกังวลในการจัดตั้งรัฐบาลที่ตอนนี้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำนั้น นายสมบัติ ระบุว่า พรรคการเมืองกำลังหาทางออก ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้รับการตัดสินจากประชาชนไปแล้วว่าต้องการอะไร เมื่อรวมได้ 312 เสียงในสภา ซึ่งได้เกินครึ่งมามากแล้ว แต่ยังติดกับดัก 250 เสียงจากสมาชิกวุฒิสภา โดยต้องได้ 376 เสียง ถึงจะได้เป็นนายกฯ ซึ่งเป็นหลักการที่ไม่เป็นธรรม เพราะ สว. ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง เป็นสมการทางคณิตศาสตร์ที่ก่อปัญหา เนื่องจากว่าต้องไปหาคนมาสนับสนุน โดยมีความยากลำบาก ในเมื่อพรรคก้าวไกลไม่สามารถดำเนินการจัดตั้งรัฐบาลได้ ก็เป็นหน้าที่โดยสุจริตที่ต้องส่งต่อให้พรรคอันดับสอง อย่างพรรคเพื่อไทย
“เมื่อพรรคเพื่อไทยรับไม้ต่อมา ก็ต้องทำในสิ่งที่บรรลุเป้าหมายเพื่อให้ได้ 376 เสียง การเปิดวงพูดคุยกับตัวแทนพรรคการเมือง ส่วนตัวมองว่าไม่ติดขัด แต่ขอแสดงความห่วงใยในฐานะประชาชนที่โหวตพรรคเพื่อไทย ว่า การจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ ต้องการเพื่อปิดสวิตช์ 3 ป. หวังว่า รัฐบาลรอบนี้จะอยู่บนหลักการ และสัญญาประชาคมที่เคยให้ไว้ ไม่ขัดต่อสิ่งที่เคยพูด หากทำในสิ่งที่ไม่เหมือนที่เคยสัญญา จะต้องแบกรับความรับผิดชอบทางการเมือง ซึ่งอยู่ที่พรรคเพื่อไทย”
นายสมบัติ กล่าวว่า แม้ตอนนี้พรรคเพื่อไทยจะยังไม่ตัดสินใจ ตนเองก็ขอให้กำลังใจ และทำเรื่องนี้ให้ดีที่สุด เราต้องพยายามแสวงหาความร่วมมือ ให้มีความประนีประนอม รวมถึงพรรคอื่นๆ ด้วย ส่วนพรรคก้าวไกลก็ขอให้มีความยืดหยุ่นในระดับที่ไม่ได้เสียหาย ถ้าไม่มีประชาชนเป็นตัวแปร และให้เป็นเพียงตัวประกอบหลังจากการเลือกตั้งเท่านั้น เราก็อยากแสดงจุดยืนว่าอำนาจสูงสุดของประเทศนี้คือประชาชน