ข่าวปนคน คนปนข่าว
**ดีลจบแล้วครับนาย!?.."โทนี่" กลับบ้านจังหวะลงล็อกนายกฯเพื่อไทย “เนติบริกร “ชี้ช่องติดคุกวันแรก ก็ขออภัยโทษได้
ประเด็นที่ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร เปิดเผยว่า พ่อ “โทนี่ วู้ดซั่ม” ทักษิณ ชินวัตร จะกลับไทยวันที่ 10 สิงหาคมนี้ ยังวิพากษ์วิจารณ์กันต่อเนื่องว่า จริงจัง หรือ ไก่กา
ฝ่ายที่เชื่อเต็มร้อยว่า ทักษิณมาแน่ๆ เพราะพรรคเพื่อไทยไม่น่าจะพลาดเรื่องจัดตั้งรัฐบาล เหลือเพียงว่า สูตรจะออกมาแบบไหน มีหรือไม่มีก้าวไกล แต่คนคุมเกมอยู่ในมือ “เพื่อไทย” เรียบร้อย
ตลอดหลายวันที่ผ่านมา จึงมีกระแสข่าวว่า บรรดาแกนนำพรรคการเมืองต่างๆ ต่างมุ่งหน้าบินไปฮ่องกงเข้าพบทักษิณ กันเรียงหน้ากระดาน
ไม่เพียงแต่เชื่อมโยงไปถึงการจัดตั้งรัฐบาล ยังหมายความรวมถึงตำแหน่งนายกฯ คนที่ 30 ย่อมเป็นคนของเพื่อไทย
“ ทักษิณ” ไม่กลับตอนนี้แล้วจะกลับตอนไหน เพราะถือว่า ดีลจบแล้วครับนาย!
ขณะเดียวกัน ฝ่ายที่ยังไม่ปักใจเชื่อว่า มาจริง ก็คิดบนสมมุติฐานการเมืองยังไม่นิ่ง ความเขี้ยวลากดินทางการเมืองของโทนี่ มีหรือจะดูไม่ออก บอกจะมาๆ แต่ถึงเวลาไม่มาก็ได้ ซึ่งก็เข้าอีรอบเดิมที่ปล่อยข่าวว่าจะกลับบ้านกว่าร้อยครั้งที่ผ่านมา
ลองไล่เรียงดูสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นตามมาหลังจากที่ “ลูกอิ๊ง” โพสต์เวลคัมพ่อโทนี่ทูไทยแลนด์ หาคำตอบกันพลางๆระหว่างรอเฉลย
ถึงตรงนี้ ถ้าดูตามไทม์ไลน์ วันโหวตเลือกนายกฯ ที่ “วันมูหะหมัดนอร์ มะทา” ประธานสภาฯ ออกมาคอนเฟิร์มแล้วว่าเป็นวันที่ 4 สิงหาคมนี้ ซึ่งหากไม่มีประเด็น “112” กับ “ก้าวไกล” นายกฯ คนเพื่อไทย ก็น่าจะผ่านฉลุย ขึ้นอยู่กับว่าจะเป็นใครระหว่าง “เศรษฐา ทวีสิน” หรือ “แพทองธาร” แคนดิเดตของพรรค
หากลงล็อกโป๊ะเชะตามที่ใจของ “โทนี่” ต้องการโหวตนายกฯเข้าป้ายก่อนวันที่ 10 ส.ค. ที่บินกลับไทย ก็ไปสเตปต่อไป
ประกอบกับ เมื่อเข้าไทยแล้วจุดหมายปลายทางที่แรกคือ เรือนจำ “เนติบริกร” วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาการ รมว.ยุติธรรม ก็ชี้ช่องทางสว่างๆเอาไว้ให้แล้ว ความกังวลในเรื่องนี้ก็นับว่า คลี่คลาย
ตามหลักการแล้ว คนที่คิดว่าจะไปรับทักษิณ ไม่ว่าจะเป็น “ด้อมแดง” “ด้อมโทนี่” อาจจะต้องผิดหวัง เพราะภารกิจนี้ตกเป็นหน้าที่ตำรวจ ตม.ไปรอรับ ก่อนจะนำตัวมาศาลฎีกา เพื่อไปยืนยันต่อศาล จากนั้นศาลจะออกหมายขัง และส่งให้ทางราชทัณฑ์ต่อไป
ขณะที่ โอกาสของทักษิณจะ “ขอพระราชทานอภัยโทษ” ถือเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องขังทุกคน เพียงแต่เงื่อนไข คือ ต้องอยู่ระหว่างการรับโทษ เมื่อรับโทษแล้ว สามารถยื่นขอพระราชทานอภัยโทษได้ตั้งแต่วันแรก ซึ่งคดีที่ทักษิณต้องคำพิพากษาที่ถึงที่สุดไปแล้ว 3 คดี คดีหนึ่งจําคุก 2 ปี อีกคดีหนึ่งจําคุก 3 ปี ส่วนอีกคดี จําคุก 5 ปี รวมทั้งหมดเป็น 10 ปี
หาก “ทักษิณ”เดินเข้าเรือนจำพร้อมแล้ว ก็สามารถดำเนินการขอได้เลย ซึ่ง “วิษณุ” บอกว่าต้องเขียนฎีกา อธิบายกันยืดยาวพอสมควร เพราะถ้ายื่นไปแล้วไม่โปรดเกล้าฯลงมา ก็จะไม่สามารถยื่นได้อีกภายในสองปี เพราะฉะนั้นต้อง“คิดให้ดี”
เนติบริกร แนะนำขนาดนี้แล้วก็ไม่น่าจะเหลือบ่ากว่าแรงครอบครัวชินวัตรที่จะเตรียมการ
งานนี้ย่อมมีฝ่ายที่คาดการณ์ได้ถูก และ ฝ่ายที่ฟันธงจั่วลม
ส่วนจะเป็นข้างไหนชนะพนันหรือพ่ายแพ้ โปรดอดใจรอดูเหตุการณ์อีกไม่กี่อึดใจก็จะได้คำตอบนะจ๊ะ
**“ก้าวไกล”ไม่คัดกรองคน เลยมีทั้งบอดี้การ์ดตำรวจเก๊ โจรชิงทรัพย์ - ส.ส.ตัวตึงติดคุกคดีลักทรัพย์
สัปดาห์ก่อน “ชัยธวัช ตุลาธน” แม่บ้านพรรคก้าวไกล สั่งปลด “พี่ต้น” หรือ“ผู้กองต้น”ศรีสุริเยน ศรีกมลภักดี ตำรวจเก๊ บอดี้การ์ดคู่ใจ ที่ติดตามคุ้มกัน “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล ไปเรียบร้อยแล้ว หลังถูกแฉว่านอกจากเคยถูกจับในข้อหาปลอมแปลงเอกสารของทางราชการ ปลอมเป็นตำรวจยศ ร.ต.อ. แล้วยังเคยเป็นโจรก่อคดีอุกฉกรรจ์ อุ้ม ปล้น ทำร้ายเจ้าทรัพย์ได้เงินไปกว่า 270,000 บาท เหตุเกิดเมื่อปี 2554
พฤติการณ์ คือ “ต้น” ร่วมกับพวก รวม 3 ราย ปลอมตัวเป็นตำรวจ บช.ปส. ไปจับกุมพ่อค้าขายของชำ อ้างว่ามีหมายจับยาคดียาเสพติด แล้วพาขึ้นรถไปที่ลานจอดรถกองปราบปราม จัดการปลดสร้อยคอ สร้อยข้อมือ แหวน และเงินสด ก่อนปล่อยตัวไป...อุกอาจไหมล่ะ!!
เมื่อเป็นคดี ถูกศาลพิพากษาจำคุก 12 ปี แต่ได้รับการลดหย่อนผ่อนโทษ จนพ้นคุกออกมาเมื่อปี 2560 และสมัครเข้าทำงานบริษัท รปภ. เมื่อปี 2562 จากนั้นถูกส่งตัวมาเป็น องครักษ์พิทักษ์ “นายกฯรถแห่” ซึ่งสุดท้ายก็จบเห่
ล่าสุดเมื่อไม่กี่วันก่อน “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส” หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ที่ถูกสปอตไลต์จับ เมื่อออกปากแนะนำด้วยความหวังดีให้ก้าวไกลไปเป็นฝ่ายค้าน ก็แฉกลางรายการโหนกระแส ว่า พรรคก้าวไกลไปเอานักโทษที่เคยติดคุกมาเป็น ส.ส.ได้ไง แล้วกองเชียร์ ก็ยังเชียร์ก้าวไกล ว่าดีอย่างนั้น ดีอย่างนี้ แล้วอย่างนี้ดี เหรอ ? ...ก็เนี่ยนักโทษ ระยอง เขต 3
คนที่ “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์” พูดถึงก็คือ “ไอซ์” นครชัย ขุนณรงค์ ส.ส.ระยอง เขต 3 ของพรรคก้าวไกลนั่นเอง
หลังถูกเปิดโปง “ณัฐวุฒิ บัวประทุม” รองหัวหน้าพรรค และทีมกฎหมายพรรคก้าวไกล บอกว่าทางพรรคเพิ่งรู้ จึงได้มีการประสานสอบถามไปถึง “นครชัย” ได้ข้อมูลทางวาจามาแล้ว ยังเหลือเรื่องเอกสารอีกเล็กน้อย ยอมรับว่าในการตรวจสอบข้อมูลตอนที่สมัคร ไม่พบประเด็นนี้ แต่เมื่อเป็นข่าวออกมาก็ต้องขอเวลารวบรวมข้อเท็จจริง แล้วจะให้เลขาธิการพรรค แถลงรายละเอียดให้ทราบอีกครั้ง
แต่ยังไม่ทันที่เลขาธิการพรรค จะออกมาแถลง เจ้าตัวคือ “ไอซ์ นครชัย” ก็โพสต์เฟซบุ๊กยอมรับว่า เคยติดคุกจริง จากคดีขโมยนาฬิกา และเตรียมลาออกจากส.ส.
“ไอซ์ นครชัย” บอกว่าที่ตัดสินใจโพสต์เฟซบุ๊ก เพราะมีคนถามเข้ามาเยอะเหลือเกิน ตอบไม่ไหว เลยขอใช้โซเชียลฯ ชี้แจง
...เหตุการณ์ที่ทำให้ผมต้องติดคุก เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2542 หรือ 24 ปีมาแล้ว ตอนนั้นผมอายุประมาณ 20 ปี กำลังวัยรุ่น วันนั้นสังสรรค์อยู่กับเพื่อนหลายคนในห้อง มีคนเดินเข้า ออก ไปมาเรื่อยๆ ผมสังเกตเห็นนาฬิกาผู้หญิงเรือนเล็กๆ เรือนหนึ่ง วางอยู่บนโต๊ะในห้อง ถามว่าของใครก็ไม่มีใครตอบ เลยหยิบมาดูเล่นๆ จากนั้นไม่นานตำรวจได้บุกเข้ามาในห้อง จับกุมผม และเพื่อนอีกคนหนึ่งที่สารภาพว่าเป็นผู้ขโมยนาฬิกา ราคาประมาณ 1,000 บาท เรือนนั้นมา ผมและเพื่อนถูกนำตัวไปโรงพัก ตำรวจให้เซ็นเอกสารโดยบอกว่า เรื่องจะได้จบๆ ผมมาทราบทีหลังว่าเอกสารที่ผมได้เซ็นไป คือเอกสารยอมรับสารภาพ แม้ว่าเพื่อนผมจะให้การกับตำรวจไปแล้วว่า ผมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง
สุดท้าย ผมต้องโทษจำคุก3 ปี และการรับสารภาพ ทำให้ได้ลดโทษกึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 1 ปี 6 เดือน ผมรับโทษตามนั้น และออกมาประกอบอาชีพสุจริตมาโดยตลอด จนกระทั่งตัดสินใจลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นส.ส. เขต 3 จ.ระยอง ในนามพรรคก้าวไกล ผมเชื่อว่าอดีตของผม ไม่ทำให้ผมขาดคุณสมบัติ เพราะผมเชื่อว่าข้อหาที่ทำให้ผมติดคุก ไม่ใช่ฐานความผิดที่บัญญัติไว้ตามรัฐธรรมนูญ ... และจะต่อสู้คดีอย่างถึงที่สุด เพื่อยืนยันว่าผมไม่ได้จงใจสมัครส.ส.ทั้งที่รู้ว่าขาดคุณสมบัติ
เพื่อความสง่างามในการดำรงตำแหน่งส.ส. ผมขอแสดงความรับผิดชอบต่อประชาชน ด้วยการลาออกจากตำแหน่ง ในสัปดาห์หน้า...
เรื่องนี้ “ไอซ์ นครชัย” ได้รับผิดชอบในส่วนของตัวเองไปแล้ว แล้วพรรคก้าวไกลล่ะ จะรับผิดชอบอย่างไร ...เพราะในโซเชียลฯ มีรถทัวร์ไปที่พรรคก้าวไกลจนไม่มีที่จอด
มีคนแซะอย่างแสบทรวงว่า...ยุคก่อน พรรคเก่า ส่งเสาไฟฟ้าก็ได้เป็นส.ส. ยุคนี้ พรรคใหม่ ส่งคนติดคุกก็ได้เป็น ส.ส.
