เมืองไทย 360 องศา
แม้ว่าเวลานี้หลายคนอาจยังไม่ค่อยปักใจเชื่อเต็มร้อยนักว่า “โทนี่” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นักโทษหนีคดีในต่างประเทศ จะกลับไทยตามกำหนดที่ประกาศเอาไว้ในวันที่ 10 สิงหาคมนี้ เนื่องจากเห็นว่าที่ผ่านมาเคยประกาศแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว พอถึงเวลาก็อ้างเหตุผลความจำเป็นบางอย่าง เลื่อนออกไป เช่น ความไม่ปลอดภัยต่างๆ นานา
อย่างไรก็ดี เมื่อประเมินจากสถานการณ์และบรรยากาศต่างๆ รอบตัวแล้ว น่าเชื่อว่า ครั้งนี้ นายทักษิณ น่าจะเอาจริง และกลับมาจริง หากพลาดเที่ยวนี้แล้ว แม้ว่าในฐานะคนไทยแล้วสามารถกลับบ้านได้ตลอดเวลา ไม่มีใครห้ามปรามขัดขวางได้ เพียงแต่ถือว่า “พลาดโอกาสทอง” ก็แล้วกัน
สำหรับ นายทักษิณ ชินวัตร แล้ว นาทีนี้ที่บอกว่าเป็น “โอกาสทอง” เพราะว่าทุกอย่างเหมือนเป็นใจมากกว่าเดิมเมื่อเทียบกับเมื่อหลายปีก่อน หรืออย่างน้อยก็เทียบกับไม่กี่ปีที่ผ่านมา บรรยากาศเทียบกับวันนี้ต่างกันลิบลับ ขณะเดียวกัน สิ่งที่ต้องพิจารณากัน ก็คือ เวลานี้พรรคเพื่อไทยกำลังพลิกกลับมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลในเอ็มโอยู 8 พรรค
อีกทั้งเมื่อพิจารณาจากความเป็นไปได้แล้ว น่าจะมีการ “ข้ามขั้ว” พลิกมาจับมือตั้งรัฐบาลกับ “ขั้วรัฐบาลเดิม” ซึ่งกำลังจับตามองก็คือ พรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคชาติพัฒนากล้า รวมไปถึงพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งความหมายคือ พรรค “สองลุง” คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และความเชื่อมโยงดังกล่าวอย่างหลังนี่แหละ มันทำให้สังเกตให้เห็นถึงความเคลื่อนไหวที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด
และที่สำคัญมันอาจเชื่อมโยงไปถึงกรณีการยืนยันกำหนดการ “กลับบ้าน” ของ นายทักษิณ ชินวัตร อย่างชัดเจน และมั่นใจมากกว่าทุกครั้ง เพราะคราวนี้มีกำหนดวันเวลาว่าเป็นวันไหน เดือนไหน ฟังคำพูดผ่านตัวแทน “สายตรง” อย่าง “อุ๊งอิ๊ง” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทย เดินทางเข้าพรรค พท. เพื่อร่วมอวยพรวันเกิดนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ร่วมกับ ส.ส.พรรค
จากนั้น ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีโพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า นายทักษิณ จะกลับประเทศไทยวันที่ 10 ส.ค. นี้ ว่า ตั้งใจไว้แล้วว่าจะเขียนว่าอะไร ซึ่งวันนี้ก็มาถึง แล้วที่จะโพสต์บอก ก็รู้สึกตื่นเต้น ซึ่งจริงๆ คุณพ่อก็ตั้งใจแล้วว่า อยากจะกลับมาก่อนหน้านี้ แต่ติดวันหยุด จึงหาวันที่เหมาะสม ทั้งนี้ หลังจากที่ตนโพสต์ไปก็ขอขอบคุณกระแสตอบรับที่จะต้อนรับคุณพ่อ แม้คุณพ่อจะอยู่ไกล แต่คิดว่าท่านน่าจะได้เห็นฟีดแบ็กเรื่องนี้ และคงดีใจมากๆ ซึ่งตนก็รู้สึกดีใจแทนคุณพ่อ
เมื่อถามว่า ที่เคยบอกว่าต้องประเมินสถานการณ์การเมืองให้นิ่งก่อน แต่ตอนนี้มีการกำหนดวันชัดเจนแล้ว ถือว่าประเมินสถานการณ์นิ่งแล้ว ใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า คุณพ่อเป็นคนประเมินว่าจะอย่างไร ซึ่งตนคิดว่าท่านอาจจะรอไม่ไหวแล้ว แม้ก่อนหน้านี้เคยบอกว่า กลับในเดือน ก.ค. วันนี้คิดว่าคงอยากกลับมาแล้ว และสถานการณ์คงนิ่งขึ้นแล้ว ช่วงนี้น่าจะกลับได้
ถามว่า ก่อนหน้านี้ มีการระบุว่า เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย ขณะนี้ยังมีความเป็นห่วงเรื่องอะไร หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เรื่องความปลอดภัยเป็นห่วงตลอดอยู่แล้ว เพราะไม่ทราบว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ในกระบวนการที่เขาจะกลับมาซึ่งเรื่องนี้คุณพ่อ เป็นคนจัดการเองทั้งหมด ตนมีหน้าที่บอกประชาชนและสื่อมวลชน อย่างที่ลงเฟซบุ๊ก และอินสตาแกรมแค่นั้น
ถามอีกว่า กำหนดการจะไม่เลื่อน ใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า “ไม่คิดว่าจะเลื่อนนะคะ” ถามต่อว่า ทำไมต้องเลือกสนามบินดอนเมือง น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า คุณพ่อน่าจะมาเครื่องบินส่วนตัว ส่วนเรื่องการประสานกับทางการนั้น ตนไม่แน่ใจ
ซักว่า ช่วงวันที่นายทักษิณกลับมา เป็นช่วงที่จะมีการเลือกนายกฯพอดี น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตนไม่แน่ใจ คุณพ่ออาจจะคาดเดาว่าทุกอย่างน่าจะจบลงในเวลาที่ค่อนข้างจะสงบลงหรือไม่ ซึ่งน่าจะเป็นเช่นนั้นมากกว่า
ถามต่อว่า มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าการกลับมาของ นายทักษิณ ในช่วงนี้ จะเป็นเรื่องของการเมืองหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า อย่างที่เคยเขียนบอกว่าตั้งแต่ปี 2565 แล้ว ที่คุณพ่อยืนยันว่าอยากกลับ ก็เหมือนเดิม เป็นเรื่องของครอบครัว ไม่ใช่เรื่องของการเมืองแน่นอน ท่านออกไป 17 จะ 18 ปีแล้ว
ด้าน นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา กล่าวถึงการประชุมรัฐสภาเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีนั้น เราได้เลื่อนจากวันที่ 27 ก.ค. ออกไป เนื่องจากเราต้องเราคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ แต่เมื่อเช้านี้ (27 ก.ค.) ได้รับทราบว่า ศาลรัฐธรรมนูญ ได้รับคำร้องจากผู้ตรวจการแผ่นดินแล้ว เราก็ต้องรอว่าศาลรธน.จะรับ หรือไม่รับ ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณาในครั้งแรกเบื้องต้น วันที่ 3 ส.ค. คิดว่าถ้าเขาพิจารณาว่าจะรับคำร้องของผู้ตรวจการแผ่นดินหรือไม่ ถ้ารับแล้วจะพิจารณาอย่างไร รวมทั้งสั่งให้สภาชะลอการเลือกนายกรัฐมนตรีออกไปอย่างไร ซึ่งในวันนี้จะร่วมประชุมกับผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อดูว่าเมื่อศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาเรื่องนี้ในวันที่ 3 ส.ค. ดังนั้น เราสามารถที่จะประชุมรัฐสภาในวันที่ 4 ส.ค. โดยมี 2 วาระ วาระแรกคือเลือกนายกรัฐมนตรี วาระที่ 2 คือ ญัตติการแก้ไขรัฐธรรมนูญตาม มาตรา 272 ที่เกี่ยวกับอำนาจการโหวตนายกฯของ ส.ว.
แน่นอนว่า หากพิจารณากันตามไทม์ไลน์ มันก็พอมองเห็นภาพชัดเจนมากขึ้นว่า มีแนวโน้มที่จะมีการโหวตนายกรัฐมนตรีคนใหม่ก่อนวันที่ 10 สิงหาคม และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวของ นายทักษิณ ย้ำว่า ในช่วงเวลานั้นการเมืองน่าจะ “นิ่ง” ไปแล้ว ขณะเดียวกัน ก็ต้องสังเกตด้วยว่าเวลานี้ เวลานี้ “แคนดิเดตนายกฯ” จากพรรคเพื่อไทย กำลังมาแรง ไม่ว่าจะเป็น นายเศรษฐา ทวีสิน หรือ “อุ๊งอิ๊ง” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เพราะเมื่อสำรวจท่าทีจากทุกฝ่ายพร้อมเปิดทางให้พรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำและเป็น “ขั้วใหม่” ทางการเมือง เพื่อชนกับพรรคก้าวไกล
นาทีนี้ถึงได้ประเมินกันแล้วว่า นายทักษิณ ชินวัตร “ทางสะดวก” กว่าทุกครั้ง เมื่อพิจารณาจากบรรยากาศรอบตัวในเวลานี้ โดยเฉพาะหลังการเลือกตั้งล่าสุด กับเมื่อก่อนการเลือกตั้ง ที่ต่างกันลิบลับ ประกอบกับคำยืนยันจากปากเจ้าตัวที่ย้ำว่า “ทำตามกระบวนการยุติธรรม” ความหมายก็คือ ยอมมาติดคุก สู้คดี ทุกอย่างมันก็ต้อง “ไฟเขียว” ทางโล่งอยู่แล้ว!!