“เสรีพิศุทธ์” ย้ำ ก้าวไกลต้องเสียสละ ลดเพดาน 112 ถ้ายังยืนยัน เพื่อไทยก็จะไม่ผ่าน แต่เพื่อจะยังรักษาก้าวไกลเอาไว้ ให้ 151 เสียงยังอยู่ เพียงแต่ไม่ต้องแสดงตัว ไม่เช่นนั้น เขาไม่เอา แล้วค่อยมารวมกันทีหลัง คาด หมายถึงไม่มีก้าวไกลในรัฐบาล แต่ต้องโหวตเห็นชอบให้จัดตั้งรัฐบาล
วันนี้ (21 ก.ค.) พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวในช่วงท้ายของการแถลงข่าวหลังการประชุม 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ว่า กรณีนโยบายการแก้ไขมาตรา 112 ของพรรคก้าวไกล ที่เป็นอุปสรรคในการหาเสียงสนับสนุนเพิ่มให้ครบ 375 เสียงนั้น ทาง ส.ว.จิ้มมาเลยว่า ถ้ามีพรรคก้าวไกลเขาไม่เอาด้วย ชาติไทยพัฒนา ภูมิใจไทย ใครๆ เขาก็บอกว่า ถ้ามีก้าวไกลเขาไม่เอาด้วย แต่ตนเห็นว่าก้าวไกลกับเพื่อไทยอยู่ร่วมกันมาโดยตลอด การที่เพื่อไทยจะตัดเยื่อใยเลยก็ไม่ถูก เพราะฉะนั้นเพื่อไทยก็ต้องรักษาก้าวไกลเอาไว้ อยู่ร่วมกัน โดยก้าวไกลก็ควรสนับสนุนเพื่อไทย ให้ยังมี 151 เสียงเพิ่ม จะได้ไม่หนักใจในการจะไปหา ส.ส.- ส.ว.มาเพิ่ม เพราะฉะนั้นก็ควรจะเป็นเรื่องของก้าวไกลที่ต้องตัดสินใจ
“จะทำอย่างไร ถ้ายังยืนยันอยู่เพื่อไทยก็ไม่ผ่านหรอก เชื่อผมสิ แต่ถ้าเสียสละ ก็พอไปได้ ก็เปรียบเสมือน เมื่อกี้ผมก็พูดในห้องประชุม ยืนอยู่กลางทะเลกันนะ เรือมันล่ม มีคนแก่ ผู้หญิง มีเด็ก มีอะไรต่างๆ แล้วเราคนหนุ่มจะต้องขึ้นเรือก่อนเหรอ เราต้องให้เด็ก คนแก่ ผู้หญิงขึ้นก่อน เราก็ยอมเสี่ยงภัยไปเสียก่อน เมื่อเสี่ยงภัย เดี๋ยวเรือลำที่ 2 มา เราค่อยไป ไม่ใช่ว่าไอ้หนุ่มกระโดดขึ้นเรือก่อน ปล่อยให้ผู้หญิง ปล่อยให้เด็กผจญกรรมอย่างนั้นไม่ได้ เพราะฉะนั้นตอนนี้ต้องมีผู้เสียสละเพื่อให้ประชาธิปไตยไปได้ ถ้าไม่มีการเสียสละก็ไปไม่ได้ เชื่อผม” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามเพิ่มเติมว่า เสียสละคืออะไร พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ตอบว่า แนวทางที่ 3 ที่ นพ.ขลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยพูดไว้ (ให้สิทธิพรรคเพื่อไทยพิจารณาดำเนินการได้เอง หากหาเสียงจาก ส.ส.- ส.ว.มาเพิ่มได้ไม่ครบ 375)
เมื่อถามว่า หมายถึงให้ตัดพรรคก้าวไกลหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ตอบว่า ไม่ใช่การตัด ถ้าตัดออก เพื่อไทยก็ขาดไปอีก 151 เสียง ไม่ตัด อยู่ด้วยกันนั่นหละ เพียงแต่ไม่ต้องแสดงตัว ถ้าแสดงตัวตน มันก็ไม่เอา ต้องเล่นให้เป็น แล้วไปรวมกันทีหลังได้ รอเพื่อไทยเขาจัดการ
เมื่อถามว่า เสียสละคืออย่างไร ให้พรรคก้าวไกลถอยไปเป็นฝ่ายค้านใช่หรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า “ก็ไปคิดเอาเองว่าใครควรเสียสละ ผมเสียสละเพื่อไทยก็ไม่ได้ประโยชน์หรอก ผมเสียงเดียว เดี๋ยวเพื่อไทยเขาจัดการอยู่”
เมื่อถามว่า แม้พรรคก้าวไกลชนะเลือกก็ต้องเสียสละหรือ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ตอบว่า คุณไปดูเลือกตั้งครั้งที่แล้ว ใครได้คะแนนมากที่สุด เพื่อไทยใช่ไหม แต่ว่าพลังประชารัฐเขาแย่งจัด คราวนี้ ก้าวไกลได้ที่ 1 เพื่อไทยได้ที่ 2 เพื่อไทยยังไม่แย่งจัดเลย เพราะฉะนั้นต้องเห็นใจเพื่อไทยบ้าง เขามีโอกาสก็ต้องช่วยเขา เพราะเขาช่วยเต็มที่อยู่แล้ว
ถามว่า จะไม่ทำให้หลักการบิดเบี้ยวใช่ไหม พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ตอบว่า ไม่บิดเบี้ยวหรอก คุณต้องการอะไร ต้องการประชาธิปไตย ต้องการบริหารประเทศหรือเปล่า คราวที่แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อยากจะเป็นนายกรัฐมนตรียังต้องเสียสละกระทรวงสำคัญให้ภูมิใจไทย ให้ประชาธิปัตย์
ถามว่า พูดอย่างนี้ไม่กลัวก้าวไกลโกรธหรือ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ไม่กลัวหรอก เราพูดความจริง แล้วก็พูดด้วยความรัก
เมือ่ถามว่า พรรคก้าวไกล ต้องไม่แตะ ม.112 เลยใช่หรือไม่ ถึงจะอยู่ร่วม 8 พรรคได้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า คือ คุณบอกไม่แตะ แต่เขาบอกมันแตะอยู่แล้ว ภาพมันติดตาตรึงใจอยู่ มันไปไม่ได้หรอก
เมื่อถามว่า สรุปแล้วภาพที่จะออกมา คือ ไม่มีก้าวไกล ใช่หรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ไม่ใช่ไม่มี มี แต่ไม่ต้องไปโชว์
เมื่อถามย้ำว่า มีแต่ไม่ต้องไปโชว์ คืออะไร พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ไม่ตอบ แต่ตัดบทไปว่า อย่างน้องคิดเองได้อยู่แล้วว่าคืออะไร ตอบแทนพี่ไปเลย
ทั้งนี้ มีรายงานว่า การหารือในวันนี้เป็นการวาง 3 แนวทาง ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ได้แก่
1. พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล 8 พรรค ไปขอเสียงเพิ่มจาก ส.ว. ให้ได้ 63 เสียง โดยให้พรรคเพื่อไทยรับฟังเงื่อนไขว่าต้องการปรับสิ่งใด และนำเสนอต่อพรรคร่วมฯ โดยเฉพาะประเด็น ม.112 กับพรรคก้าวไกล และให้พรรคก้าวไกลนำไปหารือในพรรคเพื่อหาข้อสรุป
2. พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล 8 พรรค ขอเสียงสนับสนุนจากพรรคการเมืองอื่น เช่น พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา โดยอาจมีการพิจารณาให้เข้าร่วมรัฐบาลด้วย
3. แนวทางอื่นๆ เช่น การขอให้ ‘พรรคก้าวไกล’ ออกจากการจัดตั้งรัฐบาล ไปเป็นฝ่ายค้าน และยกมือสนับสนุนนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะมีการดึงพรรคอะไร มาร่วมรัฐบาล
รายงานข่าวระบุว่า คำว่า “มีแต่ไม่ต้องไปโชว์” ของ พล.ต.อ.เสรีพิสุทธ์ อาจหมายถึงกรณีแนวทางที่ 3 คือ การไม่มีพรรคก้าวไกลในรัฐบาล แต่ต้องขอให้พรรคก้าวไกลยกมือสนับสนุนพรรคเพื่อไทยเป็นนายกรัฐมนตรี
รายงานข่าวระบุว่า ในการประชุมพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล 8 พรรควันนี้ บรรยากาศเป็นไปด้วยดี เน้นการพูดคุยประเด็น ม.112 และการทำให้แนวทางที่ 1 และ 2 เกิดขึ้นได้จริง และมีบางพรรคการเมืองพูดคุยในประเด็นแนวทางที่ 3 ด้วย รวมถึงเป็นที่น่าสังเกตว่าบนเวทีแถลงข่าววันนี้ มีตัวแทนจากพรรคก้าวไกลเพียง 1 คน /ตัวแทนพรรคเพื่อไทยกว่า 6 คน /ตัวแทนพรรคประชาชาติ 2 คน/ ตัวแทนพรรคไทยสร้างไทย 2 คน/ ตัวแทนพรรคเสรีรวมไทย 2 คน/ ตัวแทนพรรคเพื่อไทรวมพลัง 1 คน/ ตัวแทนพรรคพลังสังคมใหม่ 2 คน และตัวแทนพรรคเป็นธรรม 1 คน