“ชลน่าน” แถลงแนวทาง 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล เน้นขอเสียงจาก ส.ว.ก่อน หารือแนวทางลดเพดานมาตรา 112 อย่างเป็นรูปธรรม ก่อนส่งให้ “ก้าวไกล” คุยกันในพรรค ส่วนเสียง ส.ส.จากพรรคอื่นจะพูดคุยอย่างเป็นทางการ เชื่อ ต้องได้ข้อสรุป 25 ก.ค.นี้ “ชัยธวัช” โบ้ยเงื่อนไข 112 แค่ข้ออ้างกดดันให้เปลี่ยนขั้ว
วันนี้ (21 ก.ค.) เวลาประมาณ 16.45 น. ที่ทำการพรรคเพื่อไทย ภายหลังการประชุมหารือร่วมกันของ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย, นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย, นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล, นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล, นายทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ, พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส พรรคเสรีรวมไทย, นายปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรคเป็นธรรม, นายกัณวีร์ สืบแสง เลขาธิการพรรคเป็นธรรม, นายสุพันธุ์ มงคลสุธี รองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย, น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ แกนนำพรรคไทยสร้างไทย, นายวสวรรธน์ พวงพรศรี หัวหน้าพรรคเพื่อไทรวมพลัง และตัวแทนจากพรรคพลังสังคมใหม่ ได้แถลงข่าวถึงผลหารือต่อสื่อมวลชน
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า จากการหารือวันนี้ที่ประชุมมีมติ คือ ในการประชุมรัฐสภาวันที่ 27 ก.ค. ที่ประธานบรรจุวาระการโหวตเลือกนายกฯ นั้น ที่ประชุมมีมติให้พรรคเพื่อไทยส่งชื่อผู้ซึ่งสมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี โดยพรรคก้าวไกลจะเป็นผู้เสนอชื่อ เพื่อให้ได้มาซึ่งรัฐบาลที่ประชาชนมุ่งหวัง นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า ในที่ประชุมเสนอแนวทางการได้เสียงสนับสนุน คือ
1. ทั้ง 8 พรรคร่วมจะดำเนินการขอเสียงจาก ส.ว. ให้ได้ครบตามจำนวนที่จะต้องเติมถึง 375 เสียง คือ 63 เสียง ซึ่งอาจมีเงื่อนไขคือประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 พรรคเพื่อไทยจะคุยเรื่องนั้น และนำการลดเงื่อนไขมาพูดคุยกับทางพรรคก้าวไกลต่อไป
2. ถ้าได้เสียง ส.ว. ไม่พอ ก็ให้สิทธิพรรคเพื่อไทยคุยกับพรรคการเมืองอื่นได้ ตามที่พรรคเพื่อไทยเห็นสมควร ซึ่งที่ประชุมให้เป็นเสรีภาพของพรรคเพื่อไทยที่จะไปคุย
3. แนวทางอื่นๆ นอกเหนือจากนี้ ที่ประชุมได้ให้สิทธิพรรคเพื่อไทยในการพิจารณาดำเนินการ
เมื่อถามถึงเรื่องการลดเพดานการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 นพ.ชลน่าน ระบุว่า ให้แนวทางว่ารายละเอียดของการลดเพดานคืออะไร ตอบก้าวไกลให้ได้ ถ้าได้รับเงื่อนไขอย่างไรก็จะให้พรรคก้าวไกลนำไปพิจารณา
ด้าน นายชัยธวัช ระบุว่า ตอนนี้ให้เวลาพรรคเพื่อไทยไปคุย ส.ว.ว่า รูปแบบไหนจะปลดล็อกความไม่สบายใจของ ส.ว.ได้ แนวทางในการตั้งรัฐบาลเป็นอย่างไร เพื่อให้เราสามารถตั้งรัฐบาลได้ ในฐานะที่ได้รับเสียงมาเป็นที่ 1 เราจะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนั้น ตอนนี้โดยมารยาท ต้องมอบหมายบทบาทหลักให้พรรคเพื่อไทยในการบริหารจัดการเรื่องเหล่านี้ ซึ่งพรรคเพื่อไทยคงจะต้องไปพูดคุยกับ ส.ว. ว่าจะมีเงื่อนไขอะไรบ้างที่เป็นรูปธรรม
เมื่อถามถึงความกังวลในการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 นายชัยธวัช ระบุว่า มาตรา 112 เป็นแค่ข้ออ้าง สิ่งที่อยากเห็นที่สุดหลังการเลือกตั้งคือต้องการให้เปลี่ยนขั้วรัฐบาล จะทำอย่างดีที่สุด ซึ่งตอนนี้เป็นมารยาททางการเมืองที่ต้องให้เพื่อไทยนำก่อน ส่วนท่าทีของพรรคอื่นๆ ที่ออกมาบอกว่าจะไม่โหวตให้ถ้ามีพรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาลอยู่ด้วยนั้น
นพ.ชลน่าน ระบุว่า ก็คุยในแนวทางอื่น ถ้านอกเหนือจาก 8 พรรคร่วม ที่ประชุมให้สิทธิเพื่อไทยในการพิจารณาว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งทางเลือกที่ดีที่สุด คือ การขอเสียง ส.ว. ก่อน ส่วนผลจะเป็นอย่างไรก็ต้องพิจารณาร่วมกัน และการหาคะแนนจาก ส.ส. พรรคอื่นนอกเหนือจากพรรคร่วมนั้น ก็ต้องคุยกันว่าถ้าโหวตให้แล้วจะร่วม หรือไม่ร่วม
นพ.ชลน่าน ย้ำว่า เราจะมั่นใจก่อนวันโหวตเลือกนายกฯ ว่าต้องได้ 375 เสียง ไม่กังวลเรื่องเสียงตกน้ำ และหลักการการเจรจากับ ส.ส. พรรคอื่นนั่น เราจะเจรจาเป็นทางการ ส่วนการพูดคุยกับ ส.ว. นั้น พรรคร่วมก็ยินดีร่วมกันหาเสียงเพิ่ม ตอนนี้ต้องทำแนวทางที่ 1 หรือแนวทางที่ 2 ให้สำเร็จก่อน ส่วนเงื่อนไข “มีเราไม่มีลุง” ของบางพรรคการเมืองนั้น เราพยายามทำแนวทางที่ 1-2 ให้สำเร็จให้ได้ก่อน เรื่องอื่นเรายังไม่พูดถึง
นพ.ชลน่าน กล่าวทิ้งท้ายว่า กรอบเวลาในการพูดคุยต้องได้ข้อยุติภายในวันที่ 25 ก.ค. นี้ เพราะวันที่ 26 ก.ค. เราจะประกาศอย่างเป็นทางการ