หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยชี้ พิธา หัวหน้าก้าวไกล เป็นคนน่ารัก แต่มีอะไรมาคุมอยู่ข้างหลัง จับซ้ายก็ได้ จับขวาก็ได้ วอนถอยไปบ้าง ให้แคนดิเดตนายกฯ เป็นตัวของตัวเอง ตัดสินใจเองบ้าง
วันนี้ (17 ก.ค.) พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ให้สัมภาษณ์ในรายการเจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์ ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 เอ็มคอต เอชดี หมายเลข 30 ดำเนินรายการโดย นายดนัย เอกมหาสวัสดิ์ และ น.ส.อมรรัตน์ มหิทธิรุกข์ ถึงการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่จะมีขึ้นในวันที่ 19 ก.ค. ระบุว่า 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล จะเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง เพราะตกลงกันไว้แล้ว แม้ว่าคะแนนจะไม่มากก็ต้องให้โอกาส
ส่วนที่ว่าขั้วรัฐบาลเดิมผนึกกับ ส.ว. เสนอชื่อนายกรัฐมนตรี จัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยนั้น ตนไม่กังวล เพราะถือว่ามติพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล 312 เสียงต้องเดินไปด้วยกัน นอกเสียจากว่าผลที่ออกมาวันที่ 19 ก.ค.เป็นอย่างไรค่อยมาว่ากัน ขั้วอำนาจเดิมถึงชนะก็บริหารประเทศไม่ได้เพราะประชาชนไม่ยอมรับ การโหวตเลือกนายกฯ เป็นเกมรวมเสียง ใครรวมเสียงได้มากก็จัดตั้งรัฐบาลได้ ยอมรับว่าพรรคก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ ต้องจัดใหม่ ถ้าจัดไม่ได้ก็ต้องเปลี่ยนคนจัดใหม่ ถ้าอีกฝ่ายจะสู้มาก็ไม่มีปัญหาเพราะเป็นสิทธิ แต่ถ้าชนะไปก็ไม่มีที่ยืนเหมือนกัน
เมื่อถามว่า ควรให้โอกาสนายพิธากี่รอบ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า ถ้าสองรอบสามรอบต้องดูที่ผลว่าเป็นอย่างไร รอบแรกมี ส.ว.โหวตให้ 13 เสียง ขาดอีก 52 เสียง ซึ่งยากที่จะเจรจาให้ ส.ว. หรือพรรคฝ่ายตรงข้ามมาสนับสนุนให้ ก่อนหน้านี้ก็มีการเจรจา ตอนนี้แม้จะห่างก็ต้องให้โอกาส เพราะระยะเวลา 5-6 วัน มีโอกาสเจรจาฝ่ายต่างๆ ได้บ้าง มีพรรคพวกจากพรรคก้าวไกลประสานให้ตนช่วยเจรจา เช่น พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคประชาธิปัตย์ ตนก็เคลียร์ให้ ซึ่งทั้งสองพรรคจะกลับไปคุยกับกรรมการบริหารพรรค แต่ตอนนี้รอคำตอบอยู่ นอกจากนี้ ยังต้องดูว่าผลการลงคะแนนวันที่ 19 ก.ค.จะเป็นเท่าไหร่ ถ้าตีตื้นขึ้นมาอีกเยอะก็ให้โอกาสอีก แต่ถ้าเหมือนเดิมพรรคก้าวไกลต้องคิดแล้วว่าควรจะเสียสละให้พรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่
เมื่อถามว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์เคยกล่าวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (15 ก.ค.) ว่าพรรคก้าวไกลปิดกั้นตัวเองหลายเรื่อง ทำให้หาพวกยากนั้นเป็นอย่างไร พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า การจะทำอะไรต้องใจเปิดกว้าง ถ้าต้องการพวกก็อย่าปิดกั้นตัวเองมากนัก บางอย่างต้องปิดตาไปบ้าง ถ้าอยากจะเป็นใหญ่ เรื่องเล็กๆ ก็ต้องมองข้ามไปบ้าง อย่าไปตั้งมาตรฐานสูงมากนักเดี๋ยวจะรวมกับใครไม่ได้ พยายามลดดีกรีตัวเองลงมาเพื่อที่จะรวมกับคนอื่นได้
เมื่อถามว่า ท่าทีพรรคก้าวไกลไม่เคยที่จะลดเลย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า "ตั้งแต่สัมผัสคุณพิธามา ไปประชุมร่วมกัน ผมว่าคุณพิธาเป็นคนดี เป็นคนน่ารักนะ เป็นคนที่มีความรู้อะไรต่างๆ แต่คุณพิธาพูดตรงๆ กลับไม่ค่อยมีจุดยืนอะไรของตัวเอง มีอะไรมาคุมอยู่ข้างหลัง มันก็เลยทำให้คุณพิธาไม่เป็นตัวของตัวเอง ภาพก็จะออกมาอย่างนี้ แต่ว่าเฉพาะส่วนตัวคุณพิธาผมว่าใช้ได้นะ"
เมื่อถามว่า มอะไรที่มาคุมอยู่ มันคืออะไร พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า "ก็คุณพิธาอยู่ในพรรคไหนล่ะ" และเมื่อพิธีกรตอบว่าพรรคก้าวไกล ก็กล่าวว่า "มีคณะอะไรมาคุมอยู่ล่ะ?" ถามว่าหมายถึงคณะที่ไม่ได้อยู่ในพรรคแต่สามารถควบคุมได้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า "จับซ้ายก็ได้ จับขวาก็ได้ ต้องบอกให้คณะพวกนั้นถอยไปบ้าง ให้คุณพิธาเป็นตัวของตัวเอง ตัดสินใจเองบ้าง ผมว่าจะดีกว่าที่จะให้คณะที่ว่ามาควบคุมการทำงานของพรรคก้าวไกล" เมื่อถามว่า ฟังดูอย่างนี้โอกาสที่จะหาพวกและเติมพวกนั้นดูริบหรี่เหลือเกิน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์กล่าวว่า "ก็ว่าอย่างนั้น แต่ก็ต้องดำเนินการไปตามที่เราตกลงกัน"
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธฺกล่าวว่า การหารือวันพรุ่งนี้ (18 ก.ค.) นอกจากพรรคเสรีรวมไทยแล้ว เชื่อว่าพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลทั้ง 8 พรรคต้องสนับสนุนนายพิธาหมด ไม่มีใครแตกแถว นอกจากผลออกมาเป็นอย่างไรมาว่ากันอีกที ถ้าใกล้เคียงหรือดีขึ้นก็จะช่วยกันเต็มที่ ถ้ายังห่างเหมือนเดิมหรือแย่กว่าเดิมต้องบอกให้พรรคก้าวไกล เปลี่ยนขั้วให้พรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลบ้างเท่านั้นเอง และเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยต้องเอาพรรคก้าวไกล เพราะเป็นสัจวาจา 8 พรรคร่วม และเอ็มโอยูไม่ไปไหน ส่วนที่ ส.ว.ระบุว่าถ้ายังมีพรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาลจะไม่โหวตให้นั้น ถ้าพรรคเพื่อไทยจะให้ฟัง ส.ว.แล้วสละพรรคก้าวไกลก็ไม่ถูก ถ้าไม่ผ่านพรรคเพื่อไทยก็จัดตั้งกันใหม่
