เลขาฯ ก้าวไกล แฉขั้วอำนาจเก่ากดดัน ส.ว.รายคน หวังพลิกขั้วรัฐบาล ดีดก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน ยันไม่ถอย ม.112 ไม่ถอดใจ เชื่อถ้า 8 พรรคจับมือกันแน่น ยังไปต่อกันได้
วันนี้ (14 ก.ค.) นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า วันนี้จะหารือกับแกนนำของพรรคเพื่อไทยเป็นการภายใน ถึงแนวทางการผลักดัน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เป็นนายกรัฐมนตรี ก่อนประชุมร่วม 8 พรรค ยืนยันว่า ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภานัดต่อไป ก็จะยังเสนอชื่อ นายพิธา เป็นนายกฯ ต่อไป
ขณะเดียวกัน ยังเดินหน้าประสานกับ ส.ว. เพื่อขอคะแนนเสียง พร้อมกันนี้ จะเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 เพื่อปิดสวิตช์ ส.ว. ในนามของพรรค คู่ขนานกับการโหวตนายกฯ และหากพรรคเพื่อไทยยินดีสนับสนุน ก็จะยื่นร่างไปพร้อมกัน ในส่วนของพรรคก้าวไกล จะไปยื่นร่างแก้ไขในวันนี้ เวลา 15.00 น. ที่รัฐสภา
เมื่อถามถึงกรณีมีกระแสข่าวขั้วอำนาจเก่ากดดัน ส.ว.อย่างต่อเนื่อง เพื่อหวังพลิกขั้วดึงพรรคเพื่อไทยมาร่วมรัฐบาลแล้วดีดพรรคก้าวไกลไปเป็นฝ่ายค้าน นายชัยธวัช กล่าวว่า ได้เห็นชัดเจน ส่วนสมการทางการเมืองของขั้วอำนาจเก่าเป็นอย่างไรคงบอกไม่ได้ แต่มีความเคลื่อนไหวนี้หนักมากและหลายแหล่งข่าวตรงกัน มีการประกาศกับ ส.ว.ที่ถูกกดดันว่าตัวเองจะเป็นรัฐบาล ขอให้งดออกเสียง หรือ ไม่มาประชุม สั่งให้ป่วยก็มี เพื่อให้เป็นรัฐบาล
นายชัยธวัช กล่าวว่า ส่วนการเสนอร่างแก้ไขมาตรา 112 นั้น ยืนยันว่า ไม่ถอย โดยมี 2 เหตุผล คือ 1. เป็นนโยบายที่เราใช้รณรงค์การเลือกตั้ง เป็น 1 ในนโยบาย ถูกหยิบยกตั้งคำถามเยอะมาก เป็นคำมั่นสัญญาที่เราให้กับประชาชนแล้ว ตนคิดว่าหลายคนอาจมองว่าปัญหา 112 อาจเกี่ยวข้องกับคนไม่กี่คนหรือความกินดีอยู่ดีของประชาชน แต่ถือเป็นปัญหาทางการเมือง เป็นเรื่องใหญ่จริงๆ มีการถกเถียงกันมากทั้งในสภาและบนถนน เรายังเชื่อว่าการเสนอเข้าไปจะเป็นทางออก เป็นรูระบายทางออก หาข้อยุติกันในสภาดีที่สุด ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว สภาเป็นอย่างไรก็อย่างนั้น คนที่อยู่ข้างนอกก็ว่าตามสภา เป็นการหาทางลง หาทางออกข้อขัดแย้งใหญ่ในสังคม
2. ในสถานการณ์ปัจจุบัน คำถามคือจริงหรือไม่ ถ้าก้าวไกล นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ประกาศในสภาว่าเราถอย ไม่เสนอร่างแก้ไข 112 แล้ว ส.ว.จะโหวตให้ ตนคิดว่าไม่น่าจะจริง ก่อนหน้านี้ ตนมีโอกาสเห็นข้อความซึ่งอ้างว่ามาจากไลน์ ส.ว. ส่งกันไม่กี่วันก่อนโหวตว่า “ระวังไว้ เดี๋ยวพิธาจะเสนอว่าไม่เสนอแก้ไข 12 เพื่อเป็นหลอกพวกเรา ส.ว. แต่มีแผนการเลวร้าย อย่าไปหลงเชื่อ” และเมื่อวานนี้ (13 ก.ค.) ก็มี ส.ว.อภิปรายในทำนองนี้เหมือนกันว่าอย่าบอกว่าจะไม่แก้ 112 แล้ว เพราะยังไงพวกผมก็ไม่เชื่อท่าน ก็มีการพูดอย่างนี้จริง
“ดังนั้น มันมีธงอยู่แล้วว่า ต่อให้ไม่โจมตีไม่อ้างเรื่องนี้ก็อ้างเรื่องอื่น ทำลายจารีตประเพณีอันดีงามวัฒนธรรมของคนไทย จะไปแบ่งแยกดินแดน ชักศึกเข้าบ้าน เต็มไปหมดเท่าที่จะอ้างได้ ถ้าธงมันมีสำหรับ ส.ว.จำนวนหนึ่ง ซึ่งเมื่อวานนี้ หลายกระแสข่าวตรงกันว่าในรอบ 3-4 วัน มีการเคลื่อนไหวจากขั้วอำนาจเก่ากดดัน ส.ว.เป็นรายคน เพื่อควบคุมเสียง ส.ว.และหวังพลิกขั้วรัฐบาลอีก ไอ้ที่พูดมันฉากหน้า แต่ข้างหลังใหญ่กว่านั้น ทั้งขั้วอำนาจเก่า ทั้งกลุ่มทุนใหญ่ที่ไม่ต้องการเห็นก้าวไกลเป็นรัฐบาล” นายชัยธวัช กล่าว
สำหรับผลคะแนนที่ออกมา นายชัยธวัช กล่าวว่า ส่วนหนึ่งมาจาก ส.ว. ที่แสดงเจตจำนงมาตั้งแต่ต้น และส่วนหนึ่งมาจากการประสานพูดคุย แต่ต้องยอมรับว่า กระแสกดดัน ส.ว. ในช่วงโค้งสุดท้าย มีทั้งการข่มขู่ และกระแสข่าวการให้เสนอผลประโยชน์ต่างๆ เป็นปัจจัยหลักทำให้ ส.ว. หลายคนเปลี่ยนใจ
นายชัยธวัช กล่าวว่า เราไม่รู้ว่าจากผลการโหวตเมื่อวานถึงครั้งหน้า สังคมและประชาชนจะมีท่าทีอย่างไร ถ้ามีความเห็นเด่นชัดอาจเป็นส่วนหนึ่งทำให้ ส.ว.จำนวนหนึ่งเปลี่ยนใจก็ได้ และจะทำความเข้าใจเพิ่มเติม รวมถึงจะได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อไทยด้วย
“ตอนนี้คิดเดินหน้าให้เต็มที่สุด รับผิดชอบเสียงของประชาชนที่มอบให้เราให้ดีที่สุดก่อน ยังไม่ถอดใจ ถ้าประชาชนไม่ถอดใจ เราก็ไม่ถอดใจ เชื่อว่าถ้า 8 พรรคจับมือกันแน่น จะยังไปต่อกันได้” นายชัยธวัช กล่าว