“เขียนตามที่เชื่อ”! “สมศักดิ์ เจียม” อบรม “ด้อมส้ม” ไม่เห็นด้วย ไร้สาระ เสียเวลา กรณีรุมโจมตี “แสนดี” ลูกชาย “ชัชชาติ” วิจารณ์ก้าวไกล ทั้งติดแฮชแท็ก จนขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1 ชั่วข้ามคืน ทำให้ต้องออกมาขอโทษ
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (18 ก.ค. 66) เพจเฟซบุ๊ก Somsak Jeamteerasakulup ของนายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้ต้องหาคดี ม.112 ลี้ภัยในฝรั่งเศส โพสต์ภาพ พร้อมข้อความ ระบุว่า
“นี่เป็นการเขียนของแสนดี ลูกชายชัชชาติ
ผมขี้เกียจแปลทั้งหมด เอาข้อสรุป (ข้อ 8-9 ) ก็แล้วกัน
“โดยสรุป ไม่มีใครให้ต้องการพวกคุณ [พรรคก้าวไกล] มีอำนาจ. มีแต่พวกวัยรุ่นสารเลวและเด็กๆ ที่ไม่เชื่อฟังเท่านั้น.”
“พรรคของคุณเพิ่งมีอายุสองปี [sic] คุณได้ทำอะไรบ้างในระยะห้าปีมานี้? ถูกคดีฟ้องร้องคดีแล้วคดีเล่า. ผู้นำสามคนของคุณถูกแบนเป็นเวลาหนึ่งทศวรรษ และพิธาเองก็มีโอกาสอีก”
ผมได้แต่ขำ หุหุ คนเขียนนี่ช่างเหลือขอเสียจริง!”
ต่อมา “สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล” ได้โพสตเฟซบุ๊ก Somsak Jeamteerasakul อีกว่า
“แสนดีเขียนตามที่เชื่อ (ซึ่งก็ตรงกับหลายๆๆ คนในฝั่งนั้น)
พวกเชียร์ส้มเข้าไปโจมตี
แสนดีร้องไห้ขอโทษ
ผมไม่รู้จะพูดอะไร นอกจากว่าไร้สาระดีเมืองไทย เชื่อก็ควรยืนยันที่ตัวเองเชื่อ คนโจมตีนี่ ไม่เห็นด้วย ก็แค่ยักไหล่ ใครที่เขียนโจมตีอย่างไม่มีวัฒนธรรม ก็เยาะหยัน
เสียเวลาฉิบ”
อย่างไรก็ตาม จากกรณี นายแสนปิติ สิทธิพันธุ์ หรือ “แสนดี” บุตรชาย นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ออกมาวิจารณ์พรรคก้าวไกล และพฤติกรรมกองเชียร์อย่างรุนแรง
โดยโพสต์ข้อความภาษาอังกฤษผ่านทางอินสตาแกรม ทำให้เจอทัวร์ด้อมส้มรุมถล่มโจมตีอย่างหนัก ติดแฮชแท็ก #แสนดี #แสนปิติ ขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1 ชั่วข้ามคืน จนกระทั่งนายแสนปิติได้โพสต์เฟซบุ๊กขอโทษในประเด็นดังกล่าว และยืนยัน แค่ต้องการแสดงความคิดเห็นอย่างเสรีเท่านั้น ก่อนจะปิดไอจีไป
ล่าสุด นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า เมื่อเช้าผมได้ให้สัมภาษณ์คุณสรยุทธ เรื่องแสนดี ขอบคุณทางเพจ Poetry of Bitch ที่สรุปใจความออกมาได้ดี เลยเอามาฝากให้พวกเราที่ยังไม่ได้ฟัง ขอบคุณสำหรับทุกๆ ความเห็นนะครับ
สำหรับเพจ Poetry of Bitch ระบุว่า “ชัชชาติ” ให้สัมภาษณ์เรื่องโพสต์ของ #แสนดี
1. ไม่มีอินสตาแกรมเลยไม่รู้ว่าแสนดีโพสต์อะไร จนราวๆ 1 ทุ่ม มีคนไลน์มาบอกว่า แสนดีโพสต์แรงและส่งมาให้ดู
2. พอเห็นโพสต์ก็ตกใจและไลน์หาลูก บอกว่า ให้ใจเย็นๆ อย่าโพสต์เรื่องการเมืองมาก เราแสดงความคิดเห็นได้ แต่ต้องใช้คำพูดที่เหมาะสม สร้างสรรค์ ไม่ใช่ไปว่าคนอื่น และถ้ารู้สึกผิดก็ควรขอโทษ
3. ไม่ได้บังคับให้ลูกขอโทษ แต่บอกให้เขาตัดสินใจเอง เพราะอยากให้มันออกมาจากใจ และดีใจที่เห็นเขาโพสต์ขอโทษ หลังขอโทษแสนดีบอกว่ารู้สึกดีขึ้น เมื่อเช้าเขามาบอกว่าเสียใจในสิ่งที่โพสต์ไป และช่วงนี้จะหยุดโพสต์
4. ไม่ได้เห็นด้วยกับทุกอย่างที่ลูกโพสต์ และบางอย่างลูกก็ใช้คำพูดที่ไม่เหมาะสม อยากให้เขาโพสต์เรื่องสร้างสรรค์ซึ่งเป็นแนวทางที่ปฏิบัติมาตลอด
5. คำพูดเมื่อพูดออกไปแล้วมันเป็นนายเรา การที่แสนดีโดนต่อว่ากลับ มันก็เป็นกรรมที่เกิดจากการกระทำ เราต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ทำ และเรียนรู้ว่า ถ้าเราไม่รอบคอบมันจะมีผลกระทบกลับมา
6. ไม่มีข้ออ้างใดๆ สำหรับเรื่องนี้ จะอ้างว่า เด็กก็ไม่ได้ เพราะไม่เด็กแล้ว อายุ 23 เป็นผู้ใหญ่แล้ว จะอ้างว่าอยู่ต่างประเทศนานก็ไม่ได้ เพราะไปอยู่ต่างประเทศแค่ 3 ปี อยู่เมืองไทยเยอะกว่า
7. “ผมขอโทษแทนลูกไม่ได้ แต่จะขอโทษในส่วนที่ผมบกพร่องไป ผมเองก็มีส่วนผิดที่ไม่ได้คุยกับลูกมากพอ ต่อไปจะคุยและใช้เวลากับลูกให้มากขึ้น เรื่องนี้เป็นบทเรียนสำคัญของทั้งพ่อทั้งลูก”
สรุปและเรียบเรียงจากรายการ “กรรมกรข่าว คุยนอกจอ”