กลายเป็นเรื่องราวบานปลายใหญ่โตแค่เพียงไม่กี่นาที กรณีที่ แสนดี-แสนปิติ สิทธิพันธุ์ อดีตผู้ช่วยหาเสียงของพรรคเพื่อไทย โพสต์ทุกข้อและประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์ของพรรคเพื่อไทยเป็นภาษาอังกฤษ
ข้อความว่า “ผมขอพูดอะไรตรงๆ หน่อยนะ ในฐานะผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทยและมีแนวคิดเดียวกัน
1. การแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 จะไม่เกิดขึ้น
2. การแก้ไขกฎหมายที่เป็นที่ถกเถียงจะไม่เกิดขึ้นในห้วงเวลานี้
3. พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ไม่มีทางได้เป็นนายกรัฐมนตรี ไม่มีวัน
4. ตราบใดที่พรรคก้าวไกลยังคงหมกมุ่นกับการฝืนส่งพิธาเป็นนายกฯ คุณจะไม่มีวันชนะเลย
5. ก้าวไกลไม่ได้ชนะแบบแลนด์สไลด์ พรรคก้าวไกลและเพื่อไทยต่างกันแค่ 10 เสียง รอบของคุณจบแล้ว
6. ส.ว.ไม่สนใจข้อเรียกร้องหรือการประท้วงหรอก เพราะพวก ส.ว.ยังอยู่ในอำนาจต่ออีก 1 ปี เลือกตั้งครั้งหน้าลองชนะให้ได้สัก 65% เหมือนตอนพรรคไทยรักไทยปี 2548 สิ แล้วผมจะทบทวนจุดยืนตัวเองอีกครั้งหนึ่ง
7. พรรคก้าวไกลไม่มีนโยบายเศรษฐกิจที่เป็นไปได้ เพราะนายทุนหรือองค์กรอื่นๆ ขนาดใหญ่ไม่ต้องการให้ก้าวไกลอยู่ในอำนาจ เกษตรกรต้องการนโยบายที่จ่ายเงินโดยตรง ไม่ใช่แนวคิดเรื่อง Gender และการปลุกปั่นที่ไร้สาระ
8. กล่าวโดยสรุป ไม่มีใครต้องการให้ก้าวไกลขึ้นเป็นรัฐบาล มีแค่เด็กเหลือขอและเด็กที่ไม่เชื่อฟังเท่านั้น
9. พรรคก้าวไกลมีอายุแค่ราว 2 ปี แล้วพรรคทำอะไรในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาล่ะ? มีแต่โดนคดีความ ผู้นำพรรคที่เป็นผู้บริหารสูงสุด 3 คน ก็ถูกจำกัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 10 ปี แล้วพิธาก็อาจจะโดนด้วยเหมือนกัน
จนเกิดเป็นกระแสดรามา เกิดทัวร์ลงจากกลุ่มเยาวชนด้อมส้ม มีการโพสต์โต้กลับกันด้วยข้อความรุนแรงนั้น
ล่าสุด แสนดีได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวอีกครั้ง มีข้อความว่า "I am so sorry I am a burden to all of you แปลได้ว่า "ผมขอโทษจริงๆ ที่ผมเป็นภาระให้กับพวกคุณทุกคน" และ Thank you all for the support krub" แปลได้ว่า "ขอบคุณทุกท่านที่สนับสนุนครับ"แถมยังมีการอัดคลิปขอโทษเป็นภาษาอังกฤษ
ท้ายคลิปเสียใจจนร้องไห้ออกมา และยังบอกอีกด้วยว่า "พูดให้ชัดขึ้น ผมคิดว่านโยบายพรรคก้าวไกลเป็นอะไรที่มีความเป็นไปได้ มีการเปลี่ยนแปลง และมีความสร้างสรรค์" วอนสังคมให้อภัย อันที่จริงประชาธิปไตย เราต้องเปิดใจความเห็นต่าง อย่าถึงกับต้องเอาเป็นเอาตาย แสดงความเห็นกันหนักหน่วงขนาดนี้ ทั้งๆ ที่ เพื่อไทยก็พยายามสนับสนุน พิธา-ก้าวไกลตาม MOU จนสุดตัวอยู่แล้ว ขอให้ด้อมส้มหรือ FC พิธาเปิดใจรับฟังคนอื่นบ้าง
ส่วนแสนดี แสนปิติ สิทธิพันธุ์ น้องก็ออกมาขอโทษขอโพยร้องไห้หลั่งน้ำตาด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์แล้ว และถึงจะเป็นบุตรชายคนเดียวของผู้ว่าฯ กทม.ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณชัชชาติผู้เป็นพ่อจะเลี้ยงดูตามใจไม่อบรมสั่งสอน ทำไมถึงต้องกล่าวหากันถึงขนาดนี้ อย่าให้การแต่งตั้งนายพิธา-รัฐบาลก้าวไกล ต้องมีบรรยากาศก้าวร้าวรุนแรงแบบนี้อีกเลย