ข่าวปนคน คนปนข่าว
**งานนี้งดกระเช้า! ส.ว. “วิวรรธน์ แสงสุริยะฉัตร” ทายาทหมอเส็ง จัดอาญา-แพ่ง ทัวร์ด้อมส้มรุมด้อยค่าธุรกิจสมุนไพรของตระกูล
ฟาดงวงฟาดงา อาละวาด จัดทัวร์ไปลงคนที่ “เห็นต่าง” จนติดเป็นนิสัยถาวร แก้ไม่ได้แล้วกระมังสำหรับบรรดา “ด้อมส้ม” ที่ไม่มูฟออนจากกรณี “แดดดี้พิธา” แพ้โหวตในสภาเป็นได้แค่ “นายกทิพย์” หงุดหงิด โมโหโกรธาต่อเนื่อง เที่ยวล่าบูลลี่ คุกคาม ส.ว.- คนใกล้ตัว เลยเถิดไปถึงธุรกิจของตระกูล ส.ว.คนที่ไม่โหวตให้ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล
ธุรกิจหรือที่ไปเกี่ยวข้องของ ส.ว.หลายคน โดนผลกระทบไปเต็มๆ หนึ่งในนั้น คือ “วิวรรธน์ แสงสุริยะฉัตร” ส.ว. ทายาท “หมอเส็ง” หรือ ฉัตรชัย แสงสุริยะฉัตร เจ้าของประโยคคุ้นหูตามโฆษณาสื่อต่างๆ ที่ว่า “เรื่องสมุนไพรไว้ใจผม...หมอเส็ง”
เจ้าตัวปกติไม่ค่อยออกสื่อ ครานี้น่าจะอดทนถึงขีดสุด จึงออกมาเคลื่อนไหวโดยว่า ไม่ได้เกี่ยวกับธุรกิจของพ่อ “หมอเส็ง” เลย ตัวเองเป็นทนายความ เปิดสำนักงานทนายความมา 30 ปีแล้ว ขณะที่ธุรกิจสมุนไพร ยาแผนโบราณ ภายใต้แบรนด์ “หมอเส็ง” ส่วนใหญ่เป็นพี่น้องดูแลกันไป
หลังจากโหวตไม่รับ “พิธา” เลยโดนทั้งส่วนตัว และธุรกิจของตระกูล
เอ่ยถึง “หมอเส็ง” พื้นเพอยู่ที่บางคล้า เมืองแปดริ้ว ก็ต้องบอกว่าเป็น หมอแผนโบราณ การแพทย์แผนตะวันออก และเป็นที่ปรึกษาคลินิกสุขภาพไตรเวชศาสตร์ เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรจีน และสมุนไพรไทย ที่คนไทยรู้จักกันดี
กำเนิดตรา “หมอเส็ง” มาจากร้านขายยาสมุนไพรรักษาโรคทั่วไป โดยตระกูลของหมอเส็งเป็นหมอยา มีความชำนาญด้านการใช้สมุนไพรมาเป็นเวลานาน ต่อมาขยายธุรกิจเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ก่อตั้งบริษัท ฉัตรชัยแพทย์แผนโบราณ จำกัด เพื่อจัดจำหน่ายยาแผนโบราณให้กับร้านขายยาทั่วไป พัฒนาจนกลายเป็น บริษัท หมอเส็ง (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพรไทยตราหมอเส็ง ธุรกิจหลายพันล้าน
เรียกว่า ด้อมส้มจัดทัวร์ลงด้วยข้อความโจมตีเป็นพันๆ กล่าวหาว่า ยาไม่ดี กินไม่หาย อย่าไปซื้อ กดดันคุกคามให้ปิดเพจไปเลย ซึ่งเกินเลยไปมาก ดูหมิ่นดูแคลน “หมอเส็ง” ผู้ที่มีอีกฉายาว่า “หมอยาพันล้าน” ทายาทอย่าง “วิวรรธน์” จึงทนไม่ไหว ปรึกษาส.ว.ที่ได้รับผลกระทบด้วยกัน หารือนักกฎหมาย ตำรวจ นักวิชาการ น่าจะแบ่งเรื่องได้ 2 เรื่อง คดีอาญา และคดีแพ่ง
งานนี้ชัดๆ ก็คือ งดกระเช้าขอโทษแน่นอน โดยสั่งให้เจ้าหน้าที่แคปความเห็นของคณะทัวร์ให้หมด กี่พัน กี่หมื่นข้อความ แคปหมด ถ้าเข้าข่ายอาญาก็จัดการอาญา ถ้าไม่เข้าข่าย ก็จะดึงไปคดีแพ่ง
“ทายาทหมอเส็ง” บอกด้วยว่า ไม่ต้องกลัวโดนทุกคน! ด้อมส้มโปรดทราบ!!
“วิวรรธน์” ระบุด้วยว่า เป็นทนายมาหลายสิบปี รักษาสิทธิผู้อื่นได้ตลอด สิทธิตัวเองทำไมจะรักษาไม่ได้ ดังนั้น ทัวร์ลงมาเถอะ ไม่ตอบโต้ แต่ถ้าไม่เป็นความจริง ทำให้เพจเสียหาย หรือทำให้การดำเนินธุรกิจเสียหาย ไม่ผิดแพ่ง ก็อาญา ผิดแน่ๆ
ว่าไปแล้ว นี่จะไม่ใช่ครั้งแรกที่ “ส.ว.วิวรรธน์” โดนแซะ โดนฟาด ตามราวีจากด้อมและพรรคส้ม
ถ้าจำได้ “รังสิมันต์ โรม” ส.ส.พรรคก้าวไกล ก็เคยออกล่า “วิวรรธน์” และ ส.ว.คนอื่นๆ ที่เข้าไปมีสายสัมพันธ์อันดีกับ เครือข่ายมูลนิธิป่ารอยต่อฯของ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
“รังสิมันต์” เคยหยิบกรณี “วิวรรธน์” ซึ่งเคยเป็นสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ในสมัย คสช. และได้เป็น ส.ว. ชุดแรก ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 โดยอ้างว่า หลังจากเป็น ส.ว. ท่าน ส.ว.วิวรรธน์ แสงสุริยฉัตร ได้บริจาคเงินในนามบริษัทในเครือหมอเส็งกรุ๊ป จำกัด ให้มูลนิธิป่ารอยต่อ 2,000,000 บาท โดยที่ รังสิมันต์ ตั้งคำถาม ว่า นี่คือการตอบแทนกับตำแหน่ง ส.ว.ใช่หรือไม่?
จากวันนั้นถึงวันนี้ ที่ส.ว.ไม่โหวตให้ “พิธา” จึงไม่น่าประหลาดใจแต่อย่างใดที่ด้อมส้มจะล็อกเป้าได้เร็ว ตามล่าตามล้าง ส.ว. ทายาทหมอเส็ง ตามลูกพี่ รังสิมันต์ กรุยทาง
ทว่า ตอนนี้ต่างกับตอนนั้น “วิวรรธน์” ลุกขึ้นมารักษาสิทธิตัวเอง เตรียมมอบคดีทั้งอาญา และแพ่ง ก็ต้องบอกว่า บันเทิงละด้อมส้ม ทั้งหลาย!!
**ก้าวไกล ส่งพ่อสื่อ “เสรีพิศุทธ์” ต่อสายอ้อนขอเสียง ปชป.- ชทพ. หนุน “พิธา” เป็นนายกฯ แต่ไม่มีใครตอบรับ
ชัดเจนแล้วว่า 8 พรรคร่วม มีมติ เสนอชื่อ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ให้รัฐสภาโหวต เป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง หลังจากรอบแรก มีเสียงสนับสนุนแค่ 324 เสียง ไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนดคือ 376 เสียง โดยมี ส.ว.เห็นชอบเพียง 13 เสียง
โหวตรอบใหม่นี้ “ก้าวไกล” ไม่หวังพึ่งเสียง ส.ว.อีกแล้ว หลังจากเปิดปฏิบัติการ “ล่าแม่มด” เปิดโปง ส.ว.ที่ถูกล็อกเป้าถล่ม ว่าใครทำธุรกิจอะไรอยู่ เมีย ลูก หลาน เป็นใคร ไปมีหุ้นส่วนทางธุรกิจที่ไหนบ้าง อย่าเข้าไปข้องแวะ อุดหนุน
เล่นหนักถึงขนาดแฉว่า ส.ว.คนไหน มีเมียน้อยบ้าง มีการเอารูปมาแขวนไว้ในโซเชียลฯ บอกว่านี่คือหลักฐาน จริงไม่จริงไม่รู้ เพราะเบลอหน้าเอาไว้ แต่ก็เรียกทัวร์ด้อมส้มมาลงกระหน่ำได้
นอกจากนี้ ก้าวไกลยังเสนอญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 เพื่อ “ปิดสวิตช์ ส.ว.” อย่างถาวร ตามที่ “พิธา” บอกว่าจะต่อสู้ใน 2 สมรภูมิ คือ สู้ทั้งโหวตนายกฯ และ ยกเลิกมาตรา 272
เป้าหมายที่ก้าวไกลหวังจะดึงเสียงมาช่วยหนุน คือ พรรคร่วมรัฐบาลเดิมบางพรรค ทั้งที่กวาดสายตามองดูแล้ว ไม่น่าจะมีพรรคไหนโอเคด้วย
มีรายงานว่า ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แกนนำ 8 พรรคร่วม รวมทั้งแกนนำพรรคก้าวไกล อย่าง “ชัยธวัช ตุลาธน” เลขาธิการพรรค รวมทั้งตัว “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” เอง ได้พยายามต่อสายตรงหาแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลชุดปัจจุบัน ซึ่งถือว่าเป็นขั้วตรงข้าม เพื่อขอเสียงสนับสนุนในการโหวตนายกฯ รอบสอง โดยเป็นการพูดคุยในท่าทีที่อ่อนลง เป็นกันเอง แต่ยังไม่มีใครตอบรับ
เรื่องนี้ไม่ใช่ข่าวมโน แต่ได้รับการยืนยันจากปากของ “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส” หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทยว่า ได้รับคำขอจากคนในพรรคก้าวไกล ไหว้วานให้ช่วยติดต่อไปยังพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ขอเสียงสนับสนุน “พิธา”หน่อย ... ตอนนี้ยังรอฟังคำตอบอยู่ ส่วนจะต่อรองกันอย่างไร ตนเองคงให้คำตอบไม่ได้
แต่ถ้า19 ก.ค.นี้ ยังโหวตไม่ผ่านอีก “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์” ก็แนะแบบเลิกเกรงใจกันว่า ก้าวไกลควรจะพอได้แล้ว และเสียสละให้พรรคเพื่อไทยได้มีโอกาสจัดตั้งรัฐบาลบ้าง เพื่อเห็นแก่บ้านเมือง ส่วนเพื่อไทย จะไปรวมกับใคร จะไปจับฝ่ายไหน เป็นเรื่องของเขา เชื่อว่าเพื่อไทยจะทำให้ประเทศชาติเดินต่อไปได้...
จะมาอ้างผลโพล สนับสนุนให้โหวตไปเรื่อยๆ จน ส.ว.หมดอายุนั้น มันเป็นไปไม่ได้ เพราะตอนนี้ใครๆ ก็กำลังต้องการรัฐบาลมาบริหารประเทศ
เรื่องนี้ “วราวุธ ศิลปอาชา” หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ที่มี ส.ส.อยู่ 10 เสียง บอกว่า เมื่อช่วงสายวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์” ได้โทรศัพท์มาหาจริง และบอกว่า มีการส่งเทียบเชิญจากก้าวไกล มายังชาติไทยพัฒนา ชวนไปร่วมรัฐบาล จึงตอบไปว่า เรื่องใหญ่อย่างนี้ คงไม่สามารถตอบรับได้ทันที ต้องขอนำเข้าหารือในที่ประชุมพรรค หารือกับ ส.ส.ในพรรคก่อนว่าแนวทางเป็นอย่างไร และได้ยืนยันกลับไปในเบื้องต้นว่า แนวทางของชาติไทยพัฒนา คือ ไม่แตะมาตรา 112 การเชิดชู เคารพเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นแนวทางหลักของพรรคที่ยังยึดมั่น
“วราวุธ” บอกว่าโหวตครั้งที่แล้ว ชาติไทยพัฒนา “งดออกเสียง” ไม่ได้แปลว่า เราไม่มีความเห็น แต่เราให้เกียรติคนที่เลือกพรรคก้าวไกลเข้ามา และเราให้เกียรติพี่น้องประชาชนที่เลือกทั้งพรรคเล็ก และพรรคใหญ่ให้เข้าสภา จึงได้งดออกเสียงไป แต่ครั้งใหม่นี้คงไม่งดออกเสียงแล้ว ส่วนจะ “โหวตสวน” หรือไม่ ขอหารือกันก่อน
ขณะที่ “กัญจนา ศิลปอาชา” ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ตอบแบบไม่อ้อมค้อมผ่านเฟซบุ๊ก ว่า... “ว่าจะไม่พูดการเมือง แต่จำเป็นต้องชี้แจง … กรณีมีข่าวว่า วราวุธบอกว่าเสรีพิศุทธ์ ทาบทามร่วมรัฐบาลก้าวไกล...ข่าวเรื่องนี้ไม่ได้ออกจากเราเป็นต้นทาง และขอยํ้าว่า จุดยืนเราชัดเจนเสมอมา คือ ไม่แตะต้อง ม.112
อย่างนี้ไม่ต้องเดาแล้วว่า ชาติไทยพัฒนา จะโหวตสวนหรือไม่ !!
สำหรับท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ ที่มี ส.ส.อยู่ 25 เสียง นั้น ยืนยันตั้งแต่ต้น และยืนยันมาตลอดว่า จะไม่ร่วมกับ ก้าวไกล ที่มีนโยบายยกเลิก หรือแก้ไข ม.112 เพื่อบ่อนเซาะ ทำลายสถาบัน
ดังนั้น ความหวังของก้าวไกลที่จะดึง 35 เสียง จากทั้งสองพรรคดังกล่าว ไปเป็นแรงหนุนส่งให้ “พิธา” ขึ้นนั้งเก้าอี้นายกฯ คงต้องวืดอีกครั้ง