xs
xsm
sm
md
lg

"ธนกร" แนะ "พิธา" หยุดหลอกตัวเองเสนอชื่อโหวตอีกรอบ ถึงทางตันต้องเปิดทางพรรคอันดับ 2-3

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"ธนกร" บอก "พิธา" อย่าหลอกตัวเอง ยื่นเสนอชื่อโหวตนายกฯ ซ้ำ เหตุเอา ม.112 เป็นเงื่อนไขพิเศษ ลั่นยอมไม่ได้ ชี้หาก ก.ก.ถึงทางตัน ต้องเปิดทางพรรคอันดับ 2-3 ตั้งรัฐบาล ไม่ปฏิเสธ "บิ๊กป้อม -เสี่ยหนู" เป็นนายกฯ ขออย่าถ่วงเวลานาน

วันนี้(17 ก.ค.) เมื่อเวลา 10.15 น.ที่ ทำเนียบรัฐบาล นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรี ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติให้สัมภาษณ์ ถึงกระแสข่าวว่า ฝ่ายเสียงข้างน้อยจะเสนอชื่อแข่งกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกฯจากพรรคก้าวไกล ว่า ไม่ได้ยินกระแสข่าวนี้ ซึ่งหลายพรรค ก็ยืนยันตั้งแต่ต้นแล้วว่าไม่เสนอ คิดว่าประเด็นนี้ไม่น่าจะมีอะไรแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่ส.ว.ยกข้อบังคับการประชุมที่ 41 ว่าไม่สามารถเสนอชื่อนายพิธา ซ้ำได้ เพราะเป็นการเสนอญัตติซ้ำ นายธนกร กล่าวว่า ตนยืนยันตั้งแต่ต้น ว่าการเสนอชื่อนายกฯ ควรเสนอแค่ครั้งเดียว เพราะทุกพรรคการเมืองหรือส.ส.และส.ว. ทราบวิสัยทัศน์ของนายพิธา แล้ว ครั้งแรกไม่ผ่านและเสียงขาดหายไปเยอะมาก ดังนั้นจึงควรเสนอแค่ครั้งเดียว และเปิดโอกาสให้พรรคอันดับ 2 หรือ 3 ในการเสนอชื่อนายกฯต่อไป เพราะไม่เช่นนั้นก็จะเสนอไปเรื่อยๆ ซึ่งจะทำให้เสียเวลาสภา ส่วนการที่ส.ว.ออกมาระบุว่าญัตติเสนอซ้ำไม่ได้นั้น ตรงนี้เป็นข้อกฎหมายซึ่งต้องไปดูว่าเป็นอย่างไรบ้าง

เมื่อถามว่าการเปิดทางให้พรรคอันดับ 2 จะต้องมีการยกเลิก MOU ของ 8 พรรคหรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า ตนไม่อยากไปก้าวล่วง แต่วันนี้เรารู้อยู่แล้ว และคิดว่าส.ส.ทุกพรรค ไม่ว่าพรรคที่จะเป็นฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน ก็ทราบข้อมูลในเชิงลึกอยู่แล้ว ถ้ายังมีพรรคก้าวไกลร่วมอยู่ในรัฐบาล ส.ว.ก็ไม่โหวตให้อยู่แล้ว และควรเลิกอ้าง 14 ล้านเสียงได้แล้วตนเชื่อว่าใน 14 ล้านเสียง มีเป็นล้านๆคนที่ไม่อยากให้มีการแก้ ม.112 ดังนั้นพรรคก้าวไกลรู้อยู่แล้วว่าเป็นนายกฯไม่ได้เพราะอะไร และเมื่อพรรคก้าวไกลไม่ถอย ฝั่งอื่นก็คงไม่ถอยเช่นเดียวกัน

เมื่อถามว่าพรรครวมไทยสร้างชาติร่วมมือกับพรรคเพื่อไทยได้หรือไม่หากมีการล้ม MOU ของ 8 พรรค นายธนกร กล่าวว่าเรื่องนี้ ต้องคุยกันในพรรค ตนมองว่าสถานการณ์การเมืองเปลี่ยน เงื่อนไขไปเยอะ เพราะหลายพรรคพูดจากันได้มากขึ้น และพรรคร่วมรัฐบาลเก่าก็คุยกันตลอดเวลา โดยเฉพาะช่วงก่อนและหลังการประชุมครม. มีการคุยและติดตามสถานการณ์บ้านเมืองตลอด
เมื่อถามว่า คิดว่าช่วงเวลาไหนที่ฝั่งรัฐบาลเดิมจะเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีลงแข่ง นายธนกร กล่าวว่า ถ้าพรรคอันดับ 1 และ 2 ไม่ได้ ก็เป็นความชอบธรรมของพรรคอันดับ 3 คือพรรคภูมิใจไทย ส่วนตัวคิดว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกและ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ก็เป็นนายกได้

ผู้สื่อข่าวถามว่าหากวันที่ 19 ก.ค.นี้ยังไม่ได้นายกฯ และมีการโหวตอีกครั้งก็ถือว่าถึงเวลาแล้วใช่หรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า คิดว่าไม่ควรใช้เวลานานเกินไป เราอย่าหลอกตัวเองดีกว่า ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าการเมืองจะเดินไปในทิศทางไหน การเดินเกมในลักษณะ 2 ขา ที่ฝั่งหนึ่งไปขอเสียงส.ว. ขณะที่อีกฝั่งหนึ่งมีมวลชนไปบูลลี่ ล่าแม่มด หรืออะไรต่างๆ มีการปลุกม็อบลงถนน คิดว่าเป็นเรื่องไม่ควร เราน่าจะเข้าใจระบบการเมือง ถ้าไม่ได้ก็ไปเป็นฝ่ายค้าน ตนบอกว่าที่ผ่านมา พรรคก้าวไกล ทำหน้าที่ในการตรวจสอบรัฐบาลได้ดี ดังนั้นจึงเชื่อว่าหากทำหน้าที่ฝ่ายค้าน รอบหน้าพารรคก้าวไปก็อาจจะได้มากกว่าเดิมก็ได้ ในเมื่อท่านเป็นนายกไม่ได้ก็ปล่อยให้การเมืองเดินของมันไป อย่าไปปลุกกระแสมวลชนลงถนน วันนี้บ้านเมืองมีความสงบ หลายอย่างกำลังดีขึ้น สิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้วางรากฐานไว้ ดังนั้นคิดว่าควรจะค่อยๆพูดจากัน และรักษา ความสงบของประเทศไว้ดีกว่า

เมื่อถามว่า การล่าแม่มดจะทำให้ส.ว.กลัว หรือ มาโหวตให้ นายธนกร กล่าวว่า คิดว่าผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองไม่ได้กลัว และวันนี้กฎหมายแรง พรบ.คอมพิวเตอร์ฯ ทำให้หลายคนติดคุก

และมีการฟ้องร้องกันหรือไปขอโทษกันมากมาย เวลาถูกดำเนินคดี ก็ไม่มีใครไปช่วย จึงอยากฝากว่า ฝ่ายตนเอง ก็ไม่อยากให้มีมวลชน หรือไปเคลื่อนไหวในโซเชียลมีเดีย คนไทยด้วยกันควรจะพูดจากันดีกว่า การเมืองก็ว่ากันไป แต่ประเทศต้องมีนายกรัฐมนตรี ตนไม่อยากให้ใช้เวลานาน เพราะภาคเอกชนและนักธุรกิจต่างๆอยากให้มีรัฐบาลเร็วๆ

ผู้สื่อข่าวถาม ถึงกรณีที่นายภูมิธรรม เวชชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ออกมาปูดว่า ขั้วรัฐบาลเดิม มีการซื้องูเห่า นายธนกร กล่าวว่า ไม่มีหรอก ลูกไม้เดิมๆไม่มีแล้ว ไม่มีใครเขาทำแบบนี้แล้ว การที่จะดึง 70 เสียงจากส.ส.ไม่ใช่เรื่องง่าย เรื่องนี้ไม่ควรมีแล้ว เป็นการพูดเพื่อดิสเครดิตอีกฝ่าย

เมื่อถามว่าเห็นอย่างไรที่จะมีการเสนอแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย นายธนกรกล่าวว่า การเสนอเป็นไปตามกลไกของสภา ซึ่งทำได้ แต่ถ้ายังมีพรรคก้าวไกลร่วมรัฐบาลอยู่ ก็เป็นเงื่อนไขสำคัญ เพราะพรรคก้าวไกลต้องการแก้ ม.112 ดังนั้นจึงเป็นเงื่อนไขพิเศษที่ผ่านยาก ทุกคนก็ทราบอยู่แล้ว เรื่องนี้ต้องปรับ "ส่วนตัวคิดว่านายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรีได้ แต่ไม่ทราบว่ากลไกของพรรคถูกปกคลุมด้วยอะไร เท่านั้นเอง"

เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่พรรคก้าวไกลจะเป็นฝ่ายค้านพรรคเดียว ส่วนพรรคที่เหลือจับมือกันหมด นายธนกรกล่าวว่า เป็นไปได้หมด เรารู้อยู่แล้วว่าเงื่อนไขอยู่ตรงไหน ดังนั้นเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ทุกอย่างมันก็จบ ตอนนี้อาจต้องใช้เวลาอีกนิดหนึ่ง แต่ก็ไม่ควรจะใช้เวลามากเกินไป เพราะประชาชนรอนายกฯคนใหม่อยู่

เมื่อถามว่าคิดว่าประชาชนจะเข้าใจหรือไม่ นายธนกรกล่าวว่า เชื่อว่าประชาชนเข้าใจ ถ้านักการเมืองพยายามที่จะชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจ วันนี้โลกเปลี่ยนไปเยอะ ทุกคนรู้หมดว่าสถานการณ์ทางการเมืองจะไปในทิศทางไหน แต่ระบบที่ใช้ Social Media หรือ AI ไปสร้างความเกลียดชังในสังคมไปสร้างความเกลียดชังในสังคม เป็นเรื่องที่ไม่ควรทำแล้ว ถ้าพรรคอันดับ 1 ไม่ได้ก็ควรจะเป็นพรรคอันดับ 2 และอันดับ 3 ต่อไป ซึ่งทั้งพล.อ.ประวิตรและนายอนุทิน ก็สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้

"ไม่ได้เป็นรัฐบาลก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นจะตาย เป็นฝ่ายค้าน ก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลย ผมเองก็พร้อมเป็นฝ่ายค้าน วันนี้เรายังเป็นรัฐบาลรักษาการ แต่พรุ่งนี้ไม่ได้เป็น หรือจะเป็นยังไงก็ตามก็ถือเป็นเรื่องปกติ ชีวิตเราสามารถทำอะไรให้กับประชาชนและประเทศมากมาย อย่าไปยึดติดกับมันมาก"


กำลังโหลดความคิดเห็น