“ทิพานัน” เผย “ครม.พล.อ.ประยุทธ์” อนุมัติ 2 ร่าง พ.ร.ฎ. ปลดล็อกให้สิทธิประชาชนอยู่อาศัยทำกินได้ถูกกฎหมาย พร้อมจัดการสมดุลหน้าที่ในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติในเขตพื้นที่โครงการอนุรักษ์ฯ ใน 7 อุทยานแห่งชาติและ 7 เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า-เขตห้ามล่าสัตว์ป่า
วันนี้ (11 ก.ค.) น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม. มีมติรับทราบและอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกา 2 ฉบับ คือ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดโครงการอนุรักษ์และดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติภายในอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... และร่างพระราชกฤษฎีกากาหนดโครงการอนุรักษ์และดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าหรือเขตห้ามล่าสัตว์ป่า พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดโครงการอนุรักษ์และดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติภายในอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... ระยะเวลาโครงการ 20 ปีนับแต่ พ.ร.ฎ. ใช้บังคับ สำหรับพื้นที่โครงการ ใน 7 เขตอุทยานแห่งชาติ ได้แก่ 1. อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี 2. อุทยานแห่งชาติเขาสิบห้าชั้น จ.จันทบุรี 3. อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ จ.กาญจนบุรี 4. อุทยานแห่งชาติต้นสักใหญ่ จ.อุตรดิตถ์ 5. อุทยานแห่งชาติตาดหมอก จ.เพชรบูรณ์ 6. อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ และ 7. อุทยานแห่งชาติลานสาง จ.ตาก
สำหรับร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดโครงการอนุรักษ์และดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าหรือเขตห้ามล่าสัตว์ป่า พ.ศ. ....ระยะเวลาโครงการ 20 ปีนับแต่ พ.ร.ฎ. ใช้บังคับ สำหรับพื้นที่โครงการ ใน 7 เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า หรือเขตห้ามล่าสัตว์ป่า ได้แก่ 1. เขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำผาท่าพล จ.พิษณุโลก 2. เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี 3. เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทับพญาลอ จ.เชียงราย 4. เขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำประทุน จ.อุทัยธานี 5. เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูผาแดง จ. เพชรบูรณ์ 6. เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จ.อุทัยธานี และ 7. เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลำน้ำน่านฝั่งขวา จ.อุตรดิตถ์
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ประชาชนที่ได้รับประโยขน์ในสิทธิอาศัยและทำกินในเขตดังกล่าว ได้แก่ บุคคลธรรมดาสัญชาติไทยหรือได้ยื่นคำร้องขอสัญชาติไทยและอยู่ระหว่างรอการพิจารณาของพนักงานเจ้าหน้าที่ ที่เป็นผู้ไม่มีที่ดินทำกินและได้อยู่อาศัยหรือทำกินในเขตดังกล่าวภายใต้กรอบเวลาตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 41 (อยู่ในพื้นที่มาก่อนการประกาศเป็นพื้นที่อุทยานแห่งชาติ และ/หรือก่อนวันที่ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าฯ ใช้บังคับ) หรือตามคำสั่ง คสช. ที่ 66/2557 (เป็นผู้ยากไร้ ผู้ที่มีรายได้น้อย หรือผู้ไร้ที่ดินทำกินที่อยู่ในพื้นที่ก่อนวันที่ 17 มิ.ย. 57) และมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตพื้นที่โครงการหรือได้ครอบครองที่ดินรวมทั้งทำประโยชน์มาโดยต่อเนื่องและไม่มีที่ดินทำกินอื่น
การอยู่อาศัยทำกินในพื้นที่โครงการ อาทิ ครอบครองและใช้ประโยชน์ด้วยตนเอง, ไม่ได้มีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในที่ดิน, กำหนดพื้นที่ครอบครัวละไม่เกิน 20 ไร่ (ไม่เกิน 50 ไร่กรณีอยู่กันเป็นครัวเรือนตั้งแต่ 3 ครอบครัวขึ้นไป), ทำประโยชน์และอยู่อาศัยต่อเนื่อง ไม่ละทิ้งติดต่อกันเกิน 1 ปีโดยไม่มีเหตุอันสมควร, ไม่อนุญาตให้ซื้อ ขาย แลกเปลี่ยน ให้เช่า ให้เช่าซื้อ ให้ยืม หรือโอนการครอบครองให้บุคคลอื่นรวมถึงไม่บุกรุกขยายพื้นที่เพิ่มเติม โดยผู้เข้าร่วมโครงการอยู่อาศัยจะมีหน้าที่และส่วนร่วมในการอนุรักษ์ ฟื้นฟู ดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติ ระบบนิเวศ และความหลากหลายทางชีวภาพภายในเขตพื้นที่โครงการ
“รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ดำเนินการมาโดยตลอดในส่วนของแผนงานหรือนโยบายในการช่วยเหลือประชาชนที่ไม่มีที่ดินทำกินและได้อยู่อาศัยหรือทำกินในพื้นที่ดังกล่าว ร่าง พ.ร.ฎ 2 ฉบับนี้เป็นการสร้างสมดุลในการช่วยเหลือประชาชนให้มีที่อยู่อาศัยและทำกินที่ถูกต้องตามกฎหมายและยังให้การอนุรักษ์ธรรมชาติมีประสิทธิภาพ ซึ่งขั้นตอนต่อไปจะส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเพื่อดำเนินการต่อไป” น.ส.ทิพานัน กล่าว