ใครไม่อายผมอาย!! "สมยศ" อยู่ต่อ ชักฟีฟ่าเข้าบ้าน จับทีมชาติเป็นตัวประกัน!! สะพัด 'นวยนิ่ม" ชงอวยหวาน เบื้องหลังมติ-กรรมการสภาวงแตก ไขก๊อกไม่เอาด้วย

ข่าวปนคน คนปนข่าว


**ใครไม่อายผมอาย!! "สมยศ" อยู่ต่อ ชักฟีฟ่าเข้าบ้าน จับทีมชาติเป็นตัวประกัน!! สะพัด 'นวยนิ่ม" ชงอวยหวาน เบื้องหลังมติ-กรรมการสภาวงแตก ไขก๊อกไม่เอาด้วย

ดรามาไม่พัก หลังจาก "บิ๊กอ๊อด" พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ปากว่า “ขอลาออก” แต่ตาขยิบไม่ยอม ทำท่าให้คนเข้าใจว่าถูก 'ไล่ออก' เพราะ การเมืองแทรก

ทั้งที่จริง ตามคำขอของ "ลุงป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ให้ "บิ๊กอ๊อด" พิจารณาตัวเองที่ผลงานบรมห่วย ขณะที่ บิ๊กอ๊อด ก็ประกาศลาออกในเวลาต่อมา

แทนที่เรื่องจะจบกลับไม่จบ!!

และแล้วเรื่องก็ถูกตีโพยตีพายไปโยงการเมือง และ ฟีฟ่าจะแบนไทย จงใจก่อให้เกิดดรามาขึ้นมา

ท่าทีของ “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ เมื่อวาน (3ก.ค.) ยังให้สัมภาษณ์ว่า ลาออกแน่ แต่นู่น นี่ นั่น และ “ดร.ก้องศักดิ์ ยอดมณี” ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ยังไม่เซ็นใบลาออกให้

โอดครวญ ว่า ทุกคนรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับฟุตบอลไทย แต่ตนมีศักดิ์ศรี คุยกันส่วนตัวได้ ไม่ใช่วิจารณ์กันผ่านสื่อแบบนี้


"ถ้าให้ผมต้องทำร้ายความรู้สึก ความคาดหวังของคนไทย ผมไม่ทำหรอก แต่ขอให้ผมค้นพบทางออก เพราะว่าผมได้พูดไปแล้วว่าจะลาออก สิ่งที่แสดงออก หรือที่พูดไป เป็นยังไง ก็ให้ความเป็นธรรมกับผมด้วย อย่าทำร้ายเกียรติและศักดิ์ศรี เราก็คนเหมือนกัน"

พร้อมกับระบุว่า ได้เจอกับเมมเบอร์ฟีฟ่าแล้วคนหนึ่ง เขาบอกว่า เป็นการแทรกแซงล้านเปอร์เซนต์!!

ตามด้วยฟาดกลับ คนที่มาบอกว่าไม่ใช่การแทรกแซงนั้นเคงเป็นพวกไดโนเสาร์พันปี

เรียกว่า นาทีนี้ “บิ๊กอ๊อด” คิดอะไรก็ไม่ต้องเดาให้ยาก ดูจากอารมณ์ฟาดเหวี่ยง และคำพูด บอกให้รู้ ไม่ยอมกันง่ายๆหรอกลุง

งานนี้จึงมีดรามาตามมาต่อเนื่อง โดยที่แฟนบอลแสดงความเห็นไล่หลังท่าที “บิ๊กอ๊อด”บนโลกออนไลน์ จำนวนมาก

ส่วนใหญ่ออกมาสวนนายกฯ สมาคม เช่นว่า ควรออกตั้งนานแล้ว ไม่ใช่ให้ใครต้องมาพูด !!

เราเป็นคนก็ต้องมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี อย่ารอให้เขาไล่อีกรอบเลย แล้วก็อย่าเอาบอลไทยเป็นตัวประกัน ทำให้โดนต่างชาติแบนด้วย จากไปด้วยดี ทำคุณประโยชน์ อาจจะมีคนสรรเสริญเป็นครั้งสุดท้าย


ให้ความเป็นธรรมแฟนบอลไทยด้วย นายกสมาคมทำแฟนบอลผิดหวัง ผิดแล้วผิดอีก คนไทยอายกับผลงานบอลไทยหลายครั้ง นานเป็นปี ต้องทนเห็นนายกสมาคมคนนี้บริหารสมาคมด้วยความล้มเหลวเป็นส่วนใหญ่ ... ลาออกซะ ไม่ใช่เพราะประวิตรไล่ แต่เพราะแฟนบอลไล่

นี่เป็นความรู้สึกของแฟนบอล

แต่ฟังว่า ล่าสุดในการประชุมสภากรรมการที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ มีมติเป็นเอกฉันท์ ยับยั้งการลาออกของ “พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง” เเละให้ทำหน้าที่ไปจนครบวาระในวันที่ 11 ก.พ. 67 โดยมีเหตุผลที่จะไม่ให้ไทยต้องเสี่ยงกับการโดนฟีฟ่าลงดาบ

แว่วว่า เบื้องหลังก่อนลงมติ บอร์ดสภากรรมการวงแตก หลายคนวอล์กเอาต์ขอลาออก เพราะรับไม่ได้ที่มีคนชงมติให้สมยศ อยู่ต่อ และคนที่ชงอยากให้อยู่ต่อ โดยอวยสมยศมีคุณงามความดีเลอเลิศต่อวงการฟุตบอลไม่ใช่ใครที่ไหน เป็น อดีตบิ๊กตำรวจด้วยกัน นั่นคือ "นวยนิ่ม" พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน นั่นเอง!!

พูดง่ายๆว่า สมยศ ขออยู่ต่อ ผลงานจะห่วย คนจะไล่ จะไม่ไปไหนทั้งนั้น ลากชักฟีฟ่าเข้ามายุ่งกับเรื่องขอลาออก เพราะตัวเองสนิทสนมกับคนของฟีฟ่า แถมจับทีมชาติเป็นตัวประกันอีกต่างหาก ใช้พวกมากในสภาฯ ลากไป

หมากเกมนี้ของสมาคมฯ และบิ๊กอ๊อด ที่จบลงด้วยการอยู่ต่อ ต้องขอยืมคำของ พล.ต.อ.สมยศ เองที่แฟนบอลคุ้นๆ ว่า ..ใครไม่อายแต่ผมอาย!!


** รู้จัก “อาจารย์วันนอร์” ว่าที่ประธานสภาฯ ผู้มาแก้ปมขัดแย้ง ก้าวไกล-เพื่อไทย

ในที่สุดปัญหาการ “แย่งชิง” เก้าอี้ประธานสภาผู้แทนราษฎร ระหว่างพรรคก้าวไกล พรรคที่มีจำนวนส.ส.อันดับ 1 กับพรรคเพื่อไทย พรรคอันดับ 2 ก็ได้ข้อยุติร่วมกันว่า จะยกตำแหน่งนี้ให้กับ “อาจารย์วันนอร์” วันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ พรรคอันดับ 3 เพื่อภารกิจเฉพาะหน้า ผลักดัน “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” เป็นนายกรัฐมนตรี

ส่วนรองประธานสภาอันดับ 1 เป็นของพรรคก้าวไกล รองประธานสภาอันดับ 2 ของพรรคเพื่อไทย
คนรุ่นใหม่ “ด้อมส้ม” อาจไม่รู้จัก “อาจารย์วันนอร์” และคงข้องใจว่า ทำไม่พรรคก้าวไกลจึงยอมให้ “วันมูหะมัดนอร์ มะทา” มาเป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติตามที่พรรคเพื่อไทยเสนอมา

“วันมูหะมัดนอร์ มะทา” นักการเมืองมุสลิม แกนนำกลุ่มวาดะห์ ส.ส.11 สมัย เคยสังกัดมาแล้วหลายพรรคการเมือง เป็น รัฐมนตรีหลายกระทรวง และเคยเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรมาแล้ว และได้รับการบันทึกว่าเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรคนแรกในประวัติศาสตร์ที่เป็นชาวไทยมุสลิม

“วันมูหะมัดนอร์ มะทา” ปัจจุบันอายุ 79 ปี เกิดที่ อ.เมืองฯ จ.ยะลา เป็นพี่คนโตในบรรดาพี่น้องทั้งหมด 10 คน จบการศึกษาชั้นประถมศึกษา และมัธยมศึกษาตอนต้น ที่ จ.ยะลา จากนั้นเขามาศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ที่โรงเรียนอิสลามวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ที่กรุงเทพฯ จบปริญญาตรี ครุศาสตรบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปริญญาโท ครุศาสตรมหาบันทิต(บริหารการศึกษา) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

“อาจารย์วันนอร์” เริ่มรับราชการครู ก็ได้รับตำแหน่งเป็นครูใหญ่ โรงเรียนอัตตรกียะห์ อิสลามมียะห์ จ.นราธิวาส ด้วยอายุเพียง 20 ปี ต่อมาได้ย้ายมาเป็นอาจารย์ประจำวิทยาลัยครูสงขลา... เป็นอาจารย์คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ สงขลา และเป็นอาจารย์พิเศษ คณะศึกษาศาสตร์ ม.สงขลานครินทร์ และในปี 2521 ได้รับตำแหน่ง รองอธิการบดี วิทยาลัยครูสงขลา

“อาจารย์วันนอร์” เข้าสู่วงการเมืองครั้งแรก สังกัดพรรคกิจสังคม ของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ในฐานะเป็นผู้ร่วมก่อตั้งพรรค จากนั้นย้ายไปสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ และต่อมาย้ายไปร่วมก่อตั้งพรรคประชาชน และพรรคความหวังใหม่ โดยมีตำแหน่งเป็นรองหัวหน้าพรรค และ เป็นผู้นำกลุ่มวาดะห์ แทน นายเด่น โต๊ะมีนา ที่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง และขึ้นเป็นเลขาธิการพรรคในเวลาต่อมา และเมื่อพรรคความหวังใหม่ ยุบรวมกับพรรคไทยรักไทย เมื่อเดือน ม.ค.2545 “อาจารย์วันนอร์” ก็รั้งตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย

ต่อมา พรรคไทยรักไทยถูกยุบ “อาจารย์วันนอร์” ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี แต่ยังคงมีบทบาท ในฐานะแกนนำกลุ่มวาดะห์ เมื่อพ้นโทษถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง ก็สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย และในการเลือกตั้ง ปี2562 ได้เข้าร่วมกับพรรคประชาชาติ และได้เป็นเป็นหัวหน้าพรรคประชาชาติ และได้รับเลือกตั้งเป็นส.ส. สมัยที่ 10 (แบบบัญชีรายชื่อ) ก่อนจะลาออกจากตำแหน่ง ส.ส เมื่อวันที่ 11 ก.ย.63 และในการเลือกตั้งครั้งล่าสุดนี้ “อาจารย์วันนอร์” ได้เป็น ส.ส.สมัยที่ 11 เป็นส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชาติ


สำหรับตำแหน่งทางการเมือง หลังจากเป็น ส.ส.ยะลา สมัยแรก สังกัดพรรคกิจสังคม ในปี 2522 จากนั้นก็มีการย้ายพรรคการเมืองหลายครั้ง ผ่านการเป็นผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการมาหลายกระทรวง เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ....ได้เป็นรัฐมนตรีครั้งแรก ในตำแหน่ง รมช.มหาดไทย จากนั้นเป็น รมว.คมนาคม

ในการเลือกตั้งปี 2539 อาจารย์วันนอร์ ได้เป็นส.ส.สมัยที่ 7 และได้เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร และประธานรัฐสภา (24 พ.ย.2539 - 27 มิ.ย.2543)

จากนั้นยังได้เป็น รมว.คมนาคม (สมัยที่ 2) เป็น รมว.มหาดไทย เป็นรองนายกรัฐมนตรี เป็นรมว.เกษตรและสหกรณ์

ในช่วงที่ “อาจารย์วันนอร์” นั่งเป็นประธานรัฐสภา ทั้งการประชุมรัฐสภา และการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีวาระการประชุมหลากหลาย ทั้งการชี้แจงนโยบาย การพิจารณากฎหมาย การพิจารณารับร่างรัฐธรรมนูญ การอภิปรายไม่ไว้วางใจ การพิจารณางบประมาณ มีความวุ่นวาย ขัดแย้ง และหวังได้เปรียบกันในการอภิปราย มีให้เห็นอยู่ตลอดเวลา แต่ “อาจารย์วันนอร์” ก็เอาอยู่ สามารถควบคุมบรรยากาศการประชุมให้ผ่านพ้นไปด้วยดี จนเป็นที่ยอมรับของสมาชิกรัฐสภา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสื่อมวลชนในยุคนั้น

ก่อนที่จะมีความชัดเจนเรื่องตำแหน่งประธานสภาในช่วงค่ำวานนี้ (3ก.ค.) “อาจารย์วันนอร์” บอกว่า พร้อมที่จะรับตำแหน่งนี้ เพื่อรักษาความเป็นประชาธิปไตยของประชาชน ให้เดินหน้าไปได้

“ผมไม่ใช่คนที่ไปแย่ง หรืออยากได้ตำแหน่งประธานสภาฯ ...เป็นทางออกที่เราไม่เคยนึกมาก่อน เปรียบเหมือนการซื้อหวย ที่ซื้อไม่ถูก เพราะเราพยายามให้มันออกตัวเลขอื่น แต่ก็มาลงที่เรา เชื่อว่าเป็นสิ่งที่พระเจ้ากำหนด”

หากการตั้งประธานสภาฯครั้งนี้ผ่านไปด้วยความราบรื่น ก็ต้องติดตามบทบาทของ “อาจารย์วันนอร์” กันต่อไป โดยเฉพาะการเป็นประธานรัฐสภา ในการโหวตนายกรัฐมนตรี ที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่วันนี้