อัปเกรดสิทธิพื้นที่ราชการทั่ว ปท.เก็บค่าเช่าตู้กดน้ำสารพัดยี่ห้อ ขาดตัวตู้ละพัน เหตุเป็นที่ราชพัสดุ แต่ไม่ถือเป็นสวัสดิการ

อัปเกรดกฎใหม่! ให้สิทธิสถานที่ราชการทั่วประเทศ เรียกเก็บค่าเช่า “ตู้ยอดเหรียญ” เน้นเครื่องกดน้ำอัตโนมัติเอกชนสารพัดยี่ห้อ ขาดตัวตู้ละ 1 พัน เหตุเป็นที่ราชพัสดุ หลัง “ธนารักษ์” ไฟเขียวจัดเก็บอัตราค่าตอบแทนรายเดือน แยกมิเตอร์ค่าไฟฟ้าเอง พร้อมนำส่งรายได้เข้าธนารักษ์ เผย ปล่อยผี! ไม่ให้เรียกเก็บค่าธรรมเนียมจัดให้เช่า ค่าต่ออายุสัญญา และไม่ถือให้เป็นสวัสดิการหน่วยราชการ

วันนี้ (27 มิ.ย.) มีรายงานจากกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ มีหนังสือเวียน ด่วนที่สุดถึงหน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทย และผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ให้ดำเนินการเกี่ยวกับ “เครื่องบริการอัตโนมัติ” ในสถานที่ราชการ ซึ่งเป็นที่ราชพัสดุ

พบว่า เป็นหนังสือจาก กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง เพื่อซักซ้อมความเข้าใจ ส่งไปถึงหน่วยงราชการทั่วประเทศ เกี่ยวกับการอนุญาต ให้ “ติดตั้งเครื่องบริการอัตโนมัติ” ในสถานที่ราชการซึ่งเป็นที่ราชพัสดุ

หนังสือทำถึง ถึงปลัดกระทรวง/อธิบดี/หัวหน้าส่วนราชการที่มีฐานะเป็นกรม และผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด

มีใจความว่า ด้วยได้กำหนดอัตราค่าตอบแทนการใช้ประโยชน์สำหรับการจัดให้เช่าเพื่อติดตั้ง เครื่องบริการอื่นๆ

เช่น เครื่องบริการหยอดเหรียญ เครื่องเติมเงินโทรศัพท์มือถือ หรือเครื่องบริการอื่นๆ ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันในสถานที่ราชการ

“ให้จัดเก็บอัตราค่าตอบแทน ในอัตราเครื่องละ 1,000 บาทต่อเดือน โดยไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียม การจัดให้เช่า และค่าธรรมเนียมการต่ออายุสัญญาเช่า”

รวมทั้งไม่ปรับปรุงอัตราค่าเช่า และไม่ถือว่าเป็นการจัดสวัสดิการเชิงธุรกิจในที่ราชพัสดุตามนัยระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจัดสวัสดิการ ภายในส่วนราชการ พ.ศ. 2547

หนังสือระบุด้วยว่า เพื่อให้การพิจารณา “อนุญาตให้เอกชน” ดำเนินการติดตั้งเครื่องบริการ นํ้าดื่มหยอดเหรียญ และเครื่องบริการอัตโนมัติอื่น ๆ ในลักษณะเดียวกันในสถานที่ราชการซึ่งเป็นที่ราชพัสดุ

ให้เป็นไปด้วยความถูกต้อง และเป็นไปตามหลักเกณฑ์การกำหนดอัตราผลประโยชน์ตอบแทนที่มืผลใช้บังคับ ในปัจจุบัน จึงขอให้ส่วนราชการดำเนินการ ดังนี้

1. กรณีที่ส่วนราชการอนุญาตให้เอกชนติดตั้งเครืองบริการหยอดเหรียญ เครื่องเติมเงิน โทรศัพท์มือถือ หรือเครื่องบริการอื่นๆ ที่มืลักษณะเดียวกัน

“ให้เรียกเก็บค่าตอบแทนการใช้ประโยชน์ที่ราชพัสดุ ในอัตราเครื่องละ 1,000 บาทต่อเดือน”

ทั้งนี้ การติดตั้งเครื่องบริการดังกล่าวไม่รวมถึงกรณีการติดตั้ง เครื่องฝาก-ถอนเงินอัตโนมัติ (ATM) หรือเครื่องบริการอื่น ๆ ของสถาบันการเงิน

2. ให้เอกชนติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้า แยกต่างหากและเป็นผู้ชำระค่าไฟฟ้าเอง

3. ให้หน่วยราชการที่อนุญาตให้เอกชนติดตั้ง นำส่งเงินค่าตอบแทนการใช้ประโยชน์ในที่ราชพัสดุเป็นรายได้ชองกรมธนารักษ์ โดยมีสำเนาใบนำส่งเงินไปประกอบ

มีรายงานว่า ในส่วนของ พื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) เมื่อต้นปี 2564 พบว่า กองรายได้ สำนักการคลัง กทม. ออกระเบียบทรัพย์สิน ซึงเป็นแก้ไขหลักเกณฑ์และเงื่อนไขใหม่ “การให้เช่าสถานที่เพื่อติดตั้ง ตู้จำหน่ายสินค้าอัจฉริยะ ประเภทเครื่องดื่มและสินค้าบริโภค

มีหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ประกอบด้วย กำหนดระยะเวลาการเช่า 1 ปี นับแต่วันที่คู่สัญญาลงนามในสัญญา อัตราค่าเช่าตารางเมตรละ ไม่นัอยกว่า 2,000 บาท/เดือน

โดย “ผู้เช่า” ต้องชำระค่าบำรุงกรุงเทพมหานคร เป็นรายปี เป็นเงินร้อยละ 10 ของ ค่าเช่ารายปี

กรณีผู้เช่าผิดนัดชำระค่าบำรุง ผู้เช่ายินยอมชดใช้ค่าปรับในอัตราวันละร้อยละ 5 ของค่าบำรุง แต่ต้องไม่ตํ่ากว่าวันละ 100 บาท นับแต่วันที่ผิดนัด เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระค่าบำรุงให้เสร็จสิ้น

หลักประกันในการปฏิบัติตามสัญญาเป็นเงิน 3 เท่าของค่าเช่ารายเดือน

ประกันอัคคีภัยทรัพย์สินที่เช่าในนามของ กทม. ในวงเงินไม่น้อยกว่า 100,000 บาท ในแต่ละแห่งโดยผู้เช่าเป็นผู้จ่ายเบี้ยประกันและให้ กทม. เป็นผู้รับประโยชน์

ทั้งนี้ ผู้เช่าเป็นผู้ชำระค่าเบี้ยประกันภัยตลอดอายุสัญญาเช่าและผู้เช่าจะต้องส่งมอบ กรมธรรม์ประกันภัยให้ผู้ให้เช่าภายใน 15 วัน นับแต่วันทำสัญญา

ผู้เช่าจะเป็นผู้รับผิดขอบต่อความสูญหายหรือความเสียหายใดๆ ของตู้จำหน่าย สินค้าอัจฉริยะ ตลอดจนอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเนื่องจากตู้จำหน่ายสินค้าอัจฉริยะ

ผู้เช่าต้องชำระค่าไฟฟ้าตามจำนวนที่ปรากฏในมิเตอร์แยกกับการไฟฟ้าโดยตรง ในกรณีที่ กทม.ยินยอมให้ติดตั้งมิเตอร์ย่อยโดยแยกจากมิเตอร์ของ กทม.

ผู้เช่าต้องเร่งดำเนินการติดตั้งมิเตอร์แยกหรือมิเตอร์ย่อยให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และผู้เช่าต้องชำระค่าไฟฟ้าตามจำนวนหน่วยที่ปรากฏในมิเตอร์แยกในอัตราสูงสุดต่อหน่วยที่ กทม.ต้องชำระ

โดยผู้เช่าต้องชำระค่า ไฟฟ้าให้กับ กทม.ในระหว่างที่ยังไม่ได้ดำเนินการติดตั้งมิเตอร์แยก ให้ผู้เช่าชำระค่าไฟฟ้าเดือนละ 300 บาท

ห้ามมิให้ผู้เช่าจำหน่ายสินค้าเกินราคาท้องตลาด ทั้งนี้ ผู้เช่าจะต้องแสดงรายการ สินค้าและราคาจำหน่ายสินค้าทุกประเภทให้ชัดเจน

“หากมีข้อร้องเรียนเรื่องการให้บริการ ราคา ปริมาณ หรือคุณภาพของสินค้าที่จำหน่าย กทม.มีสิทธิที่จะเข้าตรวจสอบ และแจ้งให้ผู้เช่าแก้ไขปรับปรุง เปลี่ยนแปลงการให้บริการ ราคา ปริมาณ หรือคุณภาพของสินค้าไต้ตามที่จะเห็นสมควร และการพิจารณา ให้ถือเป็นข้อยุติ”

ห้ามมิให้ผู้เช่าจำหน่ายสุรา เบียร์ หรือของมึนเมาอื่นๆ ที่ต้องห้ามตามกฎหมาย หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เจือปน หรือสิ่งอื่นใดที่ผู้เช่าไม่อนุญาตให้นำมาจำหน่าย หรือนำมาไว้ในตู้จำหน่าย สินค้าอัจฉริยะ

ผู้เช่าสัญญาว่าการโฆษณาบนจอตู้หรือตัวตู้ จำหน่ายสินค้าอัจฉริยะ เป็นไปเพื่อส่งเสริมการขายสินค้าภายในตู้จำหน่ายสินค้าอัจฉริยะเท่านั้น

และการโฆษณาต้องไม่ก่อให้เกิดความเสียหาย อันตรายหรือมีผลกระทบต่อการประกอบกิจการของผู้ให้เช่าหรือประโยชน์สาธารณะหรือในทาง ผิดกฎหมาย ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน

ผู้เช่าต้องเสนอรายการสินค้าและราคาให้ผู้ให้เช่าพิจารณาเห็นชอบก่อนทุกครั้ง

ผู้เช่าสัญญาว่าจะไม่นำสิทธิการโฆษณาบนหน้าจอหรือตัวตู้จำหน่ายสินค้า อัจฉริยะไปให้บุคคลอื่นใดเช่า เว้นแต่จะได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากผู้ให้เช่าก่อน

ผู้เช่ายินดีลงสื่อประชาสัมพันธ์ บนหน้าจอตู้จำหน่ายสินค้าอัจฉริยะให้แก่ผู้ให้เช่าโดยไม่มีค่าใช้จ่าย

กรณีสัญญาเช่าสิ้นสุดลงไม่ว่าเพราะเหตุใดๆ ผู้เช่าจะต้องขนย้ายทรัพย์สินและอุปกรณ์ต่างๆ ของผู้เช่าออกไปจากสถานที่เช่า

แล้วส่งมอบทรัพย์สินที่เช่าคืนให้แกผู้ให้เช่าในสภาพเรียบร้อยที่ผู้ให้เช่าสามารถใช้ประโยชน์ได้ทันที ภายใน 7 วัน นับแต่สัญญาสิ้นสุด

หากพ้นกำหนดนแล้ว ผู้เช่าต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าปรับให้แก่ผู้ให้เช่าในอัตราวันละ 1 ใน 3 ของค่าเช่ารายเดือน

กรณีผู้เช่าไม่ชำระค่าเช่าภายในกำหนดระยะเวลา ผู้เช่าต้องชำระค่าปรับให้แก่ผู้ให้เช่าเป็นเงินํในอัตราวันละ ร้อยละ 5 ของค่าเช่ารายเดือนนับแต่วันผิดนัดเป็นต้นไปจนกว่าจะได้ชำระค่าเช่าเสร็จสิ้น แต่ต้องไม่ตํ่ากว่าวันละ 100 บาท

กรณีผู้เช่าผิดสัญญาข้อหนึ่งข้อใด นอกจากกรณีที่ได้กำหนดไว้แล้ว ผู้เช่าต้องชำระค่าปรับให้แก่ผู้ให้เช่าเป็นเงินในอัตราวันละ ร้อยละ 10 ของค่าเช่ารายเดือนนับแต่วันที่ผิดสัญญาจนถึง วันที่ปฏิบัติให้ถูกต้อง

ค่าภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ภาษีป้าย ภาษีอากรอื่นใด หรือค่าธรรมเนียมใดๆ ที่จะต้องขชำระเกี่ยวกับสถานที่เช่านี้ ผู้เช่าจะต้องเป็นผู้ข้าระทั้งสิ้น

สุดท้าย ทำสัญญาตามแบบที่ กทม.กำหนด (โดยนิติกรหรือผู้มีความรู้ทาง กฎหมายของหน่วยงาน สามารถปรับเปลี่ยน แก้ไขเพิ่มเติมแบบสัญญาเช่าดังกล่าว

โดยไม่ทำให้ กทม.เสียประโยชน์ เพื่อความสะดวกคล่องตัวในการบริหารสัญญาและควบคมดูแลกำกันผู้เช่า สอดคล้องกับความต้องการของหน่วยงานและเกิดประโยชน์โดยรวม