“พิธา” นำ 150 ส.ส.ก้าวไกล รายงามตัว ชี้ “ส.ว.” อ้าง “ม.112” ขวางนั่งนายกฯ ขืนมติ ปชช. เชื่อ มีเสียงหนุนเพียงพอ ไม่หนักใจ ศาล รธน. เตรียมพิจารณา ปมแก้ ม.112
เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (27 มิ.ย.) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกฯพรรคก้าวไกล ได้นำ ส.ส.ที่ได้รับการเลือกตั้งของพรรค จำนวน 150 คน มารายงานตัวเป็น ส.ส.ต่อสำนักเลขาธิการผู้แทนราษฎร โดยใช้การเดินทางมาเป็นคณะ ด้วยรถโดยสารไม่ประจำทาง โดย ส.ส.ทุกคนสวมเสื้อยืดคอกลมสีขาว สกรีนคำว่า “เราคือผู้แทนราษฎร เรามาจากประชาชน”
ทั้งนี้ นายพิธา กล่าวว่า ตัวเลข ส.ส.ไม่สำคัญเท่ากับการตั้งใจเข้ามาเป็น ส.ส. ให้สมกับได้รับเลือกมา โดยพรรคมีกฎหมายก้าวหน้าที่สำคัญเพื่อประชาชน เช่น กฎหมายเพื่อกลุ่มหลากหลายทางเพศ, กฎหมายเพื่อกลุ่มผู้ใช้แรงงาน, กลุ่มพี่น้องชาติพันธุ์ เป็นต้น และมีอีกหลายเรื่องที่จะพยายามทำในสภาชุดที่แล้ว แต่ถูกปัดตกไป
เมื่อถามถึงเหตุผลที่ใช้วันที่ 27 มิถุนายน มารายงานตัว นายพิธา กล่าวว่า มีหลายเหตุผลอย่างแรก คือ ตนติดโควิด จึงมาก่อนหน้านี้ไม่ได้ และวันนี้ (27 มิ.ย.) มีความสำคัญกับประวัติศาสตร์ชาติไทย
นายพิธา ยังกล่าวว่า ตนกังวลที่ ส.ว. หลายคนออกมาแสดงจุดยืนไม่โหวตให้เป็นนายกฯ ซึ่งเท่าที่คุยหลายคนมีหลักและดุลพินิจในการโหวตเลือกตามบรรทัดฐานที่ ส.ว.ที่ทำไว้ปี 2562 ว่า หากสภาล่าง ฝ่ายใดรวมกันได้ 251 เสียง ก็ไม่ต้องการฝืนมติของสภาล่าง เพราะเป็นมติที่มาจากประชาชน ดังนั้น จึงเชื่อว่า ภาพรวม 250 ส.ว. จะเป็นไปตามหลักการและขอให้ ส.ว. ยึดหลักการดังกล่าวให้มั่นมากกว่ามองเรื่องตัวบุคคลว่าจะโหวตให้ตนหรือไม่
เมื่อถามถึงกรณีที่ นายเสรี สุวรรณภานนท์ ส.ว. ระบุว่า ส.ว.ที่เคยคุยว่าจะสนับสนุนได้มีการถอยแล้ว และมีเสียง ส.ว. ที่หนุนจริง ไม่เกิน 3 คนเท่านั้น นายพิธา กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ที่ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ระบุเป็นเรื่องจริง และมีความคืบหน้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้ พรรคมีความตั้งใจทลายกำแพงของ 2 สภา แน่นอนว่า ส.ว.ทุกคนไม่มีโอกาสได้พูดกับสื่อมวลชน มี ส.ว.ไม่กี่คน ไม่ว่าจะฝั่งเห็นด้วยโหวตตนเป็นนายกฯ หรือ ฝั่งที่อยู่ตรงข้าม มี ส.ว.อีกจำนวนมากที่ไม่ได้คุยกับสื่อมวลชน ดังนั้นต้องรอเวลา
เมื่อถามย้ำถึงจำนวนเสียง ส.ว.ที่จะสนับสนุนให้เป็นนายกฯ นายพิธา กล่าวว่า “เพียงพอที่จะทำให้ผมเป็นนายกฯ”
ถามต่อว่า เวลาโทรศัพท์ไปยัง ส.ว. พูดคุยเพื่อขอเสียงเป็นนายกฯ หรือชี้แจงการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 นายพิธา กล่าวว่า หลายเรื่องที่เป็นข้อกังวลใจของ ส.ว. แต่ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของหลักการ ให้เป็นไปตามปี 2562 ที่เมื่อสภาล่างรวมเสียงได้มาก ไม่ควรมีใครมาขืน
เมื่อถามถึงกรณีที่ ส.ว.ยังคาใจกับการแก้ไขมาตรา 112 พรรคก้าวไกลจะถอดสลักดังกล่าว เพื่อบรรลุเป้าหมายของการได้ตำแหน่งนายกฯหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า การแก้ไขมาตราดังกล่าวเป็นสิ่งที่พรรคได้พูดก่อนการเลือกตั้งที่ชัดเจนว่าจะเป็นการทางออกให้กับสังคมไทย เพราะช่วงที่ผ่านมา มีการใช้มาตราดังกล่าวเป็นเครื่องมือทางการเมืองรังแกคนเห็นต่าง จึงไม่เป็นผลดีกับสถาบันใดเลย อย่างไรก็ดี ตนเชื่อว่า ประเด็นดังกล่าวจะไม่เป็นเหตุให้เส้นทางการจัดตั้งรัฐบาลสะดุด
“มีข้อมูลมีหลายฝ่ายที่ยังเข้าใจผิด เพราะการแก้ไข คือ การแก้ไข ไม่ใช่การยกเลิก เท่าที่ได้คุยกับวุฒิสภา ก็ทำให้เขาเข้าใจมากขึ้น ว่า การรักษาปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ต้องปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับประเทศไทยที่กำลังเปลี่ยนผ่าน” นายพิธา กล่าว
ถามย้ำว่า หากเรื่องการแก้ไข มาตรา 112 ทำให้ไปไม่ถึงนายกฯ วางแผนไว้อย่างไร นายพิธา กล่าวว่า หากมีเป็นเรื่องน่ากังวลใจ เพราะถือเป็นการนำเสียงของประชาชน ปะทะกับสถาบันโดยตรง ไม่เหมาะสมและอันตราย ดังนั้น อย่านำเรื่องนี้มาเป็นข้ออ้างอีกเลย ทั้งนี้ มีหลายเรื่องที่เห็นตรงกันจำนวนมาก ที่ต้องบริหารจัดการ
เมื่อถามถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีประเด็นพิจารณาคำร้องเกี่ยวกับการแก้ไขมาตรา 112 ของพรรคก้าวไกล กังวลหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ไม่กังวลใจ เพราะเป็นเรื่องของศาลรัฐธรรมนูญกับอัยการสูงสุด การแก้ไขกฎหมายฉบับหนึ่งไม่เท่ากับการล้มล้างการปกครอง ตามที่กล่าวหาและคิดว่าข้อกล่าวหานี้เกินจริงไปมาก ทั้งนี้ ยืนยันว่า มีความตั้งใจที่จะรักษาระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อย่างหนักแน่น
เมื่อถามว่า เมื่อพิจารณาไทม์ไลน์ของศาลรัฐธรรมนูญ จะคาบเกี่ยวกับวันโหวตนายกฯ จะเป็นเหตุผลที่ ส.ว.ยกมาอ้างเพื่อไม่โหวตสนับสนุนหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า “เชื่อว่า ไม่เป็นไปอย่างที่เป็นข่าว ว่า จะนำเรื่องมาตรา 112 เป็นข้ออ้าง ที่จะไม่ทำมติของสภาฯ ล่าง จึงไม่เป็นประเด็นอะไร”
เมื่อถามถึงข้อสรุปของตำแหน่งประธานสภา ที่พรรคก้าวไกล ยืนยันมาตลอด นายพิธา กล่าวว่า ขอให้รอในวันที่ 28 มิถุนายน ที่จะประชุมร่วมกับพรรคเพื่อไทย และจะแถลงเรื่องดังกล่าว