“อนุทิน” ย้ำชัด “ภูมิใจไทย” ไม่ร่วมรัฐบาลเสียงข้างน้อย ลั่น จุดยืนพรรคไม่ร่วมงานพรรคแก้ไข ม.112 ถ้าเอี่ยวขอยุบพรรคดีกว่า ส่วนโหวต “ประธานสภา” ขอเห็นชื่อก่อนนัดประชุมทิศทางโหวต
วันนี้ (25 มิ.ย.) เมื่อเวลา 13.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีการประชุม ส.ส.พรรค โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค เป็นประธาน โดยมี ส.ส.ร่วมประชุม 66 คน ขาดประชุม 5 คน จาก ส.ส.ทั้งหมด 71 คน
จากนั้น เวลา 15.00 น. วันที่ 25 มิ.ย. นายอนุทิน แถลงภายหลังการประชุม ส.ส.พรรค ว่า เป็นการประชุม ส.ส.ครั้งแรกหลังผ่านการเลือกตั้งที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้รับรอง ซึ่งมีบางคนติดภารกิจต่างประเทศ ทั้งนี้ ภายในที่ประชุมได้มีการหารือถึงวิธีการทำงาน วัฒนธรรมองค์กร ซึ่งครั้งนี้มี ส.ส.ใหม่ 27 คน จาก 68 คน ที่เป็นส.ส.เขต จึงต้องมาละลายพฤติกรรม ระหว่างส.สเก่ากับส.ส.ใหม่ให้รู้จักกันมากขึ้น และรับรู้ถึงแนวนโยบาย โดยเฉพาะความเป็นเอกภาพเป็นปึกแผ่นของพรรคที่เราให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามในวันพรุ่งนี้ (26 มิ.ย.) เวลา 10.00 น. ตนจะนำส.ส.ของพรรคไปรายงานตัวต่อสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ให้พร้อมกันมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะมีบางท่านเดินทางไปรายงานตัวก่อนหน้านี้แล้ว
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ขณะนี้ถือว่าเรามีความพร้อมในการเตรียมตัวเริ่มทำงานในฐานะ ส.ส. ตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค.เป็นต้นไป ที่จะมีรัฐพิธี และการดำเนินงานในสภาตามปฏิทินการเมือง เชื่อว่าทุกอย่างจะดำเนินไปตามครรลอง ส่วนทิศทางการเมืองหลังจากนี้ วันนี้ส.ส.ของพรรคมีฉันทามติให้เป็นหน้าที่ของหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค ในการขับเคลื่อนทางการเมืองในช่วงเริ่มเปิดประชุมสภาชุดใหม่
เมื่อถามว่า ในที่ประชุม ส.ส.มีการถอดบทเรียนพื้นที่ที่ไม่ได้ ส.ส.หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ยังไม่มีการหารือ เพราะวันนี้เป็นการนัดประชุมเฉพาะ ส.ส. ซึ่งการประชุมกับสมาชิกที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาจะเกิดขึ้นภายหลัง ซึ่งอาจเป็นรูปแบบสัมมนาถอดบทเรียนต่างๆ
เมื่อถามว่า พรรคภูมิใจไทย จะรวบรวมรายชื่อ 50 ส.ส. ต่อศาลรัฐธรรมนูญสอบ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยเรื่องนี้ และยังไม่มีการพูดคุยถึงทิศทางการโหวตประธานสภาผู้แทนราษฎร แต่เป็นการเตรียมความพร้อมเปิดประชุมสภาก่อน
“พรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคอันดับ 3 วันนี้การนำเสนอต่างๆควรเป็นเรื่องของพรรคอันดับ 1 ที่จะดำเนินการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งปกติก็จะนำเสนอรายชื่อประธานสภา” นายอนุทิน กล่าว
เมื่อถามว่า วันประชุมสภา เพื่อโหวตประธานสภาฯ พรรคภูมิใจไทยจะเสนอชื่อคนของพรรคหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ทำอะไรที่เป็นการบล็อค หรือเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินการทางการเมืองโดยเฉพาะช่วงเปลี่ยนผ่าน ซึ่งเรื่องนี้มีแต่ข่าวลือเสียงเล่าอ้าง
เมื่อถามว่า พรรคภูมิใจไทยจะฟรีโหวตประธานสภาฯหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องดูว่าในที่สุดใครเป็นแคนดิเดตประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์ ส.ส. เราไม่บังคับ แต่ก็ต้องหารือถึงทิศทาง ที่สำคัญต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ว่าเป็นอย่างไร เพราะชื่อที่ปรากฎยังไม่ได้เสนอมาในที่ประชุม
“เราคงไม่ฟรีโหวตแบบไม่ทราบว่า ส.ส.จะโหวตอย่างไร คงต้องมีการหารือกันก่อน เราให้อิสระส.ส. แสดงความเห็น ซึ่งผู้บริหารก็ต้องรับฟัง” นายอนุทิน กล่าว
เมื่อถามถึงสูตรตั้งรัฐบาลพรรคภูมิใจไทย พรรคเพื่อไทย และ พรรคพลังประชารัฐ เพื่อดึงขั้ว ส.ว.ร่วมโหวต นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นสูตรผู้สื่อข่าว ไม่ใช่สูตรของพรรค พรรคท่องสูตรอยู่ 3 บท คือ อยู่ให้เป็น เย็นให้พอ รอให้ได้
เมื่อถามว่า รอให้ได้คือรอส้มหล่นหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า รอให้ได้ คืออาจจะรอให้เป็นผู้นำฝ่ายค้านก็ได้ ตนทำงานการเมืองสิ่งสำคัญที่ยึดถือคือเป็นส.ส. ส่วนที่มากกว่านั้นคือบริบทการเมือง วันนี้สิ่งแรกคือเราเป็น ส.ส. ทุกคนชนะมาท่ามกลางกระแส ท่ามกลางความกดดัน และการถูกด้อยค่า แต่เราก็มีส.ส.มากขึ้นกว่า 40% มีความเข้มแข็งในพื้นที่ อยู่บทบาทไหนเป็นส.ส.ก็ไม่มีปัญหา จะเป็นรัฐบาลเป็นฝ่ายค้านได้หมด ไม่มีพรรคการเมืองไหนไม่เคยเป็นฝ่ายค้าน ไม่มีพรรคไหนเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้านตลอดกาล ที่สำคัญคือต้องเป็นผู้แทนราษฎรซึ่งตรงนี้ทำงานได้แน่นอน
เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่าพรรคภูมิใจไทยจะฉีกแถลงการณ์ที่เคยระบุว่าจะไม่ร่วมงานกับพรรคที่จะแก้ไขมาตรา 112 แต่กลับมีกระแสดีลลับกับพรรคก้าวไกล นายอนุทิน กล่าวว่า พรรคไม่มีวันฉีกแถลงการณ์เรื่อง 112 สื่อถามแบบนี้ไม่แฟร์กับพรรคภูมิใจไทย นี่คือเจตนารมณ์ของพรรค เป็นเรื่องสำคัญที่สุด เราออกแถลงการณ์ได้ต้องมีความมั่นใจมาก ว่าการไปร่วมกิจกรรมทางการเมืองใดๆ ที่มีความตั้งใจ อย่าว่าแต่ยกเลิกแค่แก้ไขก็ไม่เอาแล้ว ถามกันแบบนี้เหมือนถามใส่ปาก แถลงการณ์ของพรรคเหมือนธรรมนูญของพรรคเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ถ้าเปลี่ยนแปลง ตนกับเลขาฯคนนี้ต้องไม่ใช่ผู้บริหารพรรค ถ้าเปลี่ยนแปลงยุบพรรคดีกว่า เรามีความเชื่อมั่นเคารพสักการะในสถาบัน แต่อยู่ดีๆมีข่าวปล่อยพบคนนั้นคนนี้ เรื่องดีลลับก็ไม่มี นี่คือพรรคการเมืองไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่งเราไม่ทำอะไรลับๆ ล่อๆ
เมื่อถามว่า ส.ว.บางคนให้สัมภาษณ์พลิกสูตรว่าขั้วปัจจุบันจะกลับมาชนะมีโอกาสหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ส.ว.ก็มีบทบาทของท่าน การตั้งรัฐบาลต้องตั้งรัฐบาลที่มีความเข้มแข็ง ตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยก็ไม่รอดรอวันตาย และขอยืนยันว่า พรรคภูมิใจไทยไม่สนับสนุนรัฐบาลเสียงข้างน้อย เปิดประชุมก็อยู่ในช่วงงบประมาณต้องเปลี่ยนพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ต่างๆตามนโยบาย หากเสียงข้างน้อยก็ไม่ผ่าน รัฐบาลก็ต้องลาออก ถามว่าแล้วใครจะทำสิ่งเหล่านั้น ทำเพื่อสะใจใคร ทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะไม่ได้เป็นความยั่งยืนของบ้านเมือง วันนี้เขากำลังฟอร์มรัฐบาลเสียงที่มากพอ พรรคภูมิใจไทยจึงอยู่นิ่งให้พรรคอันดับ 1 จัดตั้งรัฐบาล เราปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินการไปอย่างเรียบร้อยก่อนไม่ว่าจะจัดตั้งได้หรือไม่ได้
เมื่อถามย้ำว่า สูตรเสียงข้างน้อยแล้วดึงงูเห่ามาเสริมทีหลัง นายอนุทิน กล่าวว่า หมดแล้ว ยุคสมัยนี้ไม่มีแล้ว นึกไม่ออกถ้าทำการเมืองแบบเก่าคงลำบาก