กินปูนร้อนท้อง!! “ธนาธร” ส่งจดหมายถึงสื่อเครือผู้จัดการ หาว่าเสนอข่าวบิดเบือนให้คนเกลียดชังกัน ทั้งๆ ที่เรื่องที่เสนอไปนั้นเป็นการถอดเทปคำต่อคำ ไม่ได้ปรุงแต่ง และคลิปก็เป็นคลิปจริง ตัวธนาธรเป็นคนพูดจริง เสียงจริง!!

ข่าวปนคน คนปนข่าว

**กินปูนร้อนท้อง!! “ธนาธร” ส่งจดหมายถึงสื่อเครือผู้จัดการ หาว่าเสนอข่าวบิดเบือนให้คนเกลียดชังกัน ทั้งๆ ที่เรื่องที่เสนอไปนั้นเป็นการถอดเทปคำต่อคำ ไม่ได้ปรุงแต่ง และคลิปก็เป็นคลิปจริง ตัวธนาธรเป็นคนพูดจริง เสียงจริง!!

หลังจากสื่อในเครือผู้จัดการ นำเสนอข่าว คลิปหลุดธนาธร ปลุกระดมเยาวชน-กลุ่มชาติพันธุ์ ภาคใต้ 14 จังหวัด ให้กระด้างกระเดื่องต่อรัฐไทย ซึ่งเป็นคลิปที่มาจากเฟซบุ๊ก "เทวดาผู้หยั่งรู้ ฟ้าดินฯ อากาศ มหาสมุทร" ซึ่ง ธนาธร บอกว่าเป็นการจงใจบิดเบือนข้อเท็จจริง

เนื้อหาในคลิปดังกล่าว “ธนาธร” ได้พูดถึงประวัติศาสตร์กลุ่มชาติพันธุ์ ที่อยู่ตามพื้นที่ต่างๆ ของประเทศ ซึ่งต่อมาได้เกิดรัฐชาติใหม่ “Nation State” ที่ใช้ความรุนแรงเข้ากำราบกลุ่มชาติพันธุ์ จนเกิดกบฏ 7 หัวเมืองแขก ทั้งภาคเหนือ อีสาน และใต้

“ธนาธร” บอกว่า กลุ่มคนมลายูที่เขาไม่ยอมรับรัฐไทย เพราะอะไร ? เพราะความรุนแรงทางวัฒนธรรม ที่เขายัดเยียดให้คุณ คุณต้องอ่านภาษาไทย ต้องพูดภาษาไทย ถ้าคุณไม่สยบยอม ลูกคุณเข้าโรงเรียนไม่ได้ ลูกคุณเข้าโรงพยาบาลไม่ได้ คุณต้องแต่งตัวเหมือนฉัน คุณต้องเชื่อเหมือนฉัน คุณต้องใช้กฎหมายของฉัน คุณเป็นอื่นไม่ได้ ไม่ว่าคุณจะเชื้อชาติอะไร ทุกคนคือเชื้อชาติไทยหมด นี่คือความรุนแรงทางวัฒนธรรมที่ถูกกระทำ ที่ถูกยัดเยียดเข้ามา

“ธนาธร” ยังยกประวัติศาสตร์เมื่อ 40-50 ปีที่ผ่านมา เรื่องกลุ่มชาติพันธุ์ ถูกกลุ่มชนชั้นนำหักหลังเรื่องที่ดิน ...คุณมาช่วยฉันนี่ มาช่วยฉันรบกับคอมมิวนิสต์ ฉันจะให้ที่ดินคุณ แล้วพอรบเสร็จ จบเรื่องคอมมิวนิสต์ ปี66/23 เสร็จ ได้ที่ดินไหมครับ ? อยู่กับป่าเหมือนเดิม นี่ไง ถูกหักหลังไง ใช่ไหมครับ... เราถูกสอนมาว่า ประเทศไทยเป็นหนึ่งเดียว รักใคร่ สามัคคี กลมกลืนกัน ใช่หรือเปล่า? เขาพูดอย่างนี้ใช่หรือเปล่า ? แล้วความเป็นจริงล่ะ ความเป็นจริงมันไม่ใช่นี่หว่า...

นั่นคือส่วนหนึ่งของเนื้อหาในคลิปที่ “ธนาธร” พูดกับกลุ่มเยาวชน กลุ่มชาติพันธุ์ ในเชิงต่อต้าน “รัฐไทย”

ในจดหมายน้อยที่ “ธนาธร”ส่งถึง “ผู้จัดการ” พร้อมตั้งคำถามว่า เป็นการการจงใจบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อโหมกระพือกระแสที่ฝ่ายอนุรักษ์นิยมกำลังพยายามปลุกปั่น ว่า พวกเราคณะก้าวหน้า-พรรคก้าวไกล เป็นกลุ่มคนที่ต้องการแบ่งแยกดินแดน และไม่สมควรได้เข้าบริหารประเทศ หรือไม่


“ธนาธร”บอกว่า ในคลิปนั้น เป็นการบรรยายให้กับนิสิตในชมรมของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ซึ่งนิสิตชมรมนี้ เคยทำกิจกรรมทางสังคมร่วมกับคณะก้าวหน้า จึงนำมาสู่กิจกรรมบรรยายตามที่ปรากฏในคลิป และกิจกรรมดังกล่าวไม่ได้เป็นการเจาะจงบรรยายให้กับเยาวชนในภาคใต้ 14 จังหวัด และสถานที่ ก็ไม่ใช่ภาคใต้ด้วย

หัวข้อที่บรรยาย คือ “มองปัญหาชาติพันธุ์ในประเทศไทย” ซึ่งต้องการเปรียบเทียบให้ผู้ฟังเห็นความแตกต่างระหว่างนานาประเทศ กับประเทศไทย ในการชำระประวัติศาสตร์บาดแผลของตัวเอง และสร้างชาติที่เข้มแข็งผ่านการโอบรับความหลากหลายทางเชื้อชาติ มากกว่า “การบังคับให้ทุกคนมีจิตสำนึกในความเป็นไทยแบบเดียว”...มีสัญชาติไทย เชื้อชาติไทย เพียงอย่างเดียว

...รัฐไทยสร้างชาติผ่านการพยายามสถาปนาความเป็นไทยแบบเดียว โดยละเลยความแตกต่างทางศาสนา ชาติพันธุ์ วัฒนธรรม ความเชื่อ ของกลุ่มชนหลากหลาย ที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินนี้มานานหลายร้อยปี ทั้ง ขะแมร์ มลายู มอญ ลาว จีน ม้ง และอื่นๆ อีกมากมาย แม้แต่การกรอกแบบฟอร์มที่ต้องระบุสัญชาติ และเชื้อชาติ กลับแทบไม่มีใครกรอกเชื้อชาติอื่น นอกจาก “ไทย” แม้แต่ตัวผม ที่เป็น “จีน” หรือ พี่น้องม้ง ปกาเกอะญอ มลายู ทุกคนกรอกว่ามี สัญชาติ “ไทย” เชื้อชาติ “ไทย” เพราะเกรงการถูกเลือกปฏิบัติในการเรียน การทำงาน การเข้ารับบริการจากภาครัฐ
ไทยแท้คืออะไร?...

...ผมเชื่อว่าความเป็นไทยที่เราภาคภูมิใจ คือไทยที่โอบรับความหลากหลายทางเชื้อชาติ ศาสนา ความเชื่อ ไทยที่ปฏิบัติต่อพลเมืองทุกคนอย่างเสมอหน้ากันใต้กฎหมาย ไทยที่ประชาชนทุกคนมีส่วนร่วมสร้างความเจริญให้กับประเทศ และรับดอกผล ของความเจริญนั้นอย่างเท่าเทียมกัน

อย่าใช้วาทกรรมเก่าๆ เดิมๆ มาขัดขวางการสร้างประเทศไทยที่ดีกว่านี้ ที่ลูกหลานของพวกเราจะได้อยู่ร่วมกันในอนาคตเลยครับ

สุดท้าย “ธนาธร” โยนบาปให้สื่อเครือผู้จัดการ ว่าควรมีจรรยาบรรณสื่อ ในการเสนอข้อเท็จจริงอย่างรอบด้าน และปราศจากอคติ ไม่นำข้อความที่ถูกนำเสนอแบบบิดเบือนให้คนเกลียดชังกันมานำเสนอ และทำให้สังคมแตกแยกไปมากกว่านี้

ซึ่งความจริงแล้ว เนื้อหาที่สื่อในเครือผู้จัดการนำเสนอออกไปนั้น ก็ถอดมาจากคำพูดของ “ธนาธร” แบบคำต่อคำ ไม่ได้ปรุงแต่งอะไร และคลิปก็เป็นคลิปจริง เสียงจริง ตัวจริง

“ธนาธร” ไม่เคยย้อนมองตัวเองกำลังปลุกปั่นให้คนในชาติแตกแยก เกลียดชังกัน โดยยกประวัติศาสตร์ชาติพันธุ์มาบังหน้า โชว์ว่าตัวเองรอบรู้ด้านประวัติศาสตร์


ย้อนไปดูพฤติกรรมก่อนหน้านี้ก็ได้ ที่ “ธนาธรแอนด์เดอะแก๊ง” ไปหาเสียงที่ภาคใต้ ก็ไปสุมเชื้อไฟใต้ หลังชนะเลือกตั้งแล้ว กำลังฮึกเหิม เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมานี้เอง คน 3 พรรค "ก้าวไกล-ประชาชาติ-เป็นธรรม" ก็ไปสุมเชื้อ "ที่ ม.อ.ปัตตานี อีก

ทำให้ “พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค” แม่ทัพภาคที่ 4 และ ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ต้องส่งคนไปแจ้งความดำเนินคดี กับขบวนการนักศึกษาแห่งชาติ พรรคการเมือง และนักการเมือง ภาคประชาสังคมที่เกี่ยวข้องกับการจัดเสวนาครั้งนั้น ในหัวข้อเรื่อง “การกำหนดอนาคตตนเอง ในสันติภาพปาตานี” ซึ่งจัดให้มีการจำลองการลงประชามติ ในการแบ่งแยกดินแดน เป็นที่เรียบร้อย

หรืออย่างช่วงกลางเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา “ธนาธร” ในนาม "คณะก่อการล้านนาใหม่-NEO LANNA" ก็ขึ้นเหนือไปสุมเชื้อ ว่าด้วยเรื่องประวัติศาสตร์ล้านนา ที่คณะนิติศาสตร์ ม.เชียงใหม่ ใน "งานเสวนาวาระรัฐธรรมนูญ-กระจายอำนาจแห่ไม้ก้ำประชาธิปไตยปักหมุดหมายกระจายอำนาจ" 

 ขณะที่ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ก็ไปกินข้าว ดวดเหล้าพื้นเมือง กับตัวแทนกลุ่มชาติพันธุ์ภาคเหนือ คุยเรื่องสุราก้าวหน้า และเรื่องที่ดินทำกินของกลุ่มชาติพันธุ์

ถึงบรรทัดนี้ ก็อยากให้พิจารณากันเอาเองว่า สื่อในเครือผู้จัดการ หรือใครกันแน่ ที่กำลัง ปลุกปั่นให้สังคมแตกแยก ให้คนไทยเกลียดชังกันเอง !!

**อาถรรพ์เก้าอี้ผบก.ชลบุรี?? เหตุผลจำเป็นบางประการเปลี่ยนรักษาการอีกหน


เก้าอี้ผู้การเมืองชล กลายเป็นประเด็นขึ้นมาอีกครั้ง หลังจาก พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ อดีต ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ที่ถูกแจ้งข้อหาร่วมกันตบทรัพย์แก๊งพนันออนไลน์ 140 ล้านบาท โดนเด้งออกไป มีรักษาการคนใหม่เข้ามาดูแล แต่แล้ว "บิ๊ก เด่น" พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ลงนามคำสั่ง เปลี่ยนตัว รักษาการ ผบก.ชลบุรี เนื่องจากมีเหตุผลความจำเป็นบางประการ

ความนี้ ตามที่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ มีคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 384/2566 เรื่อง ข้าราชการตำรวจรักษาราชการแทน ตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 368/2566 ลงวันที่ 17 มิ.ย.ให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการ และรักษาราชการแทน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 17 มิ.ย. เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงนั้น เนื่องจากมีเหตุผลความจำเป็นบางประการ


ดังนั้น เพื่อให้การบริหารราชการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติในภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ อาศัยอำนาจตามความใน มาตรา 105 แห่งพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 จึงสั่งการ ดังนี้

ยกเลิกการให้ “พล.ต.ต.ธนาวุฒิ จงจิระ” ผบก.กมค.บช.ภ.2 รักษาราชการแทน ผบก.ภ.จว.ชลบุรี โดยให้ “พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์” รอง ผบช.ภ.7 รักษาราชการแทน ผบก.ภ.จว.ชลบุรี อีกหน้าที่หนึ่งตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง สั่งเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.

ว่ากันว่า เหตุผลความจำเป็นบางประการที่ ผบ.ตร. จรดปากกาลงคำสั่งนั้น อาจจะเป็นเหตุผลจากการตั้งข้อสงสัยว่า การออกคำสั่งแต่งตั้ง “พล.ต.ต.ธนาวุฒิ” รักษาราชการแทน ในตำแหน่ง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี แทน “พล.ต.ต.กัมพล” เป็นการแต่งตั้งที่ไม่เหมาะสม


เนื่องเพราะ พล.ต.ต. ธนาวุฒิ เป็นหนึ่งในตำรวจที่ถูก “พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน” อดีต ผบก.ภ.จว.ชลบุรี แจ้งความดำเนินคดีในข้อหากลั่นแกล้งให้ได้รับโทษ ในคดีเปลี่ยนตัวผู้ต้องหาในพูลวิลล่า ในพื้นที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เมื่อปี 2565 หรือไม่

ทั้งนี้ ที่ “พล.ต.ต.ธนาวุฒิ” มารักษาราชแทนผบก.ภ.จว.ชลบุรี ทาง ผบช.ภ.2 เป็นผู้ที่เสนอรายชื่อขึ้นมาให้ ผบ.ตร.พิจารณาโดยขณะนั้นก็มีการพูดคุยว่า ขอให้ทำงานไประยะหนึ่ง หากพบว่าทำงานบกพร่อง ก็สามารถพิจารณาโยกย้ายได้ภายหลัง

งานนี้เมื่อมีความไม่กระจ่างชัดถึงเหตุผลที่แท้จริงทำเอาคนขี้สงสัยและสายมู อดขนลุกซู่ไม่ได้ว่า ที่ใครมานั่งก็มีอันเป็นไปทุกรายนี้...อาจจะเป็นเพราะที่นี่ อาถรรพ์เจ้าที่เจ้าทางแรงไหมหนอ ของพรรค์นี้ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่นะจ๊ะ จะบอกให้