“บิ๊กป้อม” หวัง ยกระดับค้ามนุษย์ไทยปี 66 เป็นเทียร์ 1 เข้มทุกข้อเสนอสหรัฐฯ ต้องแก้ไขและพยายามมากขึ้น หยุดทุจริตที่เจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้อง
วันนี้ (26 มิ.ย.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ผ่านสื่อ อิเล็กทรอนิกส์ ณ ห้องประชุมมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อฯ มี โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว. มหาดไทย และผู้แทนหน่วยงานต่างๆร่วมประชุม
ทั้งนี้ ที่ประชุมรับทราบ ความก้าวหน้าการจัดตั้งศูนย์คัดแยกผู้เสียหาย (ดอนเมือง) จาก ตร. และผลการดำเนินงานของ 8 จว.ที่มีการขับเคลื่อนกลไกส่งต่อระดับชาติ พร้อมทั้งรับทราบรายสถานการณ์การค้ามนุษย์ปี 66 (TIP Report) โดยประเทศไทยอยู่ระดับเทียร์ 2 เช่นเดียวกับปี 65 ซึ่งภาพรวมเห็นถึงความพยายามที่เพิ่มขึ้นโดยรวม ทั้งความคืบหน้าคดี การสอบสวนเอาผิดกับเจ้าหน้าที่รัฐที่เข้าไปเกี่ยวข้อง การอบรมเจ้าหน้าที่และขับเคลื่อนกลไกส่งต่อระดับชาติ (NRM) อย่างไรก็ตาม ยังพบความพยายามในการปฏิบัติการขับเคลื่อนขจัดการค้ามนุษย์ที่ยังไม่มากพอและครบถ้วน ตามมาตรฐานขั้นต่ำหลายด้าน เช่น การคัดแยกผู้เสียหายไม่มีประสิทธิภาพ การคุ้มครองผู้เสียหายจากการบังคับใช้แรงงานไม่มากพอ ข้อกำหนดทางกฎหมายที่เป็นอุปสรรคในการคุ้มครองผู้เสียหายต่างชาติ โดยเฉพาะการทุจริตและการมีส่วนเกี่ยวข้องของเจ้าหน้าที่รัฐ ยังคงขัดความความพยายามในการปราบปรามการค้ามนุษย์ โดยสหรัฐฯ ได้เสนอแนะการดำเนินงานต่อประเทศไทย จำนวน 12 ข้อ
ต่อจากนั้น ที่ประชุมได้พิจารณาและให้ความเห็นชอบ โครงสร้างการบริหารงาน เพื่อสนับสนุนการทำงานของคณะกรรมการร่วมขับเคลื่อนและบริหารศูนย์ความเป็นเลิศ เพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ไทย-ออสเตรเลีย รวมทั้งปรับองค์ประกอบ คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวที่ปลอดภัยและเป็นมิตรกับเด็ก
พล.อ.ประวิตร’ กล่าวย้ำ การปราบปรามการค้ามนุษย์เป็นวาระแห่งชาติ ที่จำเป็นต้องเพิ่มความพยายามขับเคลื่อนโดยกลไกรัฐทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง โดยปัญหาและข้อเสนอแนะของสหรัฐฯ ต้องได้รับการแก้ไขและมีพัฒนาการในทุกข้อจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเรื่องใหม่ เช่น ความซับซ้อนจากปัญหาแฝงของแรงงานเกาหลีเหนือ รวมทั้งการช่วยเหลือและคุ้มครองผู้เสียหายที่พ้นความช่วยเหลือหรือดำเนินคดีให้มีรายได้และงานทำ โดยกำชับขอให้ พม. รง. ยธ.และ กต. ต้องเข้ามาร่วมกันขับเคลื่อนแก้ปัญหา และขอให้ มท.และ ตร.เร่งจัดตั้งและขับเคลื่อนบังคับใช้กลไก NRM ให้เป็นระบบอย่างเต็มที่ทั้งส่วนกลางและระดับ จว. โดยขอยืนยันการดำรงเป้าหมายสำคัญร่วมกัน ในความพยายามยกระดับประเทศไทยเป็นเทียร์ 1 ในปี 66
