แกนนำ ปชป. ตอบปมชิง หน.พรรค ระบุเอกภาพมาก่อนตัวบุคคล ตามแนวทาง “อภิสิทธิ์” เปลี่ยนคนได้แต่พรรคคงอยู่ ชี้ ปชป. ไม่ใช่ของใคร ทุกคนเป็นพี่เป็นน้องกัน
วันนี้ (25 มิ.ย.) นายนิพนธ์ บุญญามณี รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการประชุมใหญ่วิสามัญพรรค ปชป. เพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) และหัวหน้าพรรคคนใหม่ ว่า ตอนนี้ยังไม่ได้คุยกันเลย แต่ส่วนตนคิดว่า หลังตนได้อ่านคำสัมภาษณ์ของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค ปชป. ซึ่งให้สัมภาษณ์ เมื่อวานนี้ (24 มิ.ย.) แล้ว เห็นว่า แนวทางที่ท่านเสนอมา จะทำให้พรรคเดินไปข้างหน้าได้ การสร้างเอกภาพภายในพรรคเป็นสิ่งจำเป็น ตนจึงเห็นด้วยกับแนวทางของนายอภิสิทธิ์ ถ้าไม่มีเอกภาพเรามีบทเรียนมาหลายครั้งแล้ว ก่อนจะพูดถึงเรื่องตัวบุคคล ในประชาธิปัตย์เนี่ย ใครก็ได้มีคนที่เหมาะสมอยู่แล้ว แต่ว่าวันนี้ต้องคุยกัน และต้องเห็นพ้องต้องกันก่อนว่า ถ้าจะแก้ปัญหาได้พรรคเรามีบทเรียนมาแล้วหลายครั้ง หลายรอบ ว่า ถ้ามันไม่มีเอกภาพ จะเดินไปข้างหน้าลำบาก ฉะนั้น การทำให้พรรคมีเอกภาพเป็นสิ่งจำเป็น ตนยังเห็นด้วยว่า ถ้าคุยกันได้ก็ต้องคุยกันทั้งนั้น เราไม่ใช่คนอื่นคนไกล ทุกคนเป็นคนในพรรคด้วยกันมีอะไรก็คุยกัน ในทางการเมืองมันไม่มีใครได้อะไรร้อยเปอร์เซ็นต์หรอก ทุกอย่างก็คุยกันแบบพี่แบบน้อง คุยกันฉันพี่ฉันน้อง เป็นเรื่องของคนภายในพรรค
เมื่อถามถึงกรณีสื่อมวลชนหลายสำนักวิเคราะห์ตรงกันว่า กลุ่มของ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการเลขาธิการพรรค ยังกุมความได้เปรียบเรื่องเสียงโหวตตามข้อบังคับพรรค ปชป. อยู่ ที่ 70 ต่อ 30 เปอร์เซ็นต์ นายนิพนธ์ ตอบว่า คือ พรรค ปชป. ไม่ใช่ฝั่งของใคร ทุกคนเป็นประชาธิปัตย์ และตนเชื่อมั่นในประชาธิปัตย์ คิดว่า ทุกคนคิดถึงอนาคตของพรรคเป็นหลัก ตัวบุคคลเรามาแล้วก็ไป แต่พรรคต้องอยู่ ตัวบุคคลเราเปลี่ยนมาเยอะหลายยุคแล้ว ย้อนไปตั้งแต่สมัยต้นเคยเป็นยุวประชาธิปัตย์ สมัยนายพิชัย รัตตกุล เป็นหัวหน้าพรรค ปชป. นายพิชัย ไป นายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรค ปชป. มา นายชวน ไป นายบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรค ปชป. มา นายบัญญัติ ไป นายอภิสิทธิ์ มา นายอภิสิทธิ์ ไป นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ อดีตหัวหน้าพรรค ปชป. มา ซึ่งตัวบุคคลไปได้ แต่พรรคจะต้องอยู่ แต่ถ้าเราคิดว่าตัวบุคคลมาก่อนพรรค อันนี้มันเป็นคนละหลักการแล้ว แต่สำหรับตนที่เคยอยู่มาตั้งแต่สมัยยุวประชาธิปัตย์ คิดว่า ตัวบุคคลเปลี่ยนได้แต่พรรคจะต้องอยู่ ฉะนั้น ในฐานะที่เป็นพี่เป็นน้องกันมีอะไร ก็คุยกันฉันพี่ฉันน้อง คุยกันฉันท์มิตร