อดีตโฆษก ปชป.โต้ “เฉลิมชัย” ไม่เคยทำร้ายพรรค แจงร่อน จม.เปิดผนึก หวังปลุกสมาชิกร่วมกำหนดทิศทาง สกัดคนกินรวบลากพรรคตกต่ำ จวก 20 ส.ส. ยกอำนาจคนเดียวตัดสินใจ หวั่น คิดผิดทำพรรคล่มสลาย ชี้ เสื่อมถอยเพราะมุ่งสู่อำนาจ ไม่คิดปฏิรูป สวน “เดชอิศม์” ปฏิรูป 360 องศา คือ การกลับไปสู่จุดเดิม
วันนี้ (23 มิ.ย.) นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กเรื่อง จากใจ ถึงใจ คน ปชป. ขอเสียงกำหนด อยากให้พรรคไปทิศทางไหน มีเนื้อหาระบุว่า หลังจากที่โพสต์ จดหมายเปิดผนึกถึงพรรคประชาธิปัตย์ไปเมื่อสองวันก่อน ปรากฏว่า เป็นที่สนใจของสังคม โดยเฉพาะสมาชิกพรรคเก่าใหม่ที่ห่วงใยอนาคตพรรคได้โท.รมาให้กำลังใจและสนับสนุนแนวคิดของผมเป็นจำนวนมาก แต่เมื่อได้อ่านข่าวที่ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว เตือนคนในพรรคหยุดปล่อยข่าวทำร้ายพรรค ว่า “อยากฝากไปถึงคนภายในว่าหยุดทำร้ายพรรคเถอะ อย่าไปกลัวการเปลี่ยนแปลง วันนี้ถ้าพรรคประชาธิปัตย์จะเดินไปข้างหน้า ไม่มีใครทรยศพรรค หลักการ และอุดมการณ์ของพรรคยังอยู่ตรงนี้เหมือนเดิม ไม่มีเปลี่ยนแปลง เพราะฉะนั้นการทำอะไรที่ทำให้พรรคเสียหาย เป็นการทำร้ายพรรค อย่าทำเลย” ถ้าหมายถึงเนื้อหาในโพสต์จดหมายเปิดผนึกถึงพรรคประชาธิปัตย์ของตน ก็อยากให้นายเฉลิมชัยกลับไปอ่านทบทวนข้อคิดเห็นที่ผมเขียนให้ชัดอีกครั้ง จะเข้าใจว่า สิ่งที่ผมสื่อออกไปก็เพื่อต้องการให้สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ทั่วประเทศ เข้ามามีส่วนร่วมกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของพรรค ในสถานการณ์ที่เรากำลังขาดบุคลากรที่โดดเด่น บวกกับสถานการณ์การเมืองที่เปลี่ยนไป จำเป็นต้องเฟ้นหาผู้นำทางที่มีประสบการณ์ มีความรู้ ความสามารถ ที่สำคัญ ต้องมากบารมี บททดสอบนี้จึงไม่ใช่แค่ ส.ส.เท่านั้นที่จะเป็นผู้กำหนดชะตากรรมของพรรค เพราะพรรคประชาธิปัตย์เป็นสถาบันทางการเมือง ไม่ได้เป็นพรรคของใครกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือนายทุนคนใดคนหนึ่ง
นายเชาว์ ระบุด้วยว่า เราจะเห็นว่า ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา บรรดาบ้านใหญ่ตามจังหวัดต่างๆ ถูกโค่นจนล้มแบบระเนระนาด แต่ที่ผมกังวล คือ บรรยากาศในพรรคกลับอยู่ในสภาพบ้านใหญ่ กดรีโมตสั่งการได้โดยคนๆ เดียว แบบนี้น่ากลัว ถึงขนาดมี ส.ส.หลายคนพูดตรงกันว่า ส.ส.จำนวน 20 คน ได้ยินยอมพร้อมใจยกอำนาจการตัดสินใจให้อดีตผู้บริหารท่านหนึ่งไปเรียบร้อยแล้ว เรียกว่า ตอนนี้ชะตากรรมพรรคประชาธิปัตย์กำลังตกอยู่ในมือคนๆ เดียว คิดดี ทำดี ก็ดีไป แต่ถ้าไม่ใช่ นั่นอาจหมายถึงพรรคเสี่ยงต่อการล่มสลาย ซึ่งเป็นภาพที่ผมไม่อยากเห็นเป็นที่สุด และเชื่อว่า สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ก็ยังไม่อยากเห็นพรรคอันเป็นที่รักของเราตกต่ำเพียงเพราะก้าวข้ามอำนาจไม่ได้ สี่ปีที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์ ได้เข้าสู่อำนาจ แต่พรรคกลับตกต่ำลงอย่างต่อเนื่อง ความนิยมเสื่อมถอยจากเดิมเรามี ส.ส. 52 คน ลดเหลือลงเหลือ 25 คน เป็นเครื่องเตือนสติให้ต้องทบทวนถึงแนวทางการบริหารว่ามาถูกทางหรือไม่ ถ้าไม่ต้องรีบเปลี่ยนแปลง ก่อนไม่มีโอกาสให้เปลี่ยน ผมไม่มีเจตนาโจมตีใครเป็นการส่วนตัว แต่พูดโดยหลักการในฐานะสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่เป็นห่วงพรรค ทุกวิกฤต มีโอกาส แต่ทุกโอกาส ต้องมาจากการไขว่คว้า
“ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า สมาชิกพรรค จะเล็งเห็นถึงความตั้งใจที่ผมต้องการสื่อสาร ส่วนนายเฉลิมชัยจะมีอคติคิดเห็นอย่างไร ไม่ว่ากัน เพราะไปบังคับกันไม่ได้ สิ่งที่อยากฝากไปถึงก็มีแค่ว่า ผมเห็นด้วยว่าคนภายในต้องไม่ทำร้ายพรรค อย่ากลัวการเปลี่ยนแปลง วันนี้ถ้าพรรคจะเดินไปข้างหน้า ต้องไม่มีใครทรยศพรรค เพียงเพราะต้องการเป็นรัฐบาล โดยใช้อุดมการณ์ และประชาชนมาเป็นข้ออ้าง เพราะนั่นคือพฤติกรรมที่จะทำให้พรรคเสียหาย เป็นการทำร้ายพรรค อย่าทำเลยครับ พรรคต้องเปลี่ยนแปลง และไม่ใช่เปลี่ยน 360 องศา เหมือนที่ นายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา ออกมาระบุ เพราะนั่นหมายถึงว่ากลับมาสู่จุดเดิม คือ ไม่ได้ปฏิรูปอะไรเลย” นายเชาว์ ระบุทิ้งท้าย