“ชลน่าน” รับเสียงส่วนใหญ่ในพรรค อยากชู “เพื่อไทย” นั่งประธานสภา ยัน เสนอ ”สุชาติ” ชิงเก้าอี้จะไม่เกิดขึ้น

“ชลน่าน” รับเสียงส่วนใหญ่ในพรรคอยากชู “เพื่อไทย” นั่งประธานสภา ยัน เสนอ “สุชาติ” ชิงเก้าอี้จะไม่เกิดขึ้น ระบุต้องได้ข้อยุติก่อนเปิดสภา 3 ก.ค.นี้

วันนี้ (22 มิ.ย.) นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง และ นายสุทิน คลังแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย นำทีม ส.ส.ใหม่พรรคเพื่อไทย เข้ารายงานตัว ส.ส.และรับบัตรประจำตัว ที่อาคารรัฐสภา

นายแพทย์ชลน่าน ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นตำแหน่งประธานสภา ว่า เรื่องความชัดเจนที่วางเอาไว้ จะเป็นการคุยกันระหว่างแกนนำพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล ซึ่งคณะเจรจาได้นัดหมายเรียบร้อย ตอนนี้เป็นขั้นตอนภายในของแต่ละพรรค ซึ่งทางพรรคเพื่อไทยอย่างที่มีข่าวออกไปเป็นการพิจารณาภายใน โดยจะนำข้อพิจารณานี้ไปเจรจากับพรรคก้าวไกลอีกครั้งหนึ่ง

ส่วนที่หลายฝ่ายกังวลว่าปมตำแหน่งประธานสภา จะบานปลาย นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า ในนามของพรรคเพื่อไทย ให้ความสำคัญและระมัดระวังเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่ง เราเปิดโอกาสให้พูดคุยในพรรค และเมื่อมีฝ่ายบริหารที่เป็นคณะเจรจามีความเห็นก็ต้องนำหลักการนี้มาขอความเห็นจากสมาชิกในพรรค

นายแพทย์ชลน่าน ยอมรับว่า สิ่งที่พูดเป็นเพียงข้อคิดเห็น โดยการประชุมเมื่อวานนี้ เป็นการสัมมนา ส.ส. และรับฟังความเห็นในเรื่องประธานสภา ซึ่งมีคนแสดงความเห็น เสียงส่วนใหญ่มองว่าพรรคเพื่อไทยน่าจะนำเสนอตนเองเป็นประธานสภา พรรคเพื่อไทย แคร์ความรู้สึกของสมาชิกเป็นหลัก ความรู้สึกของพี่น้องประชาชนที่เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย ความรู้สึกของสมาชิกพรรค และพรรคร่วม จึงต้องมองทุกมิติให้รอบด้าน

ส่วนเรื่องฟรีโหวต หากพรรคก้าวไกลเสนอตำแหน่งประธานสภา มองว่า ส.ส. มีเอกสิทธิ์ในการลงมติแต่ระบบพรรคการเมืองต้องมีการพูดคุยกัน โดยระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขต้องยึดเสียงข้างมากเป็นหลัก แต่ทั้งนี้เชื่อว่า หากพรรคมีมติ ส.ส. พรรคเพื่อไทยจะมีวินัย

หากฝ่ายตรงข้ามเสนอชื่อ นายสุชาติ ตันเจริญ เป็นประธานสภา จะมีการพูดคุยในพรรคหรือไม่ นายแพทย์ชนน่าน กล่าวว่า คำว่า “ถ้า” จะไม่เกิดขึ้นและจะไม่ละเมิดสิทธิ ส.ส. หรือสมาชิกของพรรค เราไม่มีสิทธิที่จะไปห้ามสมาชิกในพรรคได้ เราต้องเคารพเสียงข้างมาก ซึ่งยังไม่รู้ว่าเสียงจะออกมาแบบไหน มองว่าอาจจะมีข้อยุติที่ดีก็ได้

ส่วนตำแหน่งรองประธานสภา อันดับ 2 เป็นเรื่องของพรรคแกนนำต้องไปพูดคุยกัน ขึ้นอยู่กับพรรคก้าวไกลว่าจะคุยกับนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ อย่างไร แต่เบื้องต้นเนื่องจากพรรคประชาชาติ ซึ่งเป็นพรรคที่ได้คะแนนอันดับ 3 แต่ได้คะแนนห่างจากพรรคเพื่อไทยที่เป็นพรรคอันดับ 2 เป็นร้อยคะแนน จึงเสนอให้พรรคเพื่อไทย ได้ตำแหน่งรองประธานสภาทั้ง 2 เก้าอี้

ส่วนที่ นายวันมูหะมัดนอร์ และคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ระบุว่า หากฝ่ายประชาธิปไตยตกลงตำแหน่งประธานสภา ไม่ได้คงต้องจบเห่แน่ นายแพทย์ชลน่าน มองว่า อาจจะไม่ถึงขั้นนั้น ทั้งสองพรรคต้องพูดคุยให้จบก่อนวันที่ 3 ก.ค. 66 ก่อนเปิดประชุมสภา