โฆษกรัฐบาล เผย นายกฯ ชื่นชมความร่วมมือระบบธนาคาร ไทย-กัมพูชา สามารถชำระค่าสินค้าและบริการระหว่างกันผ่านระบบคิวอาร์โค้ด (Interoperable QR Code)
วันนี้ (18 มิ.ย.) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบถึงความร่วมมือระหว่าง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และ ธนาคารกลางกัมพูชา (National Bank of Cambodia) ในโครงการบริการชำระสินค้าด้วยระบบคิวอาร์โค้ด (Interoperable QR Code) โดยสามารถใช้สกุลเงินท้องถิ่นในการชำระได้ ซึ่งมีจุดประสงค์ในการส่งเสริมการใช้สกุลเงินท้องถิ่น ให้สามารถเข้าถึงระบบการบริการทางการเงินที่หลากหลาย กระตุ้นการท่องเที่ยวและการค้าชายแดนของทั้ง 2ประเทศ โดยปัจจุบันเริ่มใช้โครงการระยะที่ 2 แล้ว ส่งผลให้ชาวไทยสามารถชำระเงินด้วยการสแกนคิวอาร์โค้ดที่กัมพูชาได้เช่นกัน
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ธนาคารกลางของทั้ง 2 ประเทศ ได้ร่วมมือกันเพื่อพัฒนาระบบการจ่ายเงินด้วยคิวอาร์โค้ดตั้งแต่ปี 2561 เพื่อความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกการค้าพรมแดน รองรับปริมาณการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น โดยโครงการความร่วมมือกันดังกล่าวได้เริ่มดำเนินการระยะแรก ในปี 2563 ซึ่งในระยะแรกได้อำนวยความสะดวกให้ประชาชนกัมพูชา สามารถใช้สกุลเงินท้องถิ่นเพื่อซื้อสินค้าและบริการในร้านค้าปลีกของประเทศไทย ด้วยการชำระผ่านคิวอาร์โค้ดของแอปพลิเคชันธนาคารบนมือถือได้ โดยคิดอัตราแลกเปลี่ยนตามจริงของเวลา ณ ที่จ่าย
ส่วนการดำเนินโครงการในระยะที่ 2 อำนวยความสะดวกให้ประชาชนไทยที่ซื้อสินค้าในกัมพูชา สามารถชำระค่าสินค้าและบริการ ผ่านคิวอาร์โค้ดบนแอปพลิเคชันธนาคาร โดยใช้สกุลเงินบาทได้ ตั้งแต่วันที่ 6 มิถุนายน 2566 เป็นต้นมา ทำให้ประชาชนของทั้ง 2 ประเทศ สามารถใช้บริการผ่านแอปพลิเคชันธนาคารทั้งธนาคารของกัมพูชา และ ธนาคารของไทย เพื่อใช้จ่ายระหว่างกันผ่านคิวอาร์โค้ดได้แล้วทุกธนาคาร
“นายกรัฐมนตรี ชื่นชมความร่วมมือของระบบธนาคารระหว่างประเทศของไทย และ กัมพูชา ทำให้การชำระค่าสินค้าและบริการสามารถทำได้สะดวกยิ่งขึ้น เชื่อมั่นว่า จะเป็นประโยชน์กับการค้าชายแดน และสัมพันธ์ระหว่างประชาชนในพื้นที่ โดยที่ผ่านมารัฐบาลให้ความสำคัญ สนับสนุนการพัฒนาระบบการเงินการธนาคาร รวมถึงระบบการจ่ายเงินระหว่างประเทศ ให้สอดคล้องกับการปรับตัวสู่สังคมไร้เงินสด ด้วยการบริการด้านการเงินที่รวดเร็วและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น” นายอนุชา กล่าว