“เชาว์” ซัด “นิวัติไชย” ทำศาลฯเสื่อมเสีย หลังอ้างไร้คู่ฉบับคำสั่งให้ พิธา เป็น ผู้จัดการมรดก ทำคนไม่เชื่อมั่นระบบจัดเก็บข้อมูลของศาล
วันนี้ (15 มิ.ย.) นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เตือน เลขาฯ ป.ป.ช. ให้ข้อมูลกระทบศาลฯ ปม พิธา เป็นผู้จัดการมรดก มีเนื้อหาระบุว่า กรณี นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน ถึงกรณีปมหุ้นของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ว่า
“จากการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของนายพิธา เมื่อครั้งเข้ารับตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ปี 2562 พบว่า กรณีการ “ถือหุ้นสื่อไอทีวี” นายพิธา แนบเอกสารคำสั่งศาล ว่า เป็นผู้จัดการมรดกมาด้วย ซึ่งเป็นเอกสารราวปี 2550 ทั้งนี้ จะต้องตรวจสอบให้ชัดเจนก่อน ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบเอกสารกับทางศาล อย่างไรก็ตาม ทางศาลตอบมาว่า ไม่ได้เก็บเอาไว้แล้ว” แนวทางคือต้องพยายามหาเอกสารตัวนี้มาเพื่อยืนยันว่าเป็นเอกสารที่ศาลรับรองถูกต้องใช่หรือไม่
ทั้งนี้ เอกสารที่ผู้ยื่นมาทุกอย่าง ป.ป.ช. จะต้องมีการตรวจสอบซ้ำกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่วนเหตุที่ตรวจสอบล่าช้า เพราะจะต้องสอบถามไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ส่งสำเนาตอบกลับมาว่าจริง และเมื่อศาลระบุว่า แต่งตั้งเป็นผู้จัดการมรดก กรณีไม่ได้เก็บต้นเรื่องเอาไว้ คู่ฉบับก็ไม่มีแล้ว ก็ต้องให้นายพิธา แนบเอกสารเพิ่มเติมเข้ามา และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (วันที่ 15 มิ.ย 66) นายนิวัติไชย ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านโทรศัพท์ในรายการสนามข่าวเจ็ดสี ตอกย้ำเกี่ยวกับคำสั่งศาลแต่งตั้งนายพิธาเป็นผู้จัดการมรดกว่า ศาลบอกว่า หาไม่เจอแล้ว
นายเชาว์ ระบุด้วยว่า ได้ยินได้ฟังคำสัมภาษณ์ของนายนิวัติไชย แล้วรู้สึกไม่สบายใจ เพราะที่นายนิวัฒน์ไชย อ้างว่า ได้สอบถามไปที่ศาลฯ แล้ว ศาลฯบอกว่าเรื่องเกิดมานานแล้ว ไม่ได้เก็บเอกสารไว้หาไม่เจอแล้ว อาจทำให้สังคมตั้งคำถามไปที่ศาลฯในเชิงไม่น่าเชื่อถือ เพราะไม่มีระบบการจัดเก็บเอกสารสำคัญ เช่น คำพิพากษาหรือคำสั่งศาลไว้เป็นหลักฐานให้ตรวจสอบย้อนหลัง หรือคนบางกลุ่มอาจจะคิดเลยไปว่าที่ศาลฯตอบว่าอย่างนั้นต้องการกลั่นแกล้งนายพิธาหรือไม่ จึงไม่เข้าใจว่าก่อนที่นายนิวัติไชยจะให้ข้อมูลผู้สื่อข่าว นายนิวัติไชย ได้ดำเนินการไปขอเอกสารหลักฐาน จากคำสั่งแต่งตั้งมรดกผู้จัดการมรดกจากศาลฯจริงหรือไม่ เพราะในทางปฏิบัติคำพิพากษาหรือคำสั่งใดที่เป็นเอกสารสำคัญในสำนวนศาลฯจะมีระบบจัดเก็บต้นฉบับไว้ในที่ปลอดภัย จะไม่ปลดทำลาย ไปพร้อมเอกสารประกอบสำนวนหากเกิน 10 ปี และนอกจากเก็บต้นฉบับไว้แล้ว ยังมีการบันทึกเอกสารเหล่านั้นไว้ในแผ่นไมโครฟิล์มเก็บไว้เป็นหลักฐานอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งต่อมาเมื่อมีระบบคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้งาน ก็จะมีการสแกนเอกสารสำคัญเแนบไฟล์คอมพิวเตอร์เก็บไว้อีกชั้นหนึ่ง เพราะฉะนั้นเอกสารหลักฐานสำคัญไม่ว่าจะเป็นคำพิพากษาหรือคำสั่งศาลคู่ความหรือผู้มีส่วนได้เสียสามารถคัดถ่ายและตรวจสอบจากศาลได้ทุกเวลาไม่ได้สูญหาย หรือค้นไม่เจอแล้วตามที่นายนิวัติไชยออกมาให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชน
“ผมจึงขอตำหนินายนิวัติไชย ซึ่งมีตำแหน่งเป็นถึงเลขาธิการ ป.ป.ช. ว่าการให้ข้อมูลต่อสาธารณชนที่ไม่ตรงกับความจริง โดยเฉพาะหน่วยงานศาลซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับการอำนวยความความยุติธรรมให้แก่ประชาชน ท่านต้องตรวจสอบให้แน่ชัดเสียก่อน เพราะมิฉะนั้น อาจสร้างความเสียหายศาลและความเชื่อมั่นของประชาชนต่อระบบศาลยุติธรรมได้” นายเชาว์ ระบุทิ้งท้าย