“8 พรรคร่วม” ถกนัดแรกคณะทำงานสันติภาพชายแดนใต้ ย้ำ ไม่เห็นด้วยแบ่งแยก “ปาตานี” แต่เปิดเสรีแสดงออก รอหารือยุบ กอ.รมน.
วันนี้ (9 มิ.ย.) ที่อาคารอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกล ในการประชุมนัดแรก คณะทำงานย่อยของ 8 พรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งเป็นคณะทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง ว่าด้วยสันติภาพชายแดนใต้ และในพื้นที่ “ปาตานี” ซึ่งมีตัวแทนจากทุกพรรคเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง อาทิ นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล นายรอมฎอน ปันจอร์ ว่าที่ ส.ส.พรรคก้าวไกล พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขานุการคณะกรรมการกิจการพิเศษ พรรคเพื่อไทย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ นายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ นายมุข สุไลมาน รองหัวหน้าพรรคประชาชาติ นายกัณวีร์ สืบแสง เลขาธิการพรรคเป็นธรรม นายชวลิต วิชยสุทธิ์ กรรมการยุทธศาสตร์พรรคไทยสร้างไทย
โดยภายหลังการหารือกว่า 2 ชั่วโมง นายรอมฎอน เปิดเผยว่า วันนี้เป็นการวางกรอบการทำงาน ระดมความเห็นแต่ละพรรคในเบื้องต้น การตั้งสมมติฐานของปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างสันติภาพ การแสดงความเห็นทางการเมืองที่ยังมีความคับข้องหมองใจ รวมถึงการแก้ปัญหาปากท้องประชาชน ดังนั้น วันนี้เราคุยกรอบกว้าง ที่แต่ละพรรคให้สัญญาประชาชนไว้ แต่ครั้งหน้าถ้าจะลงลึกรายละเอียดว่าจะวางกรอบสร้างสันติภาพ ตอบสนองแนวนโยบายอย่างไรให้กับประชาชน โดยนัดหารือที่พรรคประชาชาติ ในวันที่ 19 มิ.ย.นี้
ซึ่งที่ประชุมยังเห็นด้วยว่า แนวทางการแก้ปัญหาวันนี้ อาจต้องลดบทบาท วิธีคิด และกลไกทางทหารลง แต่เพิ่มบทบาทพลเรือน โดยเฉพาะตัวแทนที่ผ่านการเลือกตั้งจากประชาชน นั่นคือ บทบาทรัฐสภา และสภาผู้แทนราษฎร
นายรอมฎอน กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังได้พูดถึงกรณีเปิดตัวขององค์กรนักศึกษาสามจังหวัดชายแดนใต้ ขบวนนักศึกษาแห่งชาติ โดยสัมผัสได้ว่ามีความกังวลของผู้คน ที่มองปรากฏการณ์ทำกิจกรรมของนักศึกษากลุ่มนี้ ในนามของว่าที่รัฐบาลใหม่ กรอบที่เรายืนยันยังอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ เรากำลังพูดถึงสถานภาพของรัฐเดี่ยว ที่มองไปข้างหน้า และจะกระจายอำนาจ ให้อำนาจกับประชาชนท้องถิ่นมากขึ้น พร้อมยืนยันว่า ไม่เห็นด้วยกับการแยกตัวออกไปของรัฐปัตตานี (ปาตานี) เพราะเราอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ แต่ต้องมีพื้นที่ให้แสดงความเห็น ซึ่งการพูดคุย รับฟังความเห็นต่างๆ รวมถึงกลุ่มนักศึกษาฯ เป็นหนึ่งในกระบวนการทำงานของคณะทำงาน
ทั้งนี้ ไม่ห่วงว่า เรื่องนี้จะนำไปสู่ความแตกแยก แต่ส่วนตัวมองว่านี่คือหน้าตาที่แท้จริงของความขัดแย้ง และต้องการความกล้าหาญทางการเมืองภายใต้การนำของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ไปเผชิญปัญหา แต่สิ่งที่กังวลคือเรื่องของความรุนแรง เพราะอีกไม่กี่เดือนก็จะครบรอบ 20 ปี ของเหตุการณ์รุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเชื่อว่าภายใต้รัฐบาลใหม่ที่จะเกิดขึ้น การกล้าเผชิญคือจุดเริ่มต้นของการแก้ปัญหา
ในส่วนของการพูดคุยกับหน่วยงานความมั่นคงนั้น นายรอมฎอน กล่าวว่า หน่วยงานความมั่นคงก็เป็นระบบราชการภายใต้รัฐบาลอยู่แล้ว ก็จะต้องมีการพูดคุย แต่ระหว่างนี้ผู้รับผิดชอบของ 8 พรรคการเมือง ก็ได้มีการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอยู่แล้ว เพื่อเตรียมความพร้อม
สำหรับแนวคิดการพูดคุยกับกลุ่มบีอาร์เอ็น เพื่อสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ เหมือนที่รัฐบาลเดิมได้ทำมานั้นวันนี้ในวงประชุมยังมีความเห็นต่างกันอยู่ ถึงแนวทางดังกล่าวแต่ในภาพใหญ่ก็มองว่าเป็นส่วนหนึ่งที่เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ คือ การสนทนากับคู่ขัดแย้ง ซึ่งวิธีการของรัฐบาลใหม่ เราจะสร้างความแตกต่างจากก่อนหน้านี้
เมื่อถามถึงความชัดเจนในการยุบกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) นายรอมฎอน กล่าวว่า เรื่องนี้ยังต้องมีการพูดคุยในคณะทำงาน และต้องเป็นฉันทามติร่วมกันของ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล
ด้าน นายกัณวีร์ กล่าวเสริมว่า ถ้าเป็นการทำประชามติ เพื่อสนับสนุนการแบ่งแยกดินแดน เราไม่สนับสนุน เพราะอยู่นอกกรอบรัฐธรรมนูญ แต่เราเปิดเสรีในการแสดงออกของประชาชน และไม่กังวลกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะดำเนินการตามกรอบรัฐธรรมนูญ