มีผลบังคับวันนี้ (8 มิ.ย.) หลักเกณฑ์การเข้าร่วมเป็นร้านค้าก๊าซตามโครงการบัตรสวัสดิการรายใหม่ พร้อมเงื่อนไขที่ร้านค้าก๊าซทุกแห่ง ทั้งรายเก่า-รายใหม่ ต้องถือปฏิบัติ หากฝ่าฝืนถูกเพิกถอนสิทธิและห้ามเข้าร่วมโครงการอีก
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 66 ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ ประกาศกรมธุรกิจพลังงาน เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการเข้าร่วมเป็นร้านค้าก๊าซ เพื่อรับชำระเงินจากการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ พ.ศ. 2566 มีผลบังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา หรือ ตั้งแต่วันนี้ (8 มิ.ย.) เป็นต้นไป
กรมธุรกิจพลังงานได้ออกประกาศในครั้งนี้เพื่อให้การดำเนินตามนโยบายรัฐบาลเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เกิดประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการยิ่งขึ้น ด้วยการวางเงื่อนไขที่ต้องปฏิบัติให้มีความชัดเจน และให้สอดคล้องกับการจัดสรรประชารัฐสวัสดิการรอบใหม่ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 28 ก.พ. 66 ด้วย
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สาระสำคัญของประกาศฯ ได้กำหนดคุณสมบัติของร้านค้าก๊าซที่จะสมัครเข้าร่วมโครงการรับชำระเงินจากการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยเกณฑ์เกี่ยวกับคุณสมบัตินี้จะใช้กับเฉพาะร้านค้ารายใหม่เท่านั้น จะไม่ใช้บังคับกับร้านค้าก๊าซที่ร่วมโครงการอยู่แล้ว รวมถึงร้านที่ได้ยื่นสมัครเข้าร่วมโครงการก่อนวันที่ประกาศมีผลบังคับ และยังอยู่ในระหว่างการพิจารณา
คุณสมบัติของร้านค้าก๊าซที่จะสมัครร่วมโครงการ เช่น ต้องเป็นร้านค้าที่จำหน่ายก๊าซหุงต้ม และมีใบรับแจ้งการประกอบกิจการควบคุมประเภทที่ 2 ลักษณะที่หนึ่ง (ธพ.ป.2) หรือมีใบอนุญาตประกอบกิจการควบคุมประเภทที่ 3 ลักษณะที่สอง (ธพ.ก.2) ตามพระราชบัญญัติควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2542, มีทำเลและสถานที่ตั้งร้านค้าที่แน่นอน, ไม่เคยถูกเพิกถอนสิทธิโดยมีรายชื่อที่ระบบของธนาคารกรุงไทยตรวจพบ, ไม่เคยยกเลิกการติดตั้งเครื่อง EDC หรือยกเลิกแอปพลิเคชันถุงเงินเพื่อรับชำระเงินจากสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ (ส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม)
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า กรมธุรกิจพลังงานยังได้วางเงื่อนไขที่ร้านค้าก๊าซที่เข้าร่วมโครงการทุกรายทั้งรายเดิมที่ร่วมโครงการอยู่แล้ว หรืออยู่ระหว่างพิจารณาก่อนมีประกาศ และรายใหม่ที่จะสมัครเข้าร่วมในอนาคตจะต้องถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด 8 ข้อ ได้แก่
1) ติดตั้งเครื่อง EDC หรือแอปพลิเคชันถุงเงิน 2) ห้ามปฏิเสธการรับชำระค่าก๊าซหุงต้มโดยการใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ โดยไม่มีเหตุอันสมควร 3) ห้ามยึดหรือเก็บบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มีสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ 4) ห้ามรับแลกสิทธิส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มเป็นเงินสด สินค้าชนิดอื่น หรือ สิ่งตอบแทนอื่น 5) ห้ามดำเนินธุรกิจที่มีลักษณะเป็นยานพาหนะเร่ขายก๊าซหุงต้ม
6)ห้ามรับชำระค่าก๊าซหุงต้มด้วยรูปแบบอื่นๆ ที่เป็นการรับชำระล่วงหน้า เช่น การสะสมคูปอง การสะสมแต้ม การรวมสิทธิเพื่อส่งมอบในภายหลัง เป็นต้น 7) ห้ามรับแลกสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ (ส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม) ที่ก๊าซหุงต้มเป็นของร้านค้าอื่น และ 8) ห้ามหาผลประโยชน์อื่นใดจากสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ (ส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม) ที่ไม่ใช่วัตถุประสงค์ของสวัสดิการแห่งรัฐ (ส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม)
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า กรณีฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนด กรมธุรกิจพลังงานหรือสำนักงานพลังงานจังหวัดที่รับสมัครเป็นร้านค้าก๊าซจะดำเนินการเพิกถอนการเป็นร้านค้าก๊าซที่่ร่วมโครงการ และแจ้งกรมบัญชีกลางพิจารณาการส่งคืนเครื่อง EDC หรือยกเลิกการใช้แอปพลิเคชันถุงเงิน
โดยผลของการเพิกถอนสิทธิดังกล่าว ร้านค้าก๊าซจะไม่มีสิทธิเรียกค่าใช้จ่ายหรือค่าเสียหายใดๆ ทั้งสิ้น ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิ และจะไม่สามารถสมัครเป็นร้านค้าก๊าซเพื่อรับชำระเงินจากการใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐได้อีกต่อไป