“วิโรจน์” เตรียมนำเบาะแสสำคัญส่วยสติกเกอร์เข้าพบ จเรตำรวจ 8 มิ.ย. นี้ มั่นใจคณะทำงาน ไม่กดดันเรื่องกรอบเวลา ชี้ ความคืบหน้ากำลังไปได้ดี โบ้ยกฎหมายล้าสมัย โทษหนักเกิน จนท.ใช้เป็นเครื่องมือรีดไถ รัฐบาลก้าวไกล พร้อมรื้อฟื้นความเชื่อมั่นของตำรวจ-กู้รอยยิ้มข้าราชการที่สุจริต
วันนี้ (6 มิ.ย.) นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงความคืบหน้าเรื่องสติกเกอร์ส่วยทางหลวง ว่า ในวันที่ 8 มิถุนายน เวลา 13:00 น. จะเดินทางเข้าไปพบกับจเรตำรวจ และ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รักษาราชการผู้บังคับการตำรวจทางหลวง (ผบก.ทล.) พร้อมนำเบาะแสสำคัญไปมอบให้เพื่อนำไปสู่หลักฐานที่จะสามารถมัดตัวผู้กระทำผิดได้
สำหรับข้อมูลส่วยที่ได้รับจากผู้หวังดี เริ่มมีข้อมูลซ้ำ จึงจะนำข้อมูลที่ซ้ำมารวบรวม และสรุป โดยตอนนี้มีข้อมูลของสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยชุดนึง และข้อมูลของเราอีกชุดนึง ซึ่งก็มีบางส่วนที่ตรง และไม่ตรงกัน แต่ทั้ง 2 ชุดนี้จะถูกส่งให้ทางจเรตำรวจ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จเรตำรวจจะส่งมอบให้กับ พล.ต.ต.จรูญเกียรติในลำดับถัดไปอีกทีนึง
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มั่นใจคณะทำงานของจเรตำรวจหรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า มีความมั่นใจ ซึ่งต้องยอมรับว่า การให้สัมภาษณ์หลายๆ ครั้งของ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ และจเรตำรวจแห่งชาติดีมาก ทั้ง 2 เข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะแต่เดิมที่ประชาชนจะให้เบาะแสการกระทำผิด ก็จะเจอกับตำรวจระดับสูงในยุคก่อนที่จะถามหาหลักฐานก่อน ซึ่งประชาชนจะมีความสามารถอะไรที่จะไปหาหลักฐานที่มัดตัวผู้กระทำผิดได้ ดังนั้นหน้าที่การสืบสวนเบาะแสที่ได้จากประชาชน จะต้องเป็นของตำรวจ
นายวิโรจน์ ยังให้กำลังใจการทำงานของ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ และจเรตำรวจที่กำลังทำงาน ขอไม่กดดันเรื่องกรอบเวลาทำงานของทางตำรวจ เพราะความคืบหน้ากำลังไปได้ด้วยดี ซึ่งข้อมูลที่จะไปยื่นให้เป็นเบาะแสสำคัญ และเป็นบทสรุปของทั้งสหพันธ์ฯ และของตนเอง เพื่อให้หาตัวผู้มีส่วนเจ้าหน้าที่ราชการที่มีส่วนกับการกระทำความผิด และเป็นทำให้ข้าราชการที่ดีไม่เสียกำลังใจ
เมื่อถามถึงอุปสรรคของการปราบปรามเรื่องส่วยอะไรยากที่สุด นายวิโรจน์ ระบุว่า ปัญหาที่สำคัญที่สุดคือกฎหมาย หากล้าสมัย ไม่สอดคล้องกับการปฎิบัติงานจริง เจ้าหน้าที่บางคนก็จะใช้เป็นเครื่องมือในการรีดไถ สร้างความรำคาญใจเพื่อเรียกรับผลประโยชน์กับประชาชน รวมถึงเรื่องบทกำหนดโทษที่หนักเกินไป ก็จะเอื้อให้กับพนักงานสอบสวนบางรายเปลี่ยนโทษให้เป็นผลประโยชน์ และเรื่องระเบียบของการบังคับใช้กฎหมายที่ให้เจ้าหน้าที่ใช้ดุลพินิจหรืออำนาจที่ล้นเกิน ก็อาจจะส่งผลให้เกิดปัญหารีดไถ
ทั้งนี้ นายวิโรจน์ มองว่า สิ่งแรกที่จะต้องทำ คือ การรื้อฟื้นความเชื่อมั่นของตำรวจ ขจัดปัญหาที่มาจากการซื้อตำแหน่งก่อให้เกิดระบบส่งส่วย และเกิดคอร์รัปชั่นแบบฝังรากลึก นำไปสู่ระบบการหากินบนความเดือดร้อนของประชาชน ที่จะต้องถูกรื้อฟื้นระบบคุณธรรม และทำให้ข้าราชการที่ตั้งใจทำงานสุจริตในหน้าที่ได้เติบโตในหน้าที่ทำงานสำคัญมาก และคิดว่า รัฐบาลก้าวไกลจะทำให้ข้าราชการที่ทำงานสุจริตกลับมามีรอยยิ้ม และภาคภูมิใจในการเป็นข้าราชการอีกครั้งนึง