“วิโรจน์” หารือจเรตำรวจแห่งชาติ-รักษาการ ผบก.ทางหลวง 8 มิ.ย.นี้ ปม “ส่วยสติกเกอร์” บอกเชื่อมือ “ผู้การฯ จรูญเกียรติ” ประวัติตรงฉิน มั่นใจเบาะแส หลักฐานสำคัญ มัดตัวคนทำผิดได้
วันนี้ (5 มิ.ย.) นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบส่วยสติกเกอร์ร่วมกับสมาพันธ์การขนส่งทางบก ว่า หลังจากได้ประชุมร่วมกันในสัปดาห์ที่แล้ว ตนจะนำเบาะแสที่ได้จากสมาพันธ์ฯ รวมทั้งหลักฐานที่ได้จากพลเมืองดี นำไปให้จเรตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ผบก.ปปป.) รักษาราชการแทน ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง (ผบ.ทล.)
“ผมคิดว่า จะนำไปให้คราวเดียวกันเลย จะได้ประหยัดเวลา และผมคิดว่า ตรงนี้เป็นเบาะแสสำคัญ ส่วนหลักฐานมัดแน่นต้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งมีกำลังในการสืบสวนสอบสวน ในการไล่เรียงตรวจสอบอีกที หากเป็นหลักฐานมัดแน่นไปที่คนใด ผมเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจคงดำเนินการตามกฏหมายต่อไป” นายวิโรจน์ กล่าว
เมื่อถามว่า มีการนัดวันเข้าพบหรือยัง นายวิโรจน์ กล่าวว่า เป็นวันพฤหัสบดีที่ 8 มิ.ย. นี้ เวลา 13.00 น. ที่สำนักงานจเรตำรวจแห่งชาติ ซึ่งตนจะไปพร้อมกับสมาพันธ์ฯ โดยมีข้อมูล 2 ส่วน ส่วนหนึ่งเป็นของสมาพันธ์การขนส่งทางบก อีกส่วนเป็นข้อมูลจากพลเมืองดีที่มอบให้ตน
“ที่ผ่านมา หลายครั้งการสื่อสารของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็สื่อสารแบบผิดหลักการ ที่บอกว่า ถ้าประชาชนคนใดมีหลักฐานมัดตัวแน่นหนา ก็ส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ก็จะไปดำเนินการจัดการไม่ละเว้น แต่จริงๆ แล้ว สิ่งที่ภาคประชาชนให้ได้ก็แค่น่าจะเป็นเบาะแสสำคัญในการชี้เบาะแส ส่วนการหาหลักฐานในการดำเนินคดี ก็ต้องเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะมีกำลังในการสืบสวนสอบสวน” นายวิโรจน์ กล่าว
เมื่อถามว่า เป็นการตรวจสอบตำรวจด้วยกันเอง มั่นใจหรือไม่ว่ากระบวนการจะมีความโปร่งใส นายวิโรจน์ กล่าวว่า ยังมีความมั่นใจ เพราะตำรวจที่เข้ามาทำเป็นจเรตำรวจ ซึ่งมีหน้าที่ชัดเจนในเรื่องการสอดส่องการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจด้วยกัน
“ท่านผู้การฯ จรูญเกียรติ ประวัติท่านก็ตรงฉิน ยังมีความไว้วางใจ แต่ที่ผมบอกว่า การสืบสวนสอบสวนและการดำเนินคดีตามกฎหมาย ก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ตำรวจไป ณ จุดนี้ ทางเราเองก็ยังไม่มีอำนาจบริหาร หรืออำนาจหน้าที่เข้าไปสั่งการ คงต้องเชื่อใจเจ้าหน้าที่ตำรวจ” นายวิโรจน์ กล่าว
นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า สิ่งที่คงต้องทำหลังจากนี้ คงจะต้องดึงเอากฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น กฎกระทรวง ประกาศต่างๆ รวมถึงพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก เข้ามาพิจารณาในรายละเอียดว่ามีกฎหมายอะไรที่ไม่สอดคล้องกับหน้างานจริง และถูกใช้เป็นเครื่องมือในการรีดไถประชาชน นอกจากนี้ยังต้องดูไปถึงเรื่องโทษและวิธีบังคับใช้กฎหมายด้วย ว่าเป็นการให้ดุลพินิจหรืออำนาจกับเจ้าหน้าที่ที่ล้นเกินไปหรือไม่
ส่วนที่พรุ่งนี้จะมีการประชุมคณะทำงานเปลี่ยนผ่านรัฐบาล นายวิโรจน์ กล่าวว่า ตนไม่ได้อยู่ในคณะทำงาน แต่การแก้ปัญหาคอร์รัปชันก็อยู่ใน MOU มีความสำคัญอยู่แล้ว คงต้องมีการพิจารณาในเรื่องนี้ด้วย รวมถึงอีกหลายเรื่อง เช่น การจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง การเรียกรับผลประโยชน์ในขั้นตอนการจดทะเบียนและต่อทะเบียน การขออนุญาตใช้รถบรรทุก คงต้องนำเข้าหารือในรายละเอียด