"ผู้การเต่า" เรียกประชุมคดีส่วยสติกเกอร์รถบรรทุก พบตำรวจทางหลวงรับส่วย 5-6 นาย เชื่อยังมีมากกว่านี้ เบื้องต้นเตรียมเรียกให้มาช่วยราชการก่อน หากพบหลักฐานชัดเจนก็จะดำเนินคดีอาญาอย่างเด็ดขาดต่อไป
วันนี้ (6 มิ.ย.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป. รักษาราชการแทน ผบก.ทล. เรียกประชุมชุดสืบสวนกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เพื่อตรวจสอบคดีส่วยสติกเกอร์รถบรรทุก หลังจากที่ได้ให้แต่ละฝ่ายไปรวบรวมข้อมูลเพื่อมากำหนดแนวทางการสืบสวนและดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า วันนี้เป็นการประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าหลังให้แต่ละฝ่ายเร่งรวบรวมข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเรียกรับส่วยสติกเกอร์รถบรรทุก โดยข้อมูลเบื้องต้นเชื่อว่าอาจจะมีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบให้แน่ชัด และ หากพบว่าเป็นบุคคลใดก็จะดำเนินการทั้งทางปกครอง วินัย และอาญา โดยไม่มีการละเว้น ทั้งนี้ก็เพื่อจะทำให้ตำรวจทางหลวงมีความโปร่งใสยิ่งขึ้น และคาดว่าภายในสัปดาห์นี้จะเริ่มชัดเจนว่าจะมีใครเกี่ยวข้องบ้าง
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยังกล่าวถึง กรณีที่มีกระแสข่าวสติกเกอร์รูปกระต่ายเป็นของภรรยารอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม นายหนึ่ง ว่า ยังรอข้อมูลนี้มาประกอบการสืบสวน แต่ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับฝ่ายที่ถูกกล่าวหาด้วย สำหรับการทำงานของชุดสืบสวนนี้ ยืนยันว่าจะไม่หมกเม็ด ตั้งใจจะมาแก้ปัญหา และให้ความเป็นธรรมกับทั้งสมาพันธ์รถบรรทุก และตำรวจที่ถูกกล่าวหา ส่วนข้อมูลของนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ที่เป็นคนออกมาเปิดเผยข้อมูลต่างๆ ทางชุดสืบสวนก็ได้ติดต่อขอข้อมูลเพื่อมาใช้ร่วมสืบสวนไปด้วย และรอการเข้ามาให้ข้อมูลอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
ต่อมาเวลา 12.30 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมว่า ขณะนี้พบว่ามีตำรวจทางหลวง 5-6 นาย เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เตรียมเรียกให้มาช่วยราชการภายใน 1-2 วันนี้ และหากพบพยานหลักฐานทำความผิดทางอาญาชัดเจนก็จะดำเนินคดีตามขั้นตอน สำหรับพฤติการณ์ของตำรวจชุดนี้ยังไม่ขอเปิดเผย แต่เบื้องต้นเป็นการสอบปากคำจากผู้เสียหาย ที่ให้การเป็นประโยชน์และเข้าข่ายความผิด และเชื่อว่าจะมีผู้กระทำความผิดมากกว่า 6 นายนี้ แต่ขอเวลาให้ชุดสืบสวนดำเนินการรวบรวมหลักฐานให้ชัดเจนก่อน ซึ่งหากเกี่ยวข้องกับใครก็จะดำเนินคดีทั้งหมด
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวต่อว่า ส่วนผลการตรวจสอบข้อมูลการรับส่วยของแต่ละกองกำกับการของ ตำรวจทางหลวงได้ส่งผลรายงานมาให้แล้ว อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูล และชุดสืบสวนที่ตั้งขึ้นก็จะตรวจสอบคู่ขนานกันไปด้วยโดยวันนี้ยังได้ให้ชุดสืบสวน ไปตรวจสอบตามสถานีตำรวจทางหลวงทั่วประเทศกว่า 50 จุด โดยเฉพาะด่านช่างน้ำหนักที่เคยมีข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการรับส่วยสติกเกอร์ โดยจะตรวจสอบย้อนหลังถึง 2 ปี และให้รายงานผลมาโดยเร็ว
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีภรรยาของรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม ทำสติกเกอร์จำหน่ายให้กับรถบรรทุก ชุดสืบสวนมีข้อมูลแล้ว แต่เป็นอีกส่วนที่จะสืบสวนคู่ขนานกัน ซึ่งในชุดสืบสวนนี้จะตรวจสอบในหน่วยของตำรวจทางหลวงไปก่อน ขณะที่ตำรวจยังรอข้อมูลจากนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ส.ส.พรรคก้าวไกล และสมาพันธ์รถบรรทุก ส่งข้อมูลมาให้ร่วมตรวจสอบกับจเรตำรวจแห่งชาติ ในวันที่ 8 มิถุนายนนี้ จากนั้นเมื่อได้ข้อมูลก็จะนำมารวมกันกับชุดสืบสวน และจะส่งเรื่องมาให้ตำรวจป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ปปป. ดำเนินคดีต่อไป