“อุทัย” ชี้ “ประธานสภา” ควรตกลงในรัฐบาล เชื่อ ส.ส.รุ่นใหม่ เป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติได้ ย้ำ อายุ-แม่นข้อบังคับไม่จำเป็น มั่นใจ คุณภาพ ส.ส.สมัยนี้ไม่ได้ขี่ควายเข้าสภา
วันนี้ (25 พ.ค.) นายอุทัย พิมพ์ใจชน อดีตประธานรัฐสภา มองบทบาทประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ถูกจับตาว่าจะเป็นผู้มาจากพรรคที่คะแนนเสียงอันดับหนึ่ง หรือจากพรรคร่วมรัฐบาล ว่า ในอดีตส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนของรัฐบาล เพราะรัฐบาลมีหน้าที่ขับเคลื่อน และหลายอย่างต้องผ่านสภา เพื่อควบคุมการผลักดันกฎหมายของรัฐบาล แต่โดยจรรยาบรรณและรัฐธรรมนูญ กำหนดว่ารัฐสภาต้องวางตัวเป็นกลางในทางหลักการ แต่ในทางปฏิบัติต้องเป็นคนของรัฐบาล ส่วนตัวมองว่าผู้ที่ทำหน้าที่บนบัลลังก์ควรจะ เหมือนคอนดักเตอร์ การควบคุมอยู่ที่ไม้ในมือ หากผู้ฟังฟังจนจบได้ดีก็ประทับใจ ประธานสภาก็เช่นกัน หากควบคุมสมาชิกให้บรรยากาศการประชุมเป็นไปอย่างราบรื่น นอกจากนี้ควรมีความเป็นอิสระขาดจากพรรคการเมือง และโดยมารยาทจะไม่ไปเข้าร่วมประชุมกับพรรค
นายอุทัย กล่าวว่า ในส่วนของการควบคุมการประชุมต้องใช้ประสบการณ์หรือไม่ ส่วนตัวก็มองว่า สมัยที่ตนทำหน้าที่ ก็เป็นส.ส.ได้ 2 สมัย ก็มาทำหน้าที่เป็นประธานสภา นับว่าตนก็เป็นผู้แทนใหม่เช่นกัน ส่วนจะต้องแม่นข้อบังคับการประชุมด้วยหรือไม่นั้น เห็นว่า ไม่มีความจำเป็น เพราะคุณภาพของ ส.ส.สมัยนี้ไม่ได้ขี่ควายเข้าสภาแล้ว เป็นผู้มีการศึกษา แค่ข้อบังคับการประชุมไม่เกิน 100 หน้า เชื่อว่า สมาชิกก็สามารถอ่านและทำความเข้าใจได้ ส่วนพรรคจะเลือกใครมาทำหน้าที่ก็ย่อมเลือกคนที่เคยอยู่ในสภาอยู่แล้ว ผ่านตาในเรื่องของการประชุม และปัญหาระหว่างการประชุม สำคัญอยู่ที่ใจต้องวางตนเป็นผู้ใหญ่
“ตำแหน่งทางการเมืองถือเป็นตำแหน่งใหญ่ คนที่อยากเป็นใหญ่หรือเป็นใหญ่แล้วก็ต้องใหญ่ให้เป็น ถ้าเป็นใหญ่และใหญ่เป็นก็ย่อมไม่มีปัญหา ตำแหน่งประธานสภา ถ้านึกถึงตัวเองเป็นคอนดักเตอร์ จะทำให้การประชุมเกิดความสนุกสนานได้ด้วย ไม่ให้มีการโดดร่มของ ส.ส. หรือทำให้ ส.ส.เบื่อหน่ายการประชุม รวมถึงประชาชนที่ติดตาม ก็จะรับผลงานได้ และมีท่วงทีวาจาที่น่าฟัง ซึ่งส.ส.สมัยใหม่มีความเก่ง ขยันค้นหาข้อมูล ไม่จำเป็นต้องเอาคนที่อาบน้ำร้อนมาก่อน ถ้าค้นหาข้อมูลได้เยอะกว่าก็มีประสบการณ์เหมือนกัน”
นายอุทัย กล่าวว่า เวลานี้การจัดตั้งรัฐบาลเป็นไปในลักษณะรัฐบาลผสม ผู้ที่จะมาชิงชัยตำแหน่งประธานสภา ก็ควรจะเป็นคนที่ตกลงกันในพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว ย้ำว่า ส่วนตัวไม่อยากให้กังวลในเรื่องของอายุผู้มาทำหน้าที่ เพราะคนอายุน้อยทำตัวเป็นผู้ใหญ่ก็มี พร้อมกับอยากฝากถึงประธานสภารุ่นต่อไป อย่าคิดว่าบ้านเมืองต้องเป็นของเรา แต่บ้านเมืองเป็นของประชาชน ยึดประชาชนเป็นหลัก ฟังเสียงข้างมากที่มาจากประชาชน