อดีตสมาชิก พปชร. ยื่นร้อง กกต. ยุบ 8 พรรค จัดตั้งรัฐบาล เหตุการทำ MOU ทำให้นักการเมือง-ส.ส. ไม่เป็นอิสระ มีการเจรจาต่อรอง ยอมให้คนนอกชี้นำครอบงำ จี้ เร่งส่งศาล รธน. วินิจฉัย
วันนี้ (24 พ.ค.) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เข้ายื่นคำร้องต่อ กกต.ขอให้พิจารณาและส่งศาลรัฐธรรมนูญ ยุบพรรคก้าวไกล และอีก 7 พรรคการเมือง ที่ร่วมตั้งรัฐบาล เนื่องจากเห็นว่า การทำบันทึกข้อตกลง (MOU) ที่พรรคก้าวไกล ทำร่วมกับอีก 7 พรรคการเมือง เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2566 เข้าข่ายพรรคก้าวไกล และ 7 พรรคการเมือง ยอมให้บุคคลอื่นที่ไม่ใช่สมาชิกพรรคการเมือง ชี้นำครอบงำ ควบคุมการดำเนินกิจกรรมของพรรค เป็นการฝ่าฝืนมาตรา 28 พ.ร.ป. ว่าด้วยพรรคการเมืองปี 2560 เป็นเหตุให้ต้องยุบพรรค
“เรื่องนี้มีพฤติกรรมตั้งแต่ก่อนเซ็น MOU แล้ว มีการต่อรองกันไปมาเรื่อง เนื้อหาที่จะเขียนลงไว้ใน MOU มีการต่อรองกัน นั่นคือเหตุผลข้อเท็จจริงก่อนเซ็น มันประกอบด้วยเรื่องนี้ เนื้อหาแบบนี้ ซึ่งผมตามมาตลอด จึงรู้ว่าต้องนำกฎหมายใดมาใช้ มีนักการเมืองหลายคนที่อยู่ในพรรคร่วม ที่เซ็น MOU แต่ถ้าจะให้ร้องเรียนเฉพาะพรรคก้าวไกล โดยไม่ต้องร้องเรียนอีก 7 พรรคการเมือง ทำไม่ได้ เพราะถือเป็นพรรคร่วมรัฐบาลเหมือนกัน ข้อเท็จจริงมีนิดเดียวอยู่ตรงนี้ คือ การทำ MOU และการเจรจาต่อรองกันมาก่อนหน้านี้ และผมขีดเส้นใต้ให้ กกต.ทราบชัดเจน
นายเรืองไกร กล่าวด้วยว่า การยื่นร้องเรียนให้ กกต. ตรวจสอบ ไม่ได้กังวลต่อประเด็นที่อาจโดนทำร้ายร่างกาย เหมือนที่ นายศรีสุวรรณ จรรยา โดนก่อนหน้านี้ ยืนยันจะเดินหน้าตรวจสอบต่อไป หากพบการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งจากพรรคการเมือง เพราะถือว่าทำหน้าที่ในฐานะประชาชน ที่มีสิทธิตรวจสอบ