“หญิงหน่อย” เผย ยังไม่คุยเก้าอี้กระทรวง หน้าที่ก้าวไกลประสาน ส.ว. รับปมหุ้นไอทีวี “พิธา” จะทำก็ทำได้ แต่หวั่นวิกฤต ปชช.รับเคราะห์ “ศิธา” ลั่น หากเดตล็อกการเมือง พร้อมจับมือฝ่าย ปชต.- ไม่เอา 2 ลุง
วันนี้ (18 พ.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. ที่โรงแรมโอกุระ เพลส ทีจ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังร่วมแถลงจัดตั้งรัฐบาล 8 พรรค ที่มีพรรคก้าวไกล เป็นแกนนำ ว่า เราคิดตรงกัน คือ การตั้งคณะทำงานเพื่อเอานโยบายที่ดีของแต่ละคนมาผลักดัน ซึ่งยังไม่มีการพูดคุยในเรื่องของกระทรวงใดๆ โดยสิ่งที่เริ่มต้น คือ เรื่องนโยบาย ส่วนการพูดคุยกับ ส.ว.นั้น ตนยังไม่มีการพูดคุยอะไร เพราะหน้าที่ในการประสานตรงนี้ พรรคก้าวไกลรับหน้าทีไปดูแล ถ้ามีอะไรให้เราช่วยเราพร้อมดำเนินการ ซึ่งจะเริ่มไปพูดคุยในวันนี้ เท่าที่ตนทราบแกนนำก้าวไกลได้ประสาน ส.ว.ไปบางส่วน
เมื่อถามว่า ในฐานะที่อยู่การเมืองมานาน คาดการณ์กรณีศาลรัฐธรรนูญจะวินิจฉัยกรณีถือหุ้นไอทีวีของนายพิธา ไปในแนวทางใด คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า จะทำก็ทำได้ แต่ตนก็ภาวนาในฐานะที่เป็นนักการเมือง และลงพื้นทีหาเสียง เราก็สงสารประชาชน เราไม่ได้คิดว่า พรรคไหนจะโดนอะไร เราก็เคยโดนกันมานาน แต่ว่าอะไรจะเกิดมันก็เกิดขึ้นได้ แต่อยากขอร้องทุกฝ่าย ทั้ง ส.ว.และพรรคการเมืองต่างๆ ประชาชนอยู่ไม่ไหวแล้ว ถ้าเกิดเหตุการณ์อะไรที่ไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ และทำให้เกิดวิกฤตของประเทศ คนที่รับเคราะห์มากที่สุด คือ ประชาชน
เมื่อถามว่า หากโหวตนายกฯรอบแรกไม่ผ่าน แล้วมีการโหวตรอบ 2 จะทำอย่างไร คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ตอนนี้ยังตอบไม่ได้ แต่เราทำตามสัญญาประชาชน จะสนับสนุนพรรคที่ได้เสียงอันดับหนึ่งตั้งรัฐบาล
ถามว่า หากเป็นการพลิกขั้วไปเลย จะเป็นอย่างไร คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ต้องดูก่อนว่าหน้าตาเป็นอย่างไร เพราะเราไม่ได้กระหายที่จะเป็นรัฐบาล ทำอะไรก็ได้ที่ถูกต้อง
ด้าน น.ต.ศิธา ทิวารี แกนนำพรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงกรณีที่มีนักร้องเรียนพยายามร้องเรียนโจมตีพรรคก้าวไกล ว่า ถ้าจะตีความตามตัวกฎหมาย และรัฐธรรมนูญที่ร่างมาโดยรัฐบาลชุดที่แล้ว ถ้าคิดอันนี้เป็นกรอบ ก็สามารถจะทำอะไรได้หลายอย่าง แต่ถ้ามองว่าขณะนี้เป็นนิมิตอันดีตามที่โลกโซเชียล บอกว่า ได้กลิ่นความเจริญ และประชาชนมีฉันทานุมัติเลือก ส.ส.เข้ามา และเข้ารวมกันได้เกินกว่า 60% ของสภา เมื่อตัวเลขเป็นแบบนี้ เราก็ต้องการอะไรที่ดีกว่านี้ เราต้องการพรรคร่วมรัฐบาลมากกว่านี้ เพื่อจะไปผ่านกฎเกณฑ์ที่เผด็จการได้ร่างมา เรามาร่วมพัฒนาประเทศ พัฒนาประชาธิปไตยกันใหม่ ส่วนอะไรที่ติดขัดทั้งเรื่องรัฐธรรมนูญ ข้อกฎหมาย ตัวบุคคลที่ถูกฝังรากเข้าไป เราก็ช่วยกันทำให้ถูกต้อง ให้ระบบตรวจสอบถ่วงดุลกลับมา ถูกคือถูก ผิดคือผิด เรายังมีเวลาที่ ส.ว.และพรรคการเมือง จะมาพูดคุยกันด้วยเหตุผลอย่างมีวุฒิภาวะว่าจะทำให้ประเทศเดินไปข้างหน้าอย่างไร
เมื่อถามว่า หากมีการเดตล็อกเกิดขึ้น จะจับมือกับพรรคเพื่อไทยตั้งรัฐบาลหรือไม่ น.ต.ศิธา กล่าวว่า จุดยืนเราชัดเจนตั้งแต่ก่อนเลือกตั้งว่าเราสนับสนุนพรรคประชาธิปไตย ซึ่งเราจับมือกับทุกคนที่ไม่สนับสนุน 2 ลุง เพราะ 9 ปีที่ผ่านมา ตนเข็ดแล้ว และเราต้องการให้ฝ่ายประชาธิปไตยแข็งแรง นำพาประเทศไปได้ วันนี้เพื่อไทยกับก้าวไกลเขารวมกันเสียงก็เพียงพอแล้ว แต่ต้องการให้มากขึ้นเพื่อไปชนะกฎเกณฑ์ที่บิดเบี้ยว เราขอแค่ปลดล็อกไอ้เข้ที่ขวางคลองอยู่ เรือเราก็ไปได้แล้ว
เมื่อถามว่า ถ้าพรรคก้าวไกลแก้กฎหมายบางอัน พรรคไทยสร้างไทย ยินดีจะเซ็นเอ็มโอยู หรือไม่ น.ต.ศิธา กล่าวว่า เรายืนยันว่าเราจงรักภักดีต่อสถาบัน พรรคการเมืองต้องจงรักภักดีต่อสถาบัน และยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตนเชื่อว่า ทุกคนจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ แต่ในการต่อสู้กัน อาจจะมีพูดเกินเลยไปบ้าง เชื่อว่าต้องลองไปพูดคุยแต่ละท่านว่าคิดเห็นอย่างไร เราไปตอบแทนใครไม่ได้ แต่สิ่งที่ตนยืนยันขณะนี้เราพูดเรื่อง มาตรา 112 มาก มีคนโดนรังแกจากตรงนี้ ก็น่าจะปรับให้ดีขึ้น