“ทนายเล็ก” ฟันธง “พิธา” เป็นเจ้าของหุ้นอย่างสมบูรณ์ ในฐานะหนึ่งในทายาทโดยธรรม และแสดงตนรับโอนหุ้นในฐานะผู้จัดการมรดก ผู้มีสิทธิได้รับมรดกแล้ว รอดยาก!
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (10 พ.ค. 66) เพจเฟซบุ๊ก วรพรรณ เบญจวรกุล หรือ “ทนายเล็ก” โพสต์ภาพ “พิธา” พร้อมข้อความระบุว่า
“บุคคลใดถึงแก่ความตาย มรดกของบุคคลนั้นจะตกทอดแก่ทายาทโดยธรรม ทันทีที่ตาย...
ผู้จัดการมรดกซึ่งเป็นทายาทโดยธรรม มีสิทธิในทรัพย์สินที่เป็นมรดกร่วมกับทายาทอื่น
ทรัพย์มรดกที่ยังไม่ได้แบ่ง ให้ถือว่า ผู้จัดการมรดกถือไว้แทนทายาทอื่นด้วย...
หุ้นที่เป็นมรดกตกทอด ผู้จัดการมรดกเข้าถือหุ้นแทนทายาทคนอื่นด้วยก็จริง แต่ตัวผู้จัดการมรดกเองก็คือทายาทโดยธรรมคนหนึ่งที่มีสิทธิในหุ้นที่เป็นกองมรดกของบิดาผู้วายชนม์ ดังนั้นก็ถือว่าผู้จัดการมรดกเข้าถือครองหุ้นในส่วนของตนเช่นกัน ตามอัตราส่วนของหุ้นที่เป็นมรดกหารด้วยจำนวนทายาทโดยธรรม
การเป็นเจ้าของหุ้น เริ่มตั้งแต่เจ้ามรดกเสียชีวิต หุ้นนั้นก็จะตกเป็นของทายาททันทีที่เจ้ามรดกเสียชีวิตตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1599 เมื่อบุคคลใดตาย มรดกของบุคคลนั้นตกทอดแก่ทายาท
ดังนั้น การที่ นายพิธา อ้างว่า “ไม่ใช่หุ้นของผม เป็นกองมรดก ผมเพียงมีฐานะผู้จัดการมรด“” นั้น จึงไม่ถูกต้อง....เพราะ
(1) นายพิธา คือ หนึ่งในทายาทโดยธรรม หุ้นนั้นตกเป็นของนายพิธาและทายาทอื่นด้วยทันทีที่บิดาเสียชีวิต
(2) นายพิธา แสดงตนรับโอนหุ้นในฐานะผู้จัดการมรดกและในฐานะทายาทโดยธรรมผู้มีสิทธิได้รับมรดกแล้ว
การเป็นเจ้าของหุ้นในส่วนของนายพิธา จึงสมบูรณ์แล้ว
(หลักฐานชัดเจนแบบนี้....คงรอดยาก)
ทนายเล็ก/”
ทั้งนี้ เนื่องมาจากเมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2566 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ทวีตข้อความถึงกรณี นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เตรียมยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ตรวจสอบการถือหุ้นสื่อมวลชน ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98(3) กรณีถือหุ้น ITV มีคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้ามไม่ให้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.หรือไม่
นายพิธา กล่าวว่า กรณีหุ้น ITV ไม่มีความกังวล เพราะไม่ใช่หุ้นของผม เป็นของกองมรดก ตนเองมีฐานะเป็นผู้จัดการมรดก และได้ปรึกษาและแจ้งต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไปนานแล้ว...