โฆษกรัฐบาล เผย นายกฯ ยินดีแนวทางการทำงานและวิสัยทัศน์สถาบันยานยนต์สอดคล้องนโยบายรัฐบาล พร้อมผลักดันประเทศไทยเข้าสู่การเป็นสังคมคาร์บอนต่ำ พลิกโฉมสู่ยานยนต์แห่งอนาคต
วันนี้ (2 เม.ย.) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีที่แนวทางปฏิบัติงานในอนาคตของสถาบันยานยนต์ (สยย.) ภายใต้ความคิด “Reshape the future พลิกโฉมสู่ยานยนต์แห่งอนาคต” สนับสนุนภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ตามเป้าหมาย รวมถึงเป็นอีกกลไกสำคัญที่จะนำพาประเทศไทยเข้าสู่การเป็นสังคมคาร์บอนต่ำ นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นความร่วมมือนี้จะผลักดันให้ไทยผ่านช่วงการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีพร้อมรับโอกาสใหม่
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากการตั้งเป้าการผลิตรถ ZEV (Zero Emission Vehicle) หรือรถที่ปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ให้ได้อย่างน้อย 30% ตามมาตรการด้านการผลิต 30@30 เพื่อผลักดันไทยก้าวเข้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Society) ซึ่งในปี 2566 มีการประมาณตัวเลขการผลิตรถยนต์ในประเทศอยู่ที่ 1,950,000 คัน แบ่งเป็น การผลิตเพื่อการส่งออก 1,050,000 คัน และผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 900,000 คัน และคาดการณ์ว่า ในปี 2573 ประเทศไทยจะมีการผลิตรถยนต์เพิ่มขึ้นที่ 2.4 ล้านคัน และมีตัวเลขการผลิตรถ ZEV จำนวน 725,000 คัน ทั้งนี้ คาดว่า ตั้งแต่ปี 2566-2573 มีอัตราการผลิตรถยนต์เจริญเติบโตขึ้น 3.5% ต่อปี ทำให้ไทยมีบทบาทในการเป็นฐานการส่งออกเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจากมาตรการดังกล่าว สถาบันยานยนต์จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบ Business Model เพื่อสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ให้เป็นไปตามเป้าหมาย ซึ่งจะมีแนวทางดำเนินงานใหม่ด้วยยุทธศาสตร์ “3 Ribbons Strategy” หรือยุทธศาสตร์โบว์ 3 สี ฟ้า เขียว ขาว ประกอบด้วย สีฟ้า (Blue Ocean) คือ การสร้างนวัตกรรม สีเขียว (Green Growth) คือ การสร้างความยั่งยืน และ สีขาว (White Spirit) คือ การสร้างความน่าเชื่อถือ มีประสิทธิภาพ และธรรมาภิบาล
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลต้องการผลักดันการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ให้มีความพร้อม เป็นฐานผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนที่สำคัญของโลกเป็นศูนย์กลางสำคัญของภูมิภาค เติบโตและเข้มแข็งอย่างมีศักยภาพ เพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลง และนำพาประเทศไทยในการก้าวเข้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำ
“นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญในการส่งเสริมสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ ควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อม เพื่อสังคมที่สมดุล พัฒนาเศรษฐกิจตามกลไกเพื่อความยั่งยืน นายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าด้วยการดำเนินนโยบายของรัฐบาลมาอย่างต่อเนื่อง ไทยมีความสามารถในการแข่งขันที่สูงในระดับสากล ประกอบกับ ศักยภาพของอุตสาหกรรมยานยนต์ ไทยพร้อมเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ของภูมิภาค และพร้อมพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ผ่านช่วงเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์สมัยใหม่” นายอนุชา กล่าว