“เพื่อชาติ” เปิด “จารุพล-หมอเรวัต” แคนดิเดตนายกฯ มั่นใจพรรคได้เกิน 25 ที่นั่ง เสนอชื่อนายกฯได้ “จารุพล” ลั่นปฏิวัติการเกษตรให้หาเงินได้ทั้งปี “วรัญชัย” ลง ส.ส.กทม.เขต 1
เมื่อวันที่ 31 มี.ค. 66 ที่ศูนย์นโยบายมีชีวิตพรรคเพื่อชาติ (Live Policy Center) ปากซอยสุขุมวิท 12 พรรคเพื่อชาติจัดกิจกรรม “เพื่อชาติ ประกาศความพร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง ปี 66” เพื่อเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อชาติ โดยมี น.ส.ปวิศรัฐฐ์ ติยะไพรัช หัวหน้าพรรค, ร.อ.จารุพล เรืองสุวรรณ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อชาติ, นายปวีย์ภัทร วัฒนศิริเศรษฐ เลขาธิการพรรค รวมถึง นายยงยุทธ ติยะไพรัช ที่ปรึกษาพรรค เข้าร่วม โดยมีประชาชนมาติดตามให้กำลังใจแคนดิเดตนายกฯของพรรคจนเต็มพื้นที่
สำหรับแคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทยคนที่ 1 คือ นพ.เรวัต วิศรุตเวช อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย และคนที่ 2 คือ ร.อ.จารุพล
โดย นพ.เรวัต กล่าวว่า ไม่ใช่ความฝันที่ตนมาที่นี้ แต่มาเพราะความเชื่อว่าพรรคเพื่อชาติเป็นพรรคที่สดใหม่ มีชีวิตชีวา ประกอบด้วยพลังคนหนุ่มสาว ที่ต้องประสบประชากรรมที่ประเทศจมปลักในวิกฤตปัญหาที่ต้องรีบแก้ไข ซึ่งรากเหง้าของปัญหาเกิดจากการเอารัดเอาเปรียบของผู้มีอำนาจ ประเทศไม่มีนิติรัฐนิติธรรมนานหลายปี และเรามีพลังคนหนุ่มสาวที่อยากจะก้าวผ่านปัญหา ตนจึงเชื่อว่าพรรคเพื่อชาติมีโอกาสชนะ เพราะความสำเร็จรอเราอยู่ข้างหน้า วันนี้พวกเรามีทั้งความพร้อม ความกล้าที่จะเดินไปหามัน
ร.อ.จารุพล กล่าวว่า ประเทศไทยเหมาะกับการทำการเกษตร แต่ไปมุ่งเรื่องอุตสาหกรรมตามประเทศยุโรป ดังนั้น พรรคเพื่อชาติเราจะออกแบบประเทศใหม่เริ่มจากการปฏิวัติการเกษตร ทวงคืนจุดแข็งของเราคืนมา ใช้วิถีทางธรรมชาติผันน้ำจากที่สูงลงที่ต่ำ เอาวิถีการเกษตรผสมการท่องเที่ยว การกีฬา สร้างหน่วยผลิตในชุมชนบริหารสินค้าร่วมกันอย่างเป็นระบบให้ประชาชนมีรายได้ทั้งปี พรรคเพื่อชาติจะพาประชาชนกลับบ้าน เราจะปกป้องคนไทยเหมือนการปกป้องชาติเพราะชาติคือประชาชน ทิศทางการต่างประเทศ เราจะมุ่งหาเงินให้ประเทศ คือการเกษตร การท่องเที่ยว เอสเอ็มอี ครีเอทีฟอีโคโนมี และเราจะต่อสู่กับความไม่เท่าเทียมในสังคม
โดยเฉพาะการเอื้อประโยชน์กันระหว่างนายทุนกับขุนศึก โดยเฉพาะหลังการรัฐประหาร เราจะแก้รัฐธรรมนูญปิดประตูการรัฐประหารให้ได้ ชีวิตที่เหลือหลังจากนี้ของตนและพรรคเพื่อชาติจะยืนอยู่กับคนทุกคนยาก เราจะเป็นตัวแทนต่อสู่กับความผูกขากความยุติธรรมให้ประชาชนมีศักดิ์ศรีเท่ากัน และการเป็นแคนดิเดตนายกฯอาจเป็นภาพที่สวยหรูของใครหลายคน แต่ตนไม่ใช่รางวัล แต่เป็นความรับผิดชอบของประชาชน ตนและพรรคเพื่อชาติยึดมั่นว่าความเป็นนายกฯคือผู้รับใช้ หากเราได้มีโอกาสจะเป็นผู้นำพร้อมไปกับผู้ตาม วันนี้พรรคเพื่อชาติพร้อมแล้วเดินหน้าสู่การเลือกตั้งเพื่อให้ได้ส.ส. 25 ที่นั่งชิงเก้าอี้นายกฯ เพื่อชาตินี้ไม่ต้องรอชาติหน้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในงานดังกล่าวยังมีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.ของพรรคเพื่อชาติ จำนวน 19 คน จาก 33 คน ประกอบด้วย เขต 1 นายวรัญชัย โชคชนะ, เขต 2 น.ส.เกศปรียา แก้วแสนเมือง, เขต 3 นายสันติ วิชัยพล, เขต 4 น.ส.ศณิศา จิรเสวีนุประพันธ์, เขต 5 น.ส.สิริวรรณ สกดผล, เขต 6 นายภากร แสงบรรจง, เขต 8 นายธีระบูล ชื่นสำราญ, เขต 10 นายณัฏฐ์ ภูวสันติ, เขต 12 น.ส.กษมปภา วรัชยารวีภาส
เขต 13 นายทินกร ฮารวนนท์, เขต 14 ว่าที่ ร.ต. กฤชณัท ปัญสุธิ์, เขต 17 นายสหรัฐ เจริญผล, เขต 18 นายชาย มาลี, เขต 22 นายอิทธิวัตร เพ็ชรมีไชยกุล, เขต 23 นายมูฮัมหมัด นอร์แมน กานตี้, เขต 24 นายศักดินนท์ บุญพนาศรี, เขต 25 ร.ท.ภาคย์ธณิศ นุชน้อย, เขต 27 นายณัฐวุฒิ อวนทะเล และเขต 33 น.ส.รัชนก ศรีทองแท้
ผู้ข่าวรายงานด้วยว่า สาเหตุที่พรรคเพื่อชาติ ไม่ส่ง น.ส.ปวิศรัฐฐ์ ติยะไพรัช หัวหน้าพรรค เป็นแคนดิเดตนายกฯ เนื่องจากปัจจุบัน น.ส.ปวิศรัฐฐ์ มีอายุเพียง 31 ปี ไม่ถึงเกณฑ์อายุ 35 ปีขึ้นไป ในการเป็นนายกฯหรือรัฐมนตรีตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้