“แรมโบ้” ฟาดนายกสมาคมไก่ หลับตาพูด สวนทางความจริง คนไทยตาสว่างแล้ว แต่นายกสมาคมไปอยู่ไหนมาถึงตามืดบอด จนมองไม่เห็นผลงานรัฐบาล ระวังจะถูกประชาชนเรียกขานประณามว่าเป็นนายกขี้ไก่
วันที่ 30 มีนาคม 2566 ดร.เสกสกล อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้ อีสาน ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ เป็นคณะกรรมการพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ออกมาตอบโต้ ไปยังทางด้าน ดร.ฉวีวรรณ คำพา นายกสมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และประธานกรรมการบริหาร บริษัทในเครือฉวีวรรณ กรุ๊ป ผู้ส่งออกเนื้อไก่ไทยรายใหญ่ของไทย ที่ได้ออกมาวิจารณ์การทำงานของรัฐบาล ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่ง ดร.ฉวีวรรณ บอกว่า การยุบสภาเพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่ ถือเป็นความหวังที่คนไทยจะได้มีโอกาสได้เลือกอนาคตของตัวเองอีกครั้งว่าจะย่ำอยู่กับที่ หรือร่วมกันเปลี่ยนแปลงประเทศให้ก้าวทันการเปลี่ยนไปของโลก โดยที่ผ่านมา 8 ปี นั้นประเทศนอกจากระบบการศึกษา เศรษฐกิจ และการคอร์รัปชันแล้ว หากใครได้มีโอกาสเดินทางไปพื้นที่ห่างไกลและทุรกันดาร จะเห็นได้ว่า ระบบสาธารณสุขทั้งในระดับหมู่บ้าน ตำบล หรือแม้แต่ระดับจังหวัดบางแห่งย่ำแย่ และไม่ได้รับการเหลียวแลจากภาครัฐ
ดร.เสกสกล กล่าวว่า ที่ผ่านมานั้น รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ นั้น ทำตรงกันข้ามกับที่ ทาง ดร.ฉวีวรรณ นายกสมาคมขี้ไก่ กล่าวมา เพราะประเทศไทยนั้นได้รับการประเมินในทุกมิติดีขึ้นจากองค์กรระดับโลกมาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ด้านสาธารณสุข ที่บอกว่าไร้การเหลียวแลจากภาครัฐ นั้น ประเทศไทยกลับได้รับการยกย่องจากองค์การอนามัยโลก ในการรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 และการให้บริการสาธารณสุขที่ทั่วถึง ไม่รู้ว่าท่านนายกสมาคมขี้ไก่ มัวทำอะไรอยู่ ถึงไม่เห็นผลงานของรัฐบาล ส่วนเรื่องการทุจริตคอร์รัปชันนั้น ที่ท่านกล่าวหา เป็นการกล่าวหาแบบเลื่อนลอย เพราะที่ผ่านมา ท่านนายกรัฐมนตรี นั้นบริหารงานมาไม่เคยมีเรื่องด่างพร้อย เกี่ยวกับการทุจริตคอร์รัปชัน ไม่เหมือนอดีตรัฐบาล ก่อนหน้าที่ดูเหมือน ท่านนายกสมาคมขี้ไก่ จะชื่นชอบ ที่ทุจริตคอร์รัปชันจนต้องหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศ
ส่วนเรื่องนโยบายขึ้นค่าแรงนั้น หากท่านคิดว่าการหาเสียงของพรรคเพื่อไทย ทำได้ 600 บาทต่อวัน ก็ขอให้เริ่มที่ลูกจ้างในสมาคมของท่านได้ทันที นำร่องเป็นตัวอย่าง ให้ภาคส่วนอื่นๆ ได้ทำตาม ที่ผ่านมา กระทรวงแรงงานนั้น ได้มีการยกระดับพัฒนาฝีมือแรงงาน และการจ้างงานอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ประเทศไทย มีอัตราการว่างงานต่ำที่สุด เป็นอันดับสองของโลก สอดคล้องกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ ในทุกด้าน ต้องถามกลับว่า ถ้าค่าแรงสูงจนผู้ประกอบการแบกภาระไม่ไหว นายกขี้ไก่จะรับผิดชอบแทนผู้ประกอบการได้ไหม
“วันนี้ ธุรกิจของท่านยังคงดำเนินอยู่ได้ตลอดมา ในช่วงที่เกิดภาวะโควิดระบาด 2 ปีกว่า ไม่ใช่เพราะฝีมือของรัฐบาล หรือ ที่ช่วยทำให้ภาคส่วนต่างๆ นั้น ยังคงสามารถรักษาผลประกอบการ และเดินหน้าทำธุรกิจได้อยู่ ดังนั้น การให้การพูดแบบเอาความดีเข้าตัว โดยโยนความผิดให้ผู้อื่น ผมว่าต้องเลิกได้แล้ว อย่าใช้สันดานของคนแดนไกล ที่ตัวเองเก่งทุกอย่าง แล้วมองคนอื่นกว่าแย่ทุกด้าน วันนี้คนไทย หูตาสว่างเขาเห็นกันหมดแล้วแล้วว่านายกที่ทำงานเพื่อประเทศไทย เพื่อคนไทย ทุ่มเทสุดกำลังชีวิต ก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่มีผลงานจนเป็นที่ยอมรับระดับโลก มีแต่นายกสมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่ ที่ออกมาพูดสวนทางความจริง ระวังจะถูกขนานนามว่า เป็น “นายกสมาคมเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ” จะเหมาะสมมากกว่าหรือไม่ เพราะคนไทยเขารู้กันหมดทั่วทุกหนทุกแห่ง ว่า นายกฯประยุทธ์ ทุ่มเทแก้ไขปัญหาทุกอย่างด้วยความตั้งใจ จนผ่านวิกฤตทุกอย่างไปได้ อย่าทำเป็นคนตาบอดมืดมิดจนมองอะไรไม่เห็น มีอคติส่วนตัวกับรัฐบาลมากไปหรือเปล่า ช่วยตอบเสียงฝากถามมาจากประชาชนด้วย” ดร.เสกสกล กล่าว