xs
xsm
sm
md
lg

“โทนี่” กลับบ้าน แค่เกมหาเสียง-มโนกินรวบ!?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ทักษิณ ชินวัตร - แพทองธาร ชินวัตร
เมืองไทย 360 องศา

โผล่มาในช่วงสำคัญทุกที สำหรับ “พี่โทนี่” นายทักษิณ ชินวัตร ผู้สนับสนุนคนสำคัญของพรรคเพื่อไทย ที่ล่าสุด เพิ่งให้สัมภาษณ์กับสื่อญี่ปุ่น บอกว่า จะกลับบ้าน มาติดคุก และไม่ต้องการพึ่งกฎหมายนิรโทษกรรรม เนื้อหาสำคัญก็ประมาณนี้ แต่จากคำพูด และท่าทีดังกล่าวทำให้คอการเมืองที่ติดตามความเคลื่อนไหวของเขามานาน จึงมองออกว่า นี่คือ เกมหาเสียงก่อนการเลือกตั้ง เพื่อให้สอดรับกับแนวทางของเขาที่เคยเร่งเร้าให้เลือกแบบ “มียุทธศาสตร์” ความหมายคือ ให้เลือกพรรคเพื่อไทยพรรคเดียว เพื่อหวังตั้งรัฐบาลพรรคเดียว และนี่คือ เป้าหมายต่อไป คือ “จะกลับบ้าน” ตอนที่ลูกสาว หรือพรรคเพื่อไทย เป็นรัฐบาล ซึ่งถึงตอนนั้นก็ไม่สำคัญแล้วว่าจะมาเข้าคุกหรือไม่ เพราะกุมอำนาจรัฐแล้ว

สำนักข่าวเกียวโดของญี่ปุ่น รายงานว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่หลบหนีคดีทุจริตไปอยู่ต่างประเทศ ประกาศว่า เขาพร้อมที่จะรับโทษจำคุกในไทยแลกกับการที่จะได้ใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับครอบครัว ไม่ว่าผลการเลือกตั้งทั่วไปในไทยที่กำหนดจะมีขึ้นในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ จะออกมาจะเป็นอย่างไรก็ตาม

ทักษิณซึ่งขณะนี้อยู่ในกรุงโตเกียว กล่าวว่า เขากำลังพิจารณาช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเดินทางกลับประเทศไทย ซึ่งอาจจะเป็นภายในปีนี้หลังการเลือกตั้ง และพร้อมที่จะรับโทษจำคุก โดยเขาหวังว่าจะยื่นอุทธรณ์ในบางคดี

“ตอนนี้ผมติดคุกมา 16 ปีแล้ว เป็นคุกใหญ่ มันกีดกั้นผมไม่ให้อยู่กับครอบครัว ผมทรมานมามากพอแล้ว ถ้าผมต้องไปทนทุกข์ในคุกเล็กอีกก็ไม่เป็นไร แม้มันไม่ใช่ราคาที่ผมจำเป็นจะต้องจ่าย แต่ผมยอมจ่ายเพราะผมอยากอยู่กับหลานๆ ผมควรใช้เวลาที่เหลือในชีวิตกับลูกๆ หลานๆ” ทักษิณ กล่าว

ทักษิณ กล่าวว่า เรื่องความปลอดภัยของเขาก็เป็นหนึ่งในประเด็นที่ต้องนำมาพิจารณา เพราะเขาเผชิญกับความพยายามในการลอบสังหารมาแล้วถึง 4 ครั้ง เมื่อดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่ยืนยันว่าการออกกฎหมายนิรโทษกรรม ไม่ใช่ทางเลือกเพื่อพาเขากลับบ้าน

“ผมบอกกับลูกสาว ว่า อย่ายอมให้พรรคเพื่อไทยผลักดันให้มีการออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้ผม เพราะมันไม่จำเป็น คนที่ต่อต้านผมจะไม่พอใจ และกฎหมายต้องมีไว้สำหรับคนทุกคน ไม่ใช่เพื่อคนคนเดียว ไม่เหมือนรัฐธรรมนูญ ที่ร่างขึ้นมาเพื่อให้ทหารสามารถครองอำนาจอยู่ต่อไป” นายทักษิณ กล่าว


นายทักษิณ ยืนยันว่า การกลับมารับโทษจำคุกไม่ถือเป็นการทรยศต่อผู้สนับสนุนที่ต่อสู้เพื่อเขาทั้งในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านๆ มา และในการชุมนุมที่เกิดขึ้นมากมาย เพราะเขาไม่ได้ยอมรับว่าตนเองทำผิด แต่เป็นเพราะอคติของระบบในอดีตที่รังแกเขา แต่ตอนนี้เขาอายุมากแล้ว ถึงเวลาแล้วที่เขาจะใช้ชีวิตที่เหลือกับลูกๆ “ผมอยากกลับบ้านไปอยู่กับครอบครัว พวกเขาและผมต่างทนทุกข์กันมามากแล้ว”

จากคำพูดดังกล่าวของเขา มันก็สามารถมองได้ไม่กี่อย่าง อย่างแรกก็เป็นการบอกว่าต้องการกลับมาติดคุก ไม่ต้องการให้มีการออกกฎหมายนิรโทษกรรม ลบล้างความผิดให้ โดยอ้างว่าจะทำให้คนที่ต่อต้านเขาไม่พอใจ แต่อย่างไรก็ดี เขาก็ยัง “ไม่ยอมรับว่าตัวเองทำผิด” อยู่เช่นเดิม แต่ที่ต้องการกลับมาเพื่อหวังจะมาอยู่กับครอบครัวในตอนแก่เท่านั้น

แต่ที่ต้องจับตา ก็คือ คำพูดของเขาที่บอกว่า “เรื่องความปลอดภัยก็ต้องนำมาพิจารณาเช่นเดียวกัน เพราะที่ผ่านมาอ้างว่าเคยถูกลอบฆ่ามาแล้วถึง 4 ครั้ง”

หากมาว่ากันทีละประเด็น ว่า ทำไม นายทักษิณ ชินวัตร ถึงได้โผล่ออกมาในช่วงนี้ แน่นอนว่า เป็นช่วงที่กำลังเข้าสู่โหมดเลือกตั้งเต็มตัว และที่ผ่านมาไม่นาน เขาก็เคยปลุกเร้าให้เลือกพรรคเพื่อไทยแบบ “แลนด์สไลด์” และเลือกแบบมี “ยุทธศาสตร์” นั่นคือ มีความหมายให้เลือกเพื่อไทยพรรคเดียว และเป้าหมายที่กำหนดไว้ล่าสุด ก็คือ จำนวน 310 ที่นั่ง เพื่อหวังจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว หรืออาจจะสองพรรค ที่พรรคเพื่อไทยเป็นผู้กำหนดเงื่อนไขได้เต็มร้อย

การออกมาของ นายทักษิณ ชินวัตร คราวนี้ หากประเมินมันก็เหมือนกับการออกมาย้ำ “ก่อนเริ่มสตาร์ท” การเลือกตั้ง เพื่อไปให้ถึงเป้าหมายที่ “วาดฝัน” เอาไว้ และแน่นอนว่า การออกมาพูดเรื่องต้องการ “กลับบ้าน” ในช่วงเวลานี้มันก็เหมือนกับการ “หาเสียง” มีความหมายทางการเมืองอย่างชัดเจน อย่างน้อยก็เหมือนกับการเร่งเร้าให้กับผู้สนับสนุนที่ยังลังเลรีบตัดสินใจ

อีกทั้งการ “กลับบ้าน” ดังกล่าวสิ่งที่ตามมา ก็คือ เขาต้องมั่นใจลึกๆ ว่า พรรคเพื่อไทยจะต้องได้เป็นรัฐบาล โดยมีนายกรัฐมนตรีหญิง ที่ชื่อ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวคนเล็กนั่นเอง ทุกอย่างจึงต้องมั่นใจ ถึงตอนนั้นถึงจะกลับมา เหมือนกับในยุคที่นายสมัคร สุนทรเวช ในนามพรรคพลังประชาชน เป็นรัฐบาลที่เขากลับมา “กราบแผ่นดิน” นั่นไง

คราวนี้ก็ไม่น่าต่างกัน เพราะคงมั่นใจ หรืออาจเรียกว่า “มโน” เอาเองว่าพรรคเพื่อไทยต้องชนะได้เป็นรัฐบาลแน่ จึงอยากกลับบ้านมาติดคุก เพราะหากลองนึกภาพที่มี นายกรัฐมนตรี ชื่อ “อุ๊งอิ๊ง” เรื่องการติดคุกอาจถือว่าเป็นเรื่องที่พอนึกภาพในช่วงเวลาดังกล่าวได้ดี ในสภาพของ “นักโทษกิตติมศักดิ์”

อย่างไรก็ดี สำหรับ นายทักษิณ ชินวัตร เป็นเรื่องที่สำหรับคนที่ติดตามมาตลอดก็จะพอรับรู้ได้ดีว่า “เอาแน่นอนไม่ได้” หรือมัก “เชื่อถือไม่ได้” เพราะทุกอย่างสามารถนำมาอ้างอิงเพื่อตัวเองได้ประโยชน์อยู่เสมอ เพราะหากบอกว่า “ต้องการกลับบ้าน” มาติดคุกจริงๆ ทำไมต้องรอเอาในช่วงเวลาแบบนี้ เพราะที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีใครห้าม อีกทั้งในทางกฎหมายในฐานะที่เป็นคนไทย ก็ไม่มีใครห้ามได้อยู่แล้ว เพียงแต่ว่าเมื่อมีความผิดและถูกศาลตัดสินจำคุก ถูกยึดทรัพย์ก็ต้องยอมรับ

เหมือนกับก่อนหน้านั้น ในช่วงการชุมนุมของคนเสื้อแดงเมื่อหลายปีก่อน เขาก็เคยโกหกมาแล้วหลายครั้ง ครั้งที่บอกว่า “เมื่อเสียงปืนแตกจะนำพี่น้องเดินเข้ากรุงเทพฯ” หรือ “พี่น้องคนเสื้อแดงไม่ต้องตามมาฯ” ทุกอย่างเป็นคำพูดที่เกิดขึ้นเพื่อหาประโยชน์ในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น ไม่เคยทำตามที่พูด

อย่างไรก็ดี คำพูดและความเคลื่อนไหวล่าสุดของเขามันอาจจะเหมือนเป็นการวัดดวงครั้งสุดท้าย เป็นการทุ่มเทสุดตัว หวังว่า เป็นไปตามเป้าหมายได้กลับมาเป็นรัฐบาล และลูกสาวได้เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ขณะเดียวกัน เขาก็พูดเผื่อเป็นทางเลี่ยงไว้ล่วงหน้าแล้ว ก็คือ “ต้องคำนึงเรื่องความปลอดภัย” จึง “กลับบ้านไม่ได้” และถึงตอนนั้น หากเป็นไปอย่างหลัง ก็คือ ไม่ได้เป็นรัฐบาลนั่นเอง ดังนั้น งานนี้ทุกคำพูดหมายถึงเกมการเมือง เกมหาเสียงเพื่อไปถึงสิ่งที่ตัวเองต้องการ ส่วนจะเป็นการ “มโน” ครั้งใหญ่ ก็เป็นได้เหมือนกัน !!



กำลังโหลดความคิดเห็น