"ชนินทร์" ควง "องอาจ-ดร.เอ้" ทวงคืนสะพานลอย-ไฟจราจร-แสงสว่างในชุมชนให้ชาวบางกอกน้อย จี้ "ผู้ว่าฯชัชาติ" ดูแล ด้าน "สุชัชวีร์" หวั่นซ้ำรอย "หมอกระต่าย"
วันนี้(22 มี.ค. 2566 ) นายชนินทร์ รุ่งแสง ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. เขตบางพลัด บางกอกน้อย ลงพื้นที่กับนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานคณะทำงานนโยบาย กทม. ที่บริเวณปากซอยวัดดงมูลเหล็ก เขตบางกอกน้อย เพื่อรับเรื่องร้องทุกข์จากประชาชนในพื้นที่
นายชนินทร์ กล่าวว่า ขณะนี้ประชาชนดำลังเดือดร้อน เพราะสะพานลอยที่เคยใช้งานถูกรื้อออกไปในช่วงที่มีการก่อสร้างอุโมงค์ทางรอดและรถไฟฟ้า อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้นายนภาพล จิระกุล ส.ก.เขตบางกอกน้อย ของพรรคประชาธิปัตย์ ได้ไปติดตามเรื่องดังกล่าวที่ กทม. และพบว่าจะมีการก่อสร้างสะพานลอยในเดือนเมษายน ใช้เวลาก่อสร้าง 120 วัน แต่ขณะนี้พบว่ามีปัญหาด้านวิศวกรร โครงสร้าง นอกจากนี้ ยังพบว่าทางม้าลายที่ประชาชนใช้ข้ามถนนในขณะนี้ ไม่มีสัญญาณไฟจราจรแจ้งเตือน จึงได้ประสานเพื่อขอให้เร่งนำมาติดตั้งโดยเร็ว อีกทั้งยังพบว่าภายในชุมชนมีไฟส่องสว่างไม่เพียงพออีกด้วย ซึ่งเรื่องเหล่านี้ถือเป็นความปลอดภัยด้านชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ดังนั้น ขอเรียกร้องไปยังนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ ช่วยมาดูแลเรื่องเหล่านี้ด้วย
นายสุชัชวีร์ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่พบว่าบริเวณนี้เป็นจุดที่มีการจราจรหนาแน่น การใช้ทางม้าลายจึงเป็นเรื่องที่ยากลำบากและยังมีแบริเออร์ เป็นกำแพงปูนตั้งอยู่ ซึ่งจุดนี้เมื่อมีรถขึ้นมาจากอุโมงค์ต้องเร่งเครื่อง อาจทำให้เกิดอันตรายบนท้องถนนขึ้น วิธีแก้ที่ดีที่สุดคือการทำสะพานลอยข้าม ส่วนข้อจำกัดด้านวิศวกรรม เมื่อตนได้สำรวจดูแล้วพบว่า แม้จะมีรถไฟฟ้าแต่คานอยู่สูงมาก ขณะที่สะพานลอยต้องการพื้นที่เพียง 5-6 เมตร และปัจจุบันสะพานลอยเป็นโครงสร้างสำเร็จ ใช้เวลาเพียงไม่กี่วัน จึงขอเรียกร้องให้ผู้ที่รับผิดชอบคืนสะพานลอยให้กับประชาชน ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยแบบ "หมอกระต่าย"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการสัมภาษณ์มีประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เดินเข้ามาเล่าปัญหาและระบายความในใจ บอกว่าเมื่อก่อนเคยมีสะพานลอย แต่หลังจากทำอุโมงค์เสร็จแล้ว ก็ควรจะสร้างสะพานลอยกลับคืนให้ประชาชน แต่จนบัดนี้ก็ยังไร้วี่แวว และตนเองก็เคยเสี่ยงตายข้ามถนนมาแล้ว ประชาชนในพื้นที่ ทั้งเด็ก นักเรียน พ่อค้า แม่ค้า คนชรา และคนที่ทำงานในย่านนี้ต้องเดือดร้อนอย่างมาก พร้อมกล่าวอีกว่า หากประชาธิปัตย์ทำได้ก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง ก็จะลงคะแนนให้กับพรรคประชาธิปัตย์อย่างแน่นอน โดยนายสุชัชวีร์ ก็ได้รับปากว่าจะช่วยเรียกร้องให้อย่างเต็มที่ เพราะเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย แต่วันนี้ไม่ได้มาหาเสียง แต่มาอธิบายตามหลักวิศวกรรม และมารับฟังความเดือดร้อน รวมถึงรับข้อร้องเรียนจากประชาชนอย่างแท้จริง