พิจิตร - ถ้าฤดูน้ำหลากจะจมขนาดไหน..ป.ป.ช.พิจิตรและนครสวรรค์ตามส่องแขวงทางหลวงฯ เทงบสร้างจุดยูเทิร์นบนถนน ทล.117 เสร็จแล้ว โดนน้ำท่วมกลางหน้าแล้ง-ใช้ไม่ได้ตลอดปี ด้านชาวบ้านบอกรู้อยู่แก่ใจ ยอมแม้น้ำท่วมถนน แต่ขอเอาน้ำเข้านาก่อน
นายวราพงษ์ อินต๊ะโมงค์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดพิจิตร, นายอภินันท์ เรืองประเภท ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดนครสวรรค์ พร้อมด้วยชมรมสตรองจิตพอเพียงภาคประชาชน ได้ร่วมกันลงพื้นที่เพื่อดูจุดกลับรถที่บริเวณถนนสายเอเชีย 117 (นครสวรรค์-พิจิตร) พื้นที่รอยต่อระหว่าง อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ กับ อ.โพทะเล จ.พิจิตร
หลังใช้งบประมาณ 9 ล้านบาทเศษ สร้างเสร็จใช้งานในปีงบประมาณ 2565 แต่ขณะนี้ทางกลับรถหรือทางยูเทิร์นดังกล่าว ซึ่งมีระยะทางรวมกว่า 300 เมตร ถูกน้ำท่วมขังลึกประมาณ 50-60 ซม. ยาวกว่า 80 เมตร รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ แขวงทางหลวงพิจิตรต้องนำกระสอบทรายมากั้นบนแท่งแบริเออร์พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำออก จนเกิดข้อกังขาว่าการก่อสร้างจุดกลับรถดังกล่าวมีประโยชน์ต่อประชาชนหรือไม่ เหมาะสมกับงบประมาณในการก่อสร้างมากน้อยเพียงใด
นายวราพงษ์กล่าวว่า จากการตรวจสอบจุดกลับรถหรือจุดยูเทิร์นแห่งนี้สร้างเสร็จเมื่อปีที่แล้วใช้งานได้จริง แต่ใช้งานได้ไม่ตลอดทั้งปี กล่าวคือช่วงไหนที่กรมชลประทานเติมน้ำเข้ามาในคลอ น้ำก็จะท่วมพื้นที่บริเวณดังกล่าว ดังนั้นจึงต้องพิจารณาดูที่จุดคุ้มค่าคุ้มทุนของการก่อสร้างว่าเป็นการดำเนินการด้วยเจตนาเช่นไร ซึ่งได้ให้คำแนะนำแขวงทางหลวงพิจิตรแก้ปัญหาแบบยั่งยืนให้ได้ใช้ประโยชน์จากการก่อสร้างให้คุ้มค่ากับเงินภาษีของประชาชนด้วยแล้ว
ด้านนายรังสรรค์ สุขชัยรังสรรค์ ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงพิจิตร กล่าวว่า จุดกลับรถดังกล่าวอยู่ติดกับคลองบ้านพลัง พื้นที่ ต.ทะนง อ.โพทะเล จ.พิจิตร สร้างแล้วเสร็จเมื่อเดือนสิงหาคม 2565 สาเหตุที่ถูกน้ำท่วมเนื่องจากมีการผันน้ำมาจากโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาวังยาง-หนองขวัญ จ.กำแพงเพชร เพื่อให้เกษตรกรมีน้ำไว้ใช้สำหรับปลูกข้าวนาปรังรอบที่ 2 ทำให้ระดับน้ำในคลองสูงและเข้าท่วมจุดดังกล่าว
แต่น้ำจะท่วมช่วงสั้นๆ ประมาณ 1-2 เดือนนี้เท่านั้น หลังจากนี้ประมาณ 2 สัปดาห์ เมื่อเกษตรกรสูบน้ำเข้านาแล้วระดับน้ำท่วมในจุดยูเทิร์นนี้ก็จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ส่วนการแก้ไขปัญหาระยะยาว แขวงทางหลวงพิจิตรจะเสริมความสูงของแผงแบริเออร์ขึ้นอีกประมาณ 50 เซนติเมตร เพื่อไม่ให้ระดับน้ำเอ่อล้นเข้ามาบริเวณยังจุดกลับรถ และติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อเตรียมพร้อมสูบน้ำออกได้ตลอดเวลา
ส่วนข้อกังวลเรื่องของความคุ้มทุนหรือไม่นั้น ได้ชี้แจงว่าก่อนดำเนินการก่อสร้างได้สำรวจและศึกษาข้อมูลไว้อย่างครบถ้วน ซึ่งที่ผ่านมาจุดกลับรถดังกล่าวก็สามารถช่วยในการกลับรถ โดยช่วงปกติจะมีปริมาณรถ 17,000 คันต่อวัน และในช่วงเทศกาลปีใหม่หรือเทศกาลสำคัญ จะมีปริมาณรถประมาณ 40,000 คันต่อวัน จึงช่วยระบายรถได้เป็นอย่างดี
ขณะที่นายบุญธรรม กะมะเรศ ชาวบ้านหมู่ 6 ต.ทะนง อ.โพทะเล จ.พิจิตร ประธานกลุ่มผู้ใช้น้ำ กล่าวว่า ตนและชาวบ้านพอใจในการแก้ไขปัญหาของแขวงทางหลวงพิจิตรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหากถามถึงความต้องการของชาวบ้านในพื้นที่โดยเฉพาะเกษตรกร ต่างต้องการใช้น้ำเพื่อการเกษตรมาก ส่วนกรณีที่น้ำท่วมจุดกลับรถเป็นปัญหาที่ชาวบ้านสามารถยอมรับได้และรู้ล่วงหน้าแล้วว่าน้ำอาจจะท่วมจุดดังกล่าว
