“องอาจ” มั่นใจ “4 หัวหน้า ปชป.” ผนึกกำลังหนุนช่วย สู้ศึกเลือกตั้ง จะนำพรรคสู่ชัยชนะทั้งประเทศ ส่วนแบ่งเขตเลือกตั้ง กทม.ใหม่ ไร้ปัญหา ปรับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. แล้ว
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงการเปิดตัวนโยบาย กทม. ในวันนี้ ว่า
นโยบายของพรรค ตามยุทธศาสตร์ สร้างเงินสร้างคนสร้างชาติ ผ่านกระบวนการฟัง คิด ทำ เป็นนโยบายอยู่บนรากฐานของประชาชน ซึ่งได้รับฟังประชาชน ว่า ต้องการอะไรบ้าง มาคิดร่วมกับประชาชน เพื่อทำนโยบายออกมาซึ่งเป็นสิ่งที่จะสามารถพลิกฟื้นและเปลี่ยนกรุงเทพมหานคร ได้อย่างแท้จริง
สำหรับนโยบายที่เปิดตัวในวันนี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่ง โดยพรรคจะมีการเปิดตัวนโยบายด้านอื่นๆ เพิ่มเติม ดังนั้น จึงเชื่อมั่นว่า หลังจากประชาชน ได้รับฟัง และสัมผัสรายละเอียด แนวนโยบาย จะเชื่อมั่นและให้การสนับสนุน ผู้สมัครของพรรค
เมื่อถามถึงการแบ่งเขตเลือกตั้ง กทม.ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่หลายพรรคการเมืองมีปัญหา พรรคประชาธิปัตย์ได้รับผลกระทบ เรื่อง การจัดวางตัวผู้สมัครหรือไม่ นายองอาจ กล่าวว่า พรรคไม่ได้มีปัญหาอะไรมาก ได้ปรับเปลี่ยนเพียง 10% โดยปรับตัวผู้สมัครให้เหมาะสม กับเขตต่างๆ เรียบร้อยแล้ว ทุกอย่างลงตัว ขณะนี้พรรคพร้อมเข้าสู่กระบวนการต่างๆ ตามกฎหมาย แต่ไม่ต้องประกาศเปิดตัวใหม่
ส่วนกรณีที่อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ 3 คน ผนึกกำลังกับ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนปัจจุบันร่วมสู้ศึกเลือกตั้ง ทำให้พรรคมั่นใจมากขึ้นหรือไม่ นายองอาจ กล่าวว่า อดีตหัวหน้าพรรคทั้ง 3 คน ยังเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ และหน้าที่ของการเป็นสมาชิกพรรค มีสิ่งสำคัญคือสนับสนุน การทำงานของพรรค อย่างเต็มกำลังความสามารถ ดังนั้น การเลือกตั้งจึงถือเป็นภารกิจ การทำงานที่สำคัญของพรรค ในการนำบุคคลผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ไปทำงาน รับใช้ประชาชน ขณะเดียวกัน ยังเป็นบุคคลที่จะนำนโยบาย ไปสู่การปฏิบัติ ดังนั้นการเลือกตั้งจึงถือเป็นภารกิจสำคัญของพรรคการเมือง จึงเชื่อมั่นว่าอดีต หัวหน้า ทั้ง 3 คน พร้อมเข้ามามีส่วนร่วม ในการหาเสียงเลือกตั้ง ตามความถนัดของแต่ละคน
นายองอาจ กล่าวอีกว่า ตนเชื่อมั่นว่า สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ทุกคน ตั้งแต่หัวหน้า กรรมการบริหาร ไปจนถึงผู้สมัครทุกคน ตลอดจนอดีตหัวหน้าพรรคทุกคน ล้วนแต่เป็นผู้ที่มีคุณค่า และมีความหมายสำหรับพรรคประชาธิปัตย์ จึงเชื่อมั่นว่า เมื่อทุกคนรวมเป็นหนึ่งเดียวกันแล้ว จะเป็นพลังที่สำคัญ ในการขับเคลื่อนให้พรรคประชาธิปัตย์ เดินหน้าไปสู่ชัยชนะ ในการเลือกตั้งครั้งนี้ได้ ไม่ใช่เฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ แต่จะได้ชัยชนะทั้งประเทศ