ข่าวปนคน คนปนข่าว
** Chuweed จาก จอมแฉ เป็น จอมแถ แก่เพราะกินข้าว ฉายทุกวันวนไป สายสีเขียวเงียบกริบ-ชิ่งดีเบตกัญชา
“Chu weed” ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ป่าวประกาศไว้ล่วงหน้า อุตสาห์ทำโปสเตอร์เลียนแบบหนังดัง ว่า ขอเป็น “Chu wick” โพสต์ลงเฟซบุ๊ก กะเชียร์แขก เรียกไทยมุงตามมาดูบทบู๊ดุดันที่ตัวเองฉายเดี่ยวลุย ป.ป.ช.
พอถึงเวลานอกจาก “ละครลิง” ออกแขก เผาแบงก์กาโม่ กระดาษเงิน กระดาษทอง ทำพิธีกรรมสาปแช่งคนโกง แล้ว เนื้อหาสาระดูไม่สมที่คุยไว้สักเท่าไหร่
นั่นเพราะ “ชูวิทย์” ก็ยังเป็น ชูวิทย์ที่ความจริงไม่ยุ่งมุ่งแต่ “วาระแอบแฝง” ที่นายทุน “อีแอบ” ลงทุนอำนวยการสร้างให้ เลยเล่นแค่ตามบท ตามบดตามบี้ “ภูมิใจไทย” โดยไม่แตะเรื่องร้อนๆ คดีสายสีเขียว ซึ่ง ป.ป.ช. ฟันโช๊ะ เข้าข่าย “ทุจริต ประพฤติไม่ชอบ” ที่สังคมสนใจ โดยเฉพาะตลาดหุ้นกำลังขนลุกขนพองกับ ราคาหุ้น BTS ที่ร่วงหนัก จากนักวิเคราะห์ ที่แนะนำให้ “เลี่ยงลงทุน”
เรียกว่า “สีส้ม” ยังไม่รู้โกงหรือไม่ “สีเขียว” มีมูลว่าโกงแน่ แต่ “ชูวิทย์” ตีมึนทำเป็นธุระไม่ใช่ของตัว โบ้ยบ้ายไปว่า ก็เป็นเรื่องของ “ผู้ว่าฯ กทม.คนก่อน” และ “BTS”
ไม่น่าประหลาดใจ ที่ “ชูวิทย์” จะปิดปากเงียบในตอนนี้ ก็ไม่รู้ว่าเตรียมข้อมูลโกหกพกลมเอาไว้ไม่ทันหรือไม่ สังเกตได้ง่ายๆ เมื่อไหร่ที่ถูกจี้ให้ตอบคำถาม ด้วยข้อมูล ข้อเท็จจริง สิ่งที่ “จอมแฉ” จะแปลงกายเป็น “จอมแถ” ทันทีก็คือ “เบี่ยงเบน” ประเด็น หรือร้องโอดครวญ หาว่า“ช่วงนี้มีสุนัขลอบกัดมาก ทั้งเห่า ทั้งหอน รุมฟัดผม”
โบราณว่า หมาเห่า หมาหอน เมื่อมัน “เห็นผี” หรือว่าช่วงนี้ “ชูวิทย์” เป็นผี! จึงมีหมาเห่า หมาหอน ก็ลองพิจารณาตัวเองดูนะจ๊ะ
ที่แน่ๆ ผีเจาะปากให้มาพูดโดยไม่ต้องสงสัย
พอเจอของจริง คนไม่ปลอม ท้าให้เปิดหลักฐานตั้งแต่ใบเสร็จเงินทอน 30,000 ล้าน ก็แบะๆ จากวันนั้นถึงวันนี้ก็ครบกำหนด 15 วันละ ขณะที่เรื่อง “กัญชา” ส่งสารเชื้อเชิญให้มาสู้หน้าหาความจริงกันจาก “ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์” คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต ในฐานะโฆษกคณะกรรมการสื่อสารและประชาสัมพันธ์การใช้กัญชาอย่างเข้าใจ กระทรวงสาธารณสุข “ชูวิทย์” ก็อมพะนำ ไม่ตอบรับสักที
“ปานเทพ” ท้าให้มาดีเบตเมื่อ 8 มี.ค. กว่า “ชูวิทย์” จะให้คำตอบผ่านไป 4-5 วัน จะว่าความคิดช้าหรือว่า มัวคิดหามุกจะตอบยังไงดี ไม่ให้เสียฟอร์ม เพิ่งจะโพสต์ข้อความไปเมื่อวานซืน
“ชูวิทย์” ตอบว่า “พรรคภูมิใจพัง ถูกผมตีจี้ใจดำ หัวหน้าเริ่มปิดปากเงียบ ให้ลิ่วล้อออกมาต่อกร แม้แต่สื่อจอมปลอม ก็ยังให้เด็กวานซืน มาท้าดีเบตเรื่องกัญชา
ผมบอกไว้ก่อนว่า พวกนั้นมันคนละชั้น ตั้งแต่จำความได้ผมไม่เคยชกกับเด็กเสียที จะเอาทั้งทีต้องพวก “ล้มแล้วดัง”
รุ่นใหญ่ รุ่นเก๋า นักเลงอย่างผม ไม่ไปต่อยกับรุ่นเด็กๆ ให้ตะโกนจนคอแห้งผมก็จะกระดิกเท้ารอตัวใหญ่ เกมแบบนี้เจอมานับไม่ถ้วน เชิงมวยคนละชั้น อย่าให้คนดูเสียเวลา”
แหม ...ขึ้นต้นมา แม้แต่เด็กประถมก็ดูออกแหละ คุณตา Chu weed!
จับโกหกได้ว่า หรือมีหัวไว้แค่ที่กั้นหู สมองกลวง มั่วข้อมูล แถมปากว่าตาขยิบ ตีกัญชา อ้างว่าห่วงเด็กเยาวชน แต่ ชูวิทย์ กลับมี Chuweed ร้านขาย “ช่อดอกกัญชา” เพื่อนันทนาการอยู่ในโรงแรมของตัวเอง ทั้งของลูกชายและเปิดให้เช่าเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ถูกจับโป๊ะได้ ก็พาลใช้สำนวนโวหารมาระราน
ถูกท้าดีเบต ก็หาว่าเขาเป็น “เด็กวานซีน” ไม่เคยชกกับเด็ก นี่ก็พูดออกมาเหมือนผายลม ก็ที่ตัวเองด่าเขา ท้าชกเขาอยู่วันนี้ไม่เด็กกว่าตัวเองหรืออย่างไร ? ทั้ง อนุทิน ชาญวีรกูล ศักดิ์สยาม ชิดชอบ หัวหน้าและเลขาฯ พรรคภูมิใจไทย หรือ แม้แต่เจ้าหน้าที่ ที่ถูกด่าสาดเสียเทเสีย เกรี้ยวกราดใส่เขา ที่ไปตรวจร้านกัญชาที่โรงแรมตัวเอง ก็ล้วนแต่ “เด็กกว่า” ชูวิทย์ ทั้งน้าน
หรือจะเถียงว่า ไม่จริง จะอ้างว่า ตัวเองอายุน้อยกว่า เพียงแต่ใบหน้าชราเท่านั้น เป็นเด็กกว่าพวกเขาเหล่านั้น อย่างนั้นหรือ ?
ถถถถ....โถ นักเลงรุ่นใหญ่ แก่เพราะกินข้าว เฒ่าเพราะอยู่นาน หรือเปล่า?
ใครที่รู้จัก “ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์” ก็จะรู้ว่าเขาไม่ใช่ “เด็กวานซืน” มีตำแหน่งเป็น คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย ม.รังสิต จบ ปริญญาโท การบริหารการจัดการมหาวิทยาลัยแห่งมลรัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ปริญญาตรีวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
จบมาก็ทำงาน ผ่านประสบการณ์ ทั้งภาครัฐและเอกชน เป็น กรรมการคณะกรรมการควบคุมยาเสพติด, คณะกรรมาธิการและโฆษกกรรมาธิการ ร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ....,ประธานและกรรมการผู้จัดการกรุงเทพแพทย์แผนบูรณาการสหคลินิก, กรรมการผู้จัดการ MW Wellness คลินิก เป็นต้น
“ปานเทพ” เป็นนักคิด นักเขียน ที่นำเสนองานวิจัยและทางวิชาการในด้านสุขภาพเสนอต่อประชาชนตั้งแต่ปี 2555 จนถึงปัจจุบัน รวมถึงงานเขียนด้านกัญชาจำนวนมาก
ปี 2562 ได้รับการแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการคัดเลือกผลิตภัณฑ์สมุนไพรดีเด่นแห่งชาติ Prime Minister Awards
ก่อนนั้น ปี 2555-2556 ได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาของกรมแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก
นี่แค่ย่อๆ คือความจริง คนจริงในเรื่องสมุนไพรกัญชา ถามหน่อย เด็กวานซืนตรงไหน ?
เอาดีๆ ไม่กล้าดีเบตก็บอกไม่กล้า จะแถไปไย กลัวอะไร หรือ กลัวความจริง? กลัวแพ้? หรือถูกทุกข้อ Chuweed!!
** “ลุงตู่” ลงพื้นที่ราชบุรี เจอหญิงสูงอายุชูสามนิ้วต้าน งานนี้ถึงกับต่อมโมโหแตก!!
ช่วงนี้ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ ว่าที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รสทช.) ลงพื้นที่ตรวจราชการ พบปะประชาชนถี่ยิบ จนถูกแนวร่วมฝ่ายตรงข้ามอย่าง “สมชัย ศรีสุทธิยากร” ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบายพรรคเสรีรวมไทย และอดีต กกต. ออกมาแซะว่าเป็นการแฝงหาเสียง ใช้ทรัพยากร เครื่องไม้เครื่องมือของรัฐ เอาการปฏิบัติราชการมาบังหน้า
เรื่องแบบนี้แม้ “ลุงตู่” จะดูว่าไม่สนใจ แต่ลึกๆ แล้วมันทำให้อารมณ์ขุ่นมัวไม่น้อย พอมีเรื่องอื่นที่ไม่ถูกใจมากระทบซ้ำ ก็อาจทำให้ต่อมโมโหแตก ถึงขั้นเสียกิริยาได้ง่ายๆ
อย่างวันวาน “ลุงตู่” และคณะมีคิวไปตรวจราชการที่ จ.ราชบุรี ก็ขึ้น ฮ. ที่ พล.ม.2 รอ. ไปยังสนามกีฬาประจำตำบลเบิกไพร อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี จากนั้นก็นั่งรถต่อไปวัดหุบกระทิง สักการะ “หลวงพ่อสมปรารถนา” เอาฤกษ์เอาชัย...ช่วงก่อนเข้าอุโบสถ “ลุงตู่” ก็ได้ทักทาย คุยกับสุนัขที่เจ้าของอุ้มมาว่า น่ารักนะลูก พร้อมเอามือลูบหัวสุนัข
และช่วงไปเยี่ยมชมศูนย์การเรียนรู้เกษตรวิถีพุทธ “ลุงตู่” ก็เข้าไปทักทาย “เจ้าโควิด” ความเผือกที่มีคนนำมาถวายวัดในช่วงโควิดระบาด จังหวะนั้น เจ้าโควิดเห็นคนมากันเยอะแยะ คงเกิดอาการระแวง เลยทำท่า ฮึดฮัด ...“ลุงตู่” จึงกล่าวปลอบไปว่า “อย่าไปทำอะไรเขานะ พวกนักข่าว ไม่มีใครทำร้ายนายกฯหรอก แต่ใครที่คิดจะทำร้ายนายกฯ ก็ขอให้ระวังก็แล้วกัน”
เรื่องพูดคุยกับสัตว์ นี่ถือว่าเป็นมุกเด็ดของ “ลุงตู่” ที่ใช้เรียกความสนใจ แบบว่าถูกนำไปเป็นสะเก็ดข่าวได้ ลุงคุยมาเยอะแล้ว ทั้งสัตว์ใหญ่ สัตว์เล็ก สัตว์บก สัตว์น้ำ สัตว์ปีก
จากนั้น “ลุงตู่และคณะ” ก็เดินทางไปยังศาลาประชาคมเทศบาลเมืองบ้านโป่ง เพื่อตรวจติดตามแนวทางในการพัฒนา อ.บ้านโป่ง และพบปะประชาชน
แต่ก่อนที่ “ลุงตู่” จะเดินทางไปถึง ได้เกิดเหตุชุลมุนขึ้น เพราะมีหญิงที่ค่อนข้างสูงอายุคนหนึ่ง ได้มายืนดักรอขบวนนายกฯ ระหว่างนั้นก็พูดจา ตำหนิการทำงานของ “ลุงตู่” หนักเข้าก็ถึงขั้นตะโกนด่า ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงนอกเครื่องแบบ พยายามเข้าไปฉุดกระชากลากตัว หลบไปบริเวณซอกที่จอดรถตู้ เพื่อนำตัวออกไป พยายามเอามือปิดปาก ไม่ให้หญิงคนนี้ ตะโกนใส่ขบวนรถนายกฯ แต่สุดท้ายก็ถูกปัดออก จนได้ตะโกนจนได้
ยังมีหญิงอีกราย ซึ่งอยู่ในวงล้อมของเจ้าหน้าที่ ได้ชู 3 นิ้ว เจ้าหน้าที่พยายามเข้าไปห้าม แล้วใช้วิธีกางร่มบังช่วงที่ขบวนรถนายกฯ ผ่าน
ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้กลายเป็นคลิปไวรัลในโลกโซเชียลฯ ตามมาด้วยคอมเมนต์หลากหลาย ส่วนใหญ่เห็นว่า เกินเจ้าหน้าที่ทำเกินเหตุไปหรือไม่
ขณะที่ “ลุงตู่” เมื่อเข้าไปปราศรับกับประชาชน ในศาลาประชาคม ก็พูดถึงผลงานที่ได้ทำไปแล้ว ที่ทำอยู่ และที่จะทำต่อ แล้วก็อดไม่ได้ที่จะแขวะไปถึงกลุ่มคนเห็นต่างที่คอยมาคัดค้านว่า ... เมื่อกี้มีข้างนอก ไม่รู้เป็นอะไร มือมี 3 นิ้ว มันหายไปไหน 2 นิ้ว ไม่รู้เหมือนกัน นี่ต้องไปดูสุขภาพ ฝากหมอดูด้วยว่าอีก 2 นิ้ว เป็นอะไร แต่ผมไม่ได้โกรธอะไรเขาหรอก แต่ขอให้ดูด้วยแล้วกันว่า ต้องมีปัญหาอาการอะไรสักอย่าง...
ช่วงท้าย หลังจากพูดถึงเรื่องการทำงานของรัฐบาลในหลายๆอย่างแล้ว ลุงตู่ ก็ลั่นว่า “ใครด่ากูไม่ได้ ก็ด่าตัวเองนั่นแหละ มันไม่มีความสุขนักหรอก ที่ยืนตรงนี้ แต่ต้องทำ มันเป็นหน้าที่... พูดไปพูดไป “ลุงตู่” ก็ยกมือขยับ 3 นิ้ว แล้วกล่าวว่า “ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมมันเหลืออย่างนี้ ฝากผู้ปกครองดูแลบุตรหลาน อย่าให้เป็นอย่างนี้ ตอนนี้มีใครไม่สบายไหม แต่น่าจะแข็งแรงกันดี ที่นั่งกันอยู่ตรงนี้”
จากนั้น “ลุงตู่” ได้เดินพบปะประชาชนพร้อมกับบอกว่า “เวลาโมโหใคร ไม่ชอบใคร ให้นึกถึงหน้านายกฯไว้”
อารมณ์ที่คุกรุ่นจากการถูก “สามนิ้ว” มาดักยั่ว เมื่อเจอนักข่าวมาสัมภาษณ์ซ้ำ คราวนี้ “ลุงตู่” ต่อมโมโหแตก บอกว่า ...อย่าไปสนใจมัน จะเห็นต่างสักกี่คน มาเป็นร้อยเป็นพันคนหรือไม่ มาแค่ 3 คน ผมไม่สนใจอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามถึงการดูแลกลุ่มคนเห็นต่างของเจ้าหน้าที่ “ลุงตู่” สวนทันทีว่า... เขาก็ดูแลดีไม่ใช่หรือ ตำรวจเขาก็ดูแลไม่ให้มีการทำผิดกฎหมาย ผมไม่ใช่ศัตรูกับเขานี่นา ก็เป็นเรื่องของเขาสิ ...เมื่อถามว่า ถ้าต่อไปนี้เวลาลงพื้นที่เจอเหตุการณ์อย่างนี้อีกจะทำอย่างไร “ลุงตู่” ว่า สื่อก็อย่าไปคุ้ย อย่าไปให้ความสำคัญ ผมไม่ให้ความสำคัญอยู่แล้ว
แต่เจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงกับผู้เห็นต่างเกินเหตุไป หรือไม่... “รุนแรงตรงไหนล่ะ ผมไม่เห็นนี่ รุนแรงอย่างไร” ... ผู้สื่อข่าวอธิบายว่า มีการกระชากและลากตัวหญิงผู้สูงอายุ ที่เห็นต่างออกไป นายกฯกล่าวเสียงดังว่า... “อ้าว! ก็ฝ่าฝืนกฎหมาย หรือเปล่าล่ะ ทำผิดกฎหมายหรือเปล่า เขาห้ามทำอะไรที่ผิดกฎหมายหรือเปล่า ถ้าเขาห้ามแล้วไม่เชื่อฟัง เจ้าหน้าที่ก็ต้องใช้วิธีการอื่นมั้ง แล้วทำไมจะต้องทำในสิ่งที่เจ้าหน้าที่เขาห้ามล่ะ ผมไม่เข้าใจ เออ! แล้ววันนี้ผมมาทำอะไร ให้กับใคร ทำให้กับคนตั้งเป็นพันเป็นหมื่นคน แล้วเขาเสียประโยชน์หรือไม่ ผมไม่ได้โกรธเขานะ แต่ผมไม่เห็นประโยชน์ แล้วก็อย่าไปให้ความสำคัญ กับเรื่องพวกนี้ในหนังสือพิมพ์ เพราะมันไม่เกิดประโยชน์...กะอีแค่คน 3 คน
ผู้สื่อข่าวบอกว่านายกฯ อย่ามีอารมณ์โมโห... แต่ลุงตู่บอกว่า ไม่ได้โมโห!!
ใช่ลุงตู่ไม่ได้โมโห แค่เสียกิริยาเท่านั้นเอง !!