รายการ “ถอนหมุดข่าว” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP สถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูป NEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจ NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันจันทร์ที่ 13 มีนาคม 2566 นำเสนอรายงานพิเศษ "สนธิ" เปิดความจริง "ชูวิทย์" เก็บศพของเก๊ หนี "ปานเทพ" ตามคาด
นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ตีกรรเชียงหนี ไม่รับคำท้าดีเบตจากอาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ในเรื่องกัญชา อ้างว่าเป็นมวยคนละชั้น ด้อยค่าอาจารย์ปานเทพ เป็น “เด็กเมื่อวานซืน” ถึงขนาดนั้น
ทั้งที่นายชูวิทย์ หรือชูวีด คนขายกัญชา เป็นคนสร้างกระแสกัญชาเป็นผู้ร้าย ทำลายเยาวชน แต่พอคนรู้จริงเรื่องกัญชา ขอดีเบตเพื่อนำเสนอข้อเท็จจริงให้รอบด้านออกทีวีกันไปเลย นายชูวิทย์ปฏิเสธ อ้างเป็นมวยไม่ถูกคู่ไปโน่น ไปคนละเรื่อง เฉไฉเบี่ยงเบนประเด็นไป ซะยังงั้น
ลึกๆ ในใจของนายชูวิทย์ก็คงบวกลบคูณหารแล้ว ลำพังลีลาและโวหารที่มีอาจไม่พอ พลาดท่าจะโดนน็อกคาจอได้ ถ้าวัดกันด้วยข้อมูลจริง เลยขอหลบฉากจากอาจารย์ปานเทพ แล้วท้าเหยงไปที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล แทน
เอาเข้าจริง นายชูวิทย์ก็ยังไม่ได้ตอบเรื่องที่ถูกนายสนธิแฉล่าสุด ที่โกหกไว้หลายเรื่อง เช่น เรื่องนายสนธิป่วยเป็นเบาหวาน เรื่องนายสนธิเป็นนักโทษวีไอพี ทำห้องแอร์ไว้นอน และก็เรื่องตัวเขาเอง เป็นจิตอาสาเก็บศพในคุก
เรื่องต่างๆ เหล่านี้ นายชูวิทย์กล่าวเท็จล้วนๆ ยืนยันจากปากนายสนธิ ซึ่งจนบัดนี้ ก็ยังไม่เห็นนายชูวิทย์จะกล้าตอบโต้ว่าไม่จริง มีแต่เอาบรรดาพวกติ่งเป็นโล่กำบัง
นายชูวิทย์และนายสนธิ จับพลัดจับผลูต้องมามีช่วงเวลาคาบเกี่ยวในเรือนจำกัน แต่การจะหยิบประสบการณ์นักโทษในคุก มาหาประโยชน์ใส่ตัว เป็นนายชูวิทย์ที่ดำเนินการอย่างเป็นขั้นตอน
ชูวิทย์เดินเข้าเรือนจำ คดีรื้อบาร์เบียร์ เมื่อวันที่ 29 ม.ค. 2529 และได้รับพระราชทานอภัยโทษ เดินมาสูดกลิ่นอายอิสรภาพนอกกำแพง เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. ของปีเดียวกัน ซึ่งก็มีสื่อไปรอทำข่าวถึงหน้าคุก
ก้าวแรกที่พ้นจากประตูคุก นายชูวิทย์ก็เล่าเรื่องเขาไปบำเพ็ญประโยชน์ ประมาณว่าเป็น “ป่อเต็กตึ๊งคุก” ให้สื่อฟังทันทีว่า ตั้งแต่เดือนเม.ย. จนถึงวันสุดท้าย เขาช่วยเก็บศพนักโทษไป 80 ศพ อุทิศชีวิตตัวเอง อยู่กับน้ำเหลือง อึ ฉี่
มันเป็นสตอรี่ที่หวือหวาโดนใจ ใครได้ยินเข้าก็ร้องโอ้โห เป็นไปได้อย่างไร เสี่ยพันล้านอย่างเขา จะโชกโชนชีวิตได้ถึงขนาดนั้น
สิ่งที่ตามมาก็เป็นพ็อกเกตบุ๊คขายดี ที่นายชูวิทย์เขียนออกมาขายหลายเล่ม เล่าชีวิตคุกของตัว
ซึ่งสตอรี่เป็นอาสาป่อเต็กตึ๊งประจำคุก ก็มีคนที่รู้แก่ใจว่าไม่ใช่เรื่องจริง แต่นิ่งเงียบให้เกียรติมาตลอด ก็คือนายสนธิ ลิ้มทองกุล นี่เอง
แต่ตอนนี้ นายสนธิเปิดออกมาแล้ว ความจริงหลังกำแพงคุกที่คนทั่วไปไม่เคยรู้ ก็คือ นายชูวิทย์วิ่งเต้นไปอยู่ รพ.ราชทัณฑ์
งานที่ทำก็ออกจะเบาสบาย แค่ทำหน้าที่วัดความดันคนไข้นักโทษ ไม่ใช่งานหนักอย่างงานเก็บศพขนศพนักโทษซะหน่อย
นายชูวิทย์ไม่ใช่คนแรก ที่เอาประสบการณ์ในคุก มาสร้างเป็นหนังสือขายดี แล้วคนก็เชื่อๆ ตามกันไปตามตัวอักษร
ก่อนหน้านายชูวิทย์หลายปี เมืองไทยเคยมีนักเขียนแนวอาชญนิยาย จนกลายเป็นภาพยนตร์สุดปัง พอนักเขียนคนนี้ได้รับเชิญไปออกทีวี ก็บอกกับพิธีกรรายการว่า เขายิงคนตายมาแล้วนับสิบศพ
ทั้งที่วงการโจรด้วยกัน ต่างก็รู้ว่า นักเขียนคนนี้ อดีตเป็นแค่โจรนักกรีดกระเป๋าบนรถเมล์ ที่เคยติดคุก แล้วไปสะสมเรื่องเล่าจากในคุก เอามาเขียนเป็นหนังสือขายเท่านั้นเอง
และเรื่องกล่าวหานายสนธิโรคเบาหวานขึ้นตา ก็เป็นการใส่ร้ายป้ายสี เพราะคนป่วยเป็นเบาหวานนั้น จะหมดสภาพด้วยสารพัดโรครุมเร้า เป็นคนป่วยสามวันดีสี่วันไข้โดยปริยาย แต่ปรมาจารย์สื่อคนนี้ อายุ76 ปีแต่อายุเป็นเพียงตัวเลข ซือแป๋สนธิยังเตะปี๊บกระจุยกระจาย หน้าตายังดูอ่อนเยาว์กว่าวัย
ส่วนเรื่องทำห้องขังวีไอพี ทางกรมราชทัณฑ์ก็ชี้แจงไปเรียบร้อยแล้ว จริงๆ สามัญสำนึกใครๆ ก็บอกได้ว่า มันไม่มีทางที่เรือนจำไหนๆ จะยอมให้มีห้องขังวีไอพีแบบหนังใน Netflix
นักโทษที่นอนสบายที่สุด สบายกว่านายสนธิหลายเท่า ก็คือนักโทษที่บริจาครถพยาบาลให้กรมราชทัณฑ์ เพื่อให้ได้งานสบายๆ นอนสบายๆ
ก็คือนายชูวิทย์ หรือชูวีดนั่นแหละ ที่ขายกัญชาในโรงแรมตัวเอง แต่พอถูกจับได้ไล่ทันก็โยนเป็นของคนอื่น
--------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android
สมัครสมาชิกได้แล้ววันนี้
รายเดือนเพียง เดือนละ 99 บาท
รายปี 990 บาท (10 เดือน แถม 2 เดือน )
ถ้ามีปัญหาการใช้งาน app หรือการสมัครสมาชิกใน app ติดต่อสอบถามได้ที่ Line id : @sondhitalk หรือ https://lin.ee/Skns1k1