ประธาน กมธ.กิจการสภา แจงเหตุผลจ่ายเงินกองทุนเลี้ยงชีพอดีตสมาชิกรัฐสภา 2 เท่า ของระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง ชี้ ไม่ควรเปรียบเทียบการจ่ายเงินบำเหน็จบำนาญข้าราชการ เหตุ ที่มา-ภารกิจ-ระยะเวลาดำรงตำแหน่งต่างกัน
วันนี้ (28 ก.พ.) ที่รัฐสภา นายอนันต์ ผลอำนวย ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) กิจการสภาผู้แทนราษฎร แถลงกรณีการจ่ายเงินทุนเลี้ยงชีพ ตามระเบียบคณะกรรมการกองทุนเพื่อผู้เคยเป็นสมาชิกรัฐสภา พ.ศ. 2556 ว่า กองทุนดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นทุนหมุนเวียน และเพื่อช่วยเหลืออดีตสมาชิกรัฐสภา ซึ่งมีเจตนารมณ์เพื่อตอบแทนคุณงามความดีแก่สมาชิกสภาผู้แทน (ส.ส.) และสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เมื่อสิ้นสุดสมาชิกภาพ ทั้งนี้ เงินกองทุนฯมาจากเงินที่สมาชิกรัฐสภาสมทบเข้ากองทุนฯในอัตราเดือนละ 3,500 บาท และเงินอุดหนุนที่รัฐบาลจัดสรรให้ในแต่ละปีงบประมาณ
นายอนันต์ กล่าวต่อว่า ในส่วนการจ่ายเงินทุนเลี้ยงชีพ ปัจจุบันจ่ายตามระเบียบคณะกรรมการกองทุนเพื่อผู้เคยเป็นสมาชิกรัฐสภา ว่าด้วยการบริหารค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน การรับเงิน การเก็บรักษาเงิน การอนุมัติการเบิกจ่ายเงิน การจ่ายเงิน การจัดหาผลประโยชน์ และการจ่ายเงินช่วยเหลือกองทุนเพื่อ ผู้เคยเป็นสมาชิกรัฐสภา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 โดยได้รับทุนเลี้ยงชีพเป็นรายเดือน และให้ได้รับเป็นระยะเวลา 2 เท่าของเวลาในการดำรงตำแหน่ง ในอัตรา ดังนี้ 1. ดำรงตำแหน่ง ตั้งแต่ 1 เดือน แต่ไม่ถึง 48 เดือน ได้รับเงินทุนเลี้ยงชีพเดือนละ 9,000 บาท 2. ดำรงตำแหน่ง ตั้งแต่ 48 เดือน แต่ไม่ถึง 96 เดือน ได้รับเงินทุนเลี้ยงชีพ เดือนละ 12,000 บาท 3. ดำรงตำแหน่ง ตั้งแต่ 96 เดือน แต่ไม่ถึง 144 เดือน ได้รับเงินทุนเลี้ยงชีพ เดือนละ 14,300 บาท 4. ดำรงตำแหน่ง ตั้งแต่ 144 เดือน แต่ไม่ถึง 192 เดือน ได้รับเงินทุนเลี้ยงชีพ เดือนละ 17,800 บาท 5. ดำรงตำแหน่ง ตั้งแต่ 192 เดือน แต่ไม่ถึง 240 เดือน ได้รับเงินทุนเลี้ยงชีพ เดือนละ 21,400 บาท 6. ดำรงตำแหน่ง ตั้งแต่ 240 เดือน แต่ไม่ถึง 288 เดือน ได้รับเงินทุนเลี้ยงชีพ เดือนละ 28,500 บาท และ 7. ดำรงตำแหน่ง ตั้งแต่ 288 เดือนขึ้นไป ได้รับเงินทุนเลี้ยงชีพ เดือนละ 35,600 บาท
ประธาน กมธ.กิจการสภา กล่าวอีกว่า ดังนั้น ปัจจุบันอดีตสมาชิกรัฐสภาได้รับเงินทุนเลี้ยงชีพตามระเบียบคณะกรรมการกองทุน (ฉบับที่ 2) โดยมีสิทธิได้รับเงินทุนเลี้ยงชีพเป็นรายเดือน เป็นระยะเวลา 2 เท่า ของระยะเวลาในการดำรงตำแหน่ง ในอัตราตั้งแต่ 9,000-35,600 บาท (ขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการดำรงตำแหน่ง) โดยไม่ได้รับเงินทุนเลี้ยงชีพตลอดชีพแต่อย่างใด เช่น หากสมาชิกรัฐสภาดำรงตำแหน่ง 1 เดือน จะมีสิทธิได้รับเงินทุนเลี้ยงชีพ เดือนละ 9,000 บาท เป็นระยะเวลา 2 เดือน (2 เท่า ของระยะเวลาในการดำรงตำแหน่ง) เป็นต้น
นายอนันต์ กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ จากการดำเนินงานของคณะ กมธ. ที่ผ่านมา ซึ่งได้เดินทางไปเยี่ยมเยือนอดีตสมาชิกรัฐสภา พบว่า หลายคนมีความเป็นอยู่ที่ยากลำบาก มีโรคประจาตัวที่ต้องรักษา และบางคนไม่มีอาชีพ เนื่องจากตลอดระยะเวลาการดำรงตำแหน่งสมาชิกรัฐสภาไม่ได้ประกอบอาชีพอื่น ทำให้มีรายได้ไม่เพียงพอในการดำรงชีวิต และแม้อดีตสมาชิกรัฐสภาจะไม่ได้ดพรงตาแหน่งแล้ว แต่ความเป็นผู้แทนของราษฎรยังคงอยู่ ยังคงเสียสละช่วยเหลือ และร่วมกิจกรรมต่างๆกับประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง จึงมีภาระค่าใช้จ่ายทางสังคมเหมือนเช่นตอนที่ดำรงตำแหน่งเป็นสมาชิกรัฐสภา ดังนั้น เงินทุนเลี้ยงชีพจึงยังมีความจำเป็นสาหรับสมาชิกบางรายที่ประสบปัญหาเดือดร้อนด้านการเงิน และดำรงชีพท่ีขัดสน โดยเหตุผลที่ไม่ควรนำหลักคิดของการจ่ายเงินทุนเลี้ยงชีพของอดีตสมาชิกรัฐสภา ไปเทียบเคียงกับการจ่ายเงินตามกองทุนบำเหน็จบำนาญของข้าราชการ เนื่องจากความแตกต่างในเรื่องการเข้าสู่ตำแหน่ง การกำหนดคุณสมบัติ และระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง ตลอดจนภาระหน้าที่ และความรับผิดชอบของสมาชิกรัฐสภา และข้าราชการประจำมีความแตกต่างกัน
