วันนี้ (22 ก.พ.) นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย กล่าวผ่านรายการ “พรรคภูมิใจไทย พูดแล้วทำ” เผยแพร่ทางเฟซบุ๊ก ยูทูบ และ TilTok พรรคภูมิใจไทย ถึงผลงานที่ผ่านมาของรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย ว่า ช่วงที่มีข่าวว่า จีนจะเปิดประเทศ และจะมีนักท่องเที่ยว ไปยังประเทศต่างๆ รวมทั้งมาประเทศไทย
ช่วงนั้นมีนักการเมืองฝ่ายค้านออกมาเรียกร้อง บอกว่า อย่าพึ่งเปิดให้คนจีนเข้าประเทศ ด้วยความรู้สึกกลัวว่าคนจีนจะนำเชื้อโควิดเข้ามา หากวันนั้นถ้ารัฐบาลหรือทางกระทรวงสาธารณสุข ภายใต้การนำของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ตัดสินใจ ด้วยความกลัว ในเรื่องที่คิดเอาเองแบบนั้น วันนี้ ประเทศไทยก็คงไม่มีโอกาสจะได้เป็นเป้าหมายอันดับ 1 ที่คนจีนอยากจะมาท่องเที่ยว
นายศุภชัย กล่าวต่อว่า สิ่งที่เราแสดงให้เห็นอยู่บนพื้นฐานว่า เมื่อเราปฏิบัติกับนักท่องเที่ยวชาติอื่นๆ อย่างไร นักท่องเที่ยวจากจีนก็ย่อมจะมีสิทธิที่จะมาท่องเที่ยวยัง ประเทศเราได้ คงได้ดูได้ชมภาพที่ นายอนุทิน หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พูดอวยพรปีใหม่จีน หรือตรุษจีน เป็นภาษาจีน ที่แปลเป็นไทยว่า “คนไทยรักเพื่อนชาวจีน ประเทศไทยมีความสุขมากในปีนี้ เรายินดีต้อนรับเพื่อนชาวจีนสู่ประเทศไทย” เชื่อไหมว่าในประเทศจีนมีคนชมคลิปดังกล่าวถึง 500 ล้านคน นี่คือสิ่งที่คนจีนเขามีความเชื่อว่า เราเป็นมิตรกับเขา
“ผู้นำประเทศอย่างรองนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ อนุทิน ต้อนรับเขาให้เข้ามาประเทศไทย แล้ววันนี้ เที่ยวบินจากจีนก็จะมีการเพิ่มแล้วมาบ้านเรามากขึ้นๆ ชายหาดต่างๆ โรงแรมต่างๆ ที่ตอนช่วงโควิดปิดสนิท วันนี้เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งจีน ทั้งฝรั่ง” นายศุภชัย กล่าว
นายศุภชัย กล่าวต่อว่า วันนี้การท่องเที่ยวไทยฟื้นขึ้นได้ด้วยความเชื่อมั่นในการจัดการของรัฐบาล พรรคภูมิใจไทย มีความโชคดีที่ได้มีโอกาสได้เข้าไปดูแล 3 กระทรวงสำคัญ 3 กระทรวง คือ กระทรวงสาธารณสุข, กระทรวงคมนาคม และ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งเกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว และอย่างที่ทราบ การท่องเที่ยวเป็นเครื่องยนต์ที่สร้างรายได้ให้ประเทศ และภาคธุรกิจท่องเที่ยว อย่างมหาศาล และจะทำให้ประเทศไทยเราพลิกฟื้นเศรษฐกิจ ซึ่งอยู่ในอาการสาหัสได้ด้วย
“วันนี้ประเทศไทยเราคิดถูก เรามาถูกทางที่เราต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกชาติ วันนี้เราต้องแสดงให้เห็นกับโลกทั้งโลกว่า ประเทศไทยพร้อมที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยว และผมคิดว่า นี่คือ ผลงานสำคัญของพรรคภูมิใจไทย ตามหลัก Health for Wealth หรือสุขภาพนำเศรษฐกิจ” นายศุภชัย กล่าว