“ภาคีเพื่อนหมอสุภัทร” บุกสภา ยื่น “ชวน-กมธ.การกฎหมายฯ” จี้ สอบ “อนุทิน” ย้ายหมอสุภัทรไม่เป็นธรรม “ประเสริฐพงษ์” ท้า “ศุภชัย” ตรวจสอบหัวหน้าตัวเอง “โรม” มองเป็นการส่งสัญญาณหากใครไม่เชื่อฟัง ใช้อำนาจเผด็จการ
วันนี้ (15 ก.พ.) เมื่อเวลา 13.30 น. นายสมบูรณ์ คำแหง ตัวแทนภาคีเพื่อนหมอสุภัทร ยื่นหนังสือถึง นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ผ่าน น.ส.ศิริภา อินทวิเชียร ผู้ช่วยเลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร และคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน โดยมี นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล ในฐานะ กมธ. เป็นตัวแทนรับยื่นหนังสือ กรณีขอให้ตรวจสอบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ฐานผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 185
ด้าน นายสมบูรณ์ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่ นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผอ.โรงพยาบาลจะนะ โดนย้ายไปที่ไปเป็น ผอ.โรงพยาบาลสะบ้าย้อย จ.สงขลา คำสั่งจากสาธารณสุข ซึ่งเป็นข้อกังขาว่า ไม่เป็นธรรม และเชื่อว่า มีอำนาจทางการเมือง โดยเฉพาะจากนายอนุทิน น่าจะเป็นคนดำเนินการในเรื่องของการย้าย ซึ่งตามหลักของรัฐธรรมนูญมาตรา 185 วรรค 3 ได้ระบุถึงเรื่องการแทรกแซง ข้าราชการในกระทรวง อาจจะเข้าข่ายผิดและอาจจะต้องถูกถอดถอน ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 ด้วย ซึ่งเราต้องอาศัยอำนาจของรัฐสภา ผ่านนายชวน และฝากประสานไปยังพรรคการเมืองทุกพรรค ให้ช่วยกันตรวจสอบพฤติกรรมของนายอนุทิน ในครั้งนี้ ว่า เข้าข่ายผิดรัฐธรรมนูญหรือไม่ ถึงแม้รัฐสภาเหลือเวลาอีกไม่นาน แต่เวลาที่เหลืออยู่น่าจะเพียงพอที่จะตั้งเรื่องดังกล่าวให้เป็นบรรทัดฐานกับนักการเมือง
ขณะที่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนเห็นด้วยว่า กรณีที่มีการย้ายแบบนี้ไม่เป็นธรรม และเห็นด้วยว่าการย้ายเกิดขึ้นจากสาเหตุในเรื่องของแรงจูงใจทางการเมือง และตนขอเพิ่มเติมว่า การย้ายตรงนี้จุดประสงค์หลัก คือ เพื่อสร้างความกลัวให้เกิดขึ้นในวงการหมอ และวงการสาธารณสุข ใครก็ตามที่ไม่ได้เป็นแค่หมออย่างเดียว แต่ออกมาขับเคลื่อนทางสังคม ออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมก็จะโดนแบบเดียวกันกับ นพ.สุภัทร
“นี่คือ สัญญาณที่ชัดเจนว่า นายอนุทิน พยายามส่งบอกไปถึงหมอทุกคน ว่า ถ้าพวกคุณไม่เชื่อฟัง คุณก็จะถูกย้าย ทั้งนี้ นี่ไม่ใช่สิ่งที่เราอยากจะเห็นในภายใต้รัฐบาลชุดนี้ และตนค่อนข้างผิดหวังที่เราเห็นฝ่ายการเมืองมาทำอะไรแบบนี้ โดยเฉพาะกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับ นพ.สุภัทร ซึ่งไม่แน่ใจว่า การทำแบบนี้ดูแล้วคล้ายกับสิ่งที่อำนาจเผด็จการเขาชอบทำ และไม่แน่ใจว่า นายอนุทิน อยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม มากจนเกินไป จนอาจจะทำให้สุดท้ายพยายามจะใช้วิธีการแบบนี้ ซึ่งเป็นการรังแกคนที่ต้องการปกป้องชุมชนหรือปกป้องพี่น้องประชาชน” นายรังสิมันต์ กล่าว
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ต้องขอชื่นชม นพ.สุภัทร ที่ออกมาขับเคลื่อนสังคม ดังนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณหมอเป็นสิ่งที่ยอมไม่ได้ ถึงแม้การยื่นหนังสือครั้งนี้ จะยื่นต่อ กมธ.ที่มี นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธาน กมธ. ซึ่งรู้จักกับ นายอนุทิน อย่างดี ตนคิดว่า เรื่องดังกล่าวต้องมีการคุยใน กมธ.ต่อไป
ฟาก นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า จะมีหมอสักกี่คนจะเข้าไปนั่งในใจประชาชน เมื่อถูกย้ายโดยไม่เป็นธรรม ก็มีประชาชนออกมารวมตัวเพื่อปกป้องขนาดนี้
“ผมขออนุญาตพาดพิงไปถึงนายศุภชัย ด้วยว่า การที่ท่านได้ให้ข่าวเหมือนเป็นการข่มขู่เล็กๆ กับหัวหน้ากระผม หาว่าไปทำผิดรัฐธรรมนูญ ผมคิดว่ามันเป็นลูกศรย้อนกลับ ว่า การใช้อำนาจของผู้ตรวจคำสั่งย้ายในครั้งนี้ ผิดแน่นอน ตามความเห็นของผม ถือว่าไม่เป็นไปตามการบริหารราชการแผ่นดินตามระเบียบของการบริหารราชการกระทรวง เมื่อท่านออกมาพูดกระทบกับหัวหน้ากระผม ผมก็ต้องท้าทายกลับไปเหมือนกันว่าการกระทำของหัวหน้าพรรคท่าน ซึ่งแน่นอนว่า ไปยืมมือของผู้ตรวจคำสั่งย้าย มีผลกระทบแน่นอน และประชาชนก็ตั้งคำถามย้อนกลับว่านี่คือการแทรกแซงและผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ สิ่งนี้ต่างหากที่เห็นสิ่งที่พิสูจน์ว่า ส.ส.หรือรัฐมนตรี จะต้องไม่มีอำนาจไปแทรกแซง การโยกย้าย กับคนที่มีคุณประโยชน์กับประชาชน” นายประเสริฐพงษ์ กล่าว