"พิธา-ทวี "รอดศาลรธน.เสียงข้างมากตีตกปมถูกร้องพ้นส.ส. ชี้ออกแถลงการณ์จี้สธ.ทบทวนย้าย"หมอสุภัทร" เป็นการตรวจสอบตามอำนาจหน้าที่ที่กม.กำหนด ไม่เข้าข่ายก้าวก่ายแทรกแซง
วันนี้(21ก.พ.)ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก 6 ต่อ 2 ไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยในกรณีที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งคำร้องของส.สจำนวน 57 คนที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 ว่าสมาชิกภาพส.สของนายพิธาลิ้มเจริญรัตน์ ส.สบัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคก้าวไกล สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101(7)ประกอบมาตรา 185(3) หรือไม่จากกรณีออกแถลงการณ์ในนามหัวหน้าพรรคก้าวไกลไม่เห็นด้วยกับคำสั่งกระทรวงสาธารณสุขในการโยกย้ายน.พ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะไปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลสะบ้าย้อย จ.สงขลา โดยศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้องเอกสารประกอบคำร้องแล้วเห็นว่ากรณีศาลรัฐธรรมนูญจะรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 วรรคหนึ่ง นั้นนอกจากพิจารณาช่องทางและกระบวนการส่งคำร้องแล้วยังต้องพิจารณาเนื้อหาของคำร้องว่ามีมูลกรณีที่เป็นการต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ด้วย เนื่องจากรัฐธรรมนูญมิได้กำหนดมาตรการตรวจสอบและกลั่นกรองมูลกรณีตามคำร้องก่อนส่งมายังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 วรรคหนึ่ง ศาลรัฐธรรมนูญจึงจำต้องพิจารณามูลกรณีตามคำร้องเพื่อความเป็นธรรมต่อผู้ถูกร้องก่อนที่จะมีคำสั่งรับคำร้อง
เมื่อข้อเท็จจริงเป็นกรณีที่นายพิธาออกแถลงการณ์ในนามหัวหน้าพรรคก้าวไกล ไม่เห็นด้วยกับกรณีกระทรวงสาธารณสุขมีคำสั่งโยกย้ายนายแพทย์สุพัฒน์โดยตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการโยกย้ายด้วยเหตุผลทางการเมืองหรือไม่ ขอให้กระทรวงสาธารณสุข ทบทวนคำสั่งดังกล่าวเป็นการใช้หน้าที่และอำนาจของส.สในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติในการติดตามตรวจสอบและควบคุมการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐมนตรีในฐานะฝ่ายบริหารด้วยการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการดำเนินการของหน่วยราชการหรือหน่วยงานของรัฐมิได้มีการดำเนินการอื่นใดอันเป็นการใช้สถานะหรือตำแหน่งการเป็นส.ส.กระทำการใดอันมีลักษณะที่เป็นการก้าวก่ายแทรกแซงเพื่อประโยชน์ของตนเองของผู้อื่นหรือของพรรคการเมืองไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมในการบรรจุแต่งตั้งโยกย้ายโอนเลื่อนตำแหน่งเลื่อนเงินเดือนหรือการให้พ้นจากตำแหน่งของข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำและไม่ใช่ข้าราชการการเมืองพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยราชการหรือหน่วยงานของรัฐอันจะเป็นเหตุให้สมาชิกภาพของนายอธิษฐานสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101(7)ประกอบมาตรา 1 8 5(3) กรณีตามคำร้องไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่านายพิธา มีการกระทำอื่นใดอันเป็นการก้าวก่ายหรือแทรกแซงในเรื่องการโยกย้ายข้าราชการไปสังกัดกระทรวงสาธารณสุข มูลกรณียังไม่ปรากฏว่าการกระทำของนายพิธาเป็นการต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 185 ( 3 )
นอกจากนี้ยังมีมติเป็นเอกฉันท์ไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยกรณีที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งคำร้องของส.ส.57 คนขอให้วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 ว่าสมาชิกภาพส.สของพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชาติ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101(7) ประกอบมาตรา 185 (3) หรือไม่จากกรณีเดียวกันด้วย