วันนี้ (20 ก.พ.) นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย กล่าวในรายการ “พรรคภูมิใจไทย พูดแล้วทำ” ที่เผยแพร่ทางเฟซบุ๊ก ยูทูบ และ Tiktok พรรคภูมิใจไทย ถึงนโยบาย “พักหนี้ 3 ปี หยุดต้น ปลอดดอกเบี้ย” ที่พรรคภูมิใจไทยนำเสนอว่า นโยบายพักหนี้ 3 ปี เป็นหนึ่งในชุดนโยบาย “เพิ่มรายได้-ลดรายจ่าย-ให้โอกาส” ของพรรคภูมิใจไทย โดยการพักหนี้ ก็คือ การลดภาระให้กับประชาชนที่เป็นหนี้ แต่เมื่อได้พูดคุยกับชาวบ้าน ก็พบว่า นโยบายพักหนี้ในอดีต จะพักแต่เงินต้น แต่ดอกเบี้ยยังเดินอยู่ ตรงนี้คือความยากลำบาก คือ ความทุกข์ยากของประชาชนที่เป็นหนี้ พรรคภูมิใจไทย จึงคิดว่า ถ้าจะช่วยเหลือประชาชน โดยการพักหนี้ ก็ต้องพักทั้งเงินต้น และหยุดคิดดอกเบี้ยด้วย เป็นที่มาของนโยบาย พักหนี้ 3 ปี หยุดต้น ปลอดดอก คนละไม่เกิน 1 ล้านบาท”
“ปกติแล้วการพักหนี้ จะพักเฉพาะหนี้ แต่ดอกเบี้ยยังเดินอยู่ แล้วตอนพักหนี้ ถ้าไม่จ่ายดอก ก็อาจเจอดอกทบต้นไปอีก พรรคภูมิใจไทยเราเห็นว่า เป็นความทุกข์ยากของชาวบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากโควิด เราก็เลยคิดว่า ถ้าพักหนี้ ก็ต้องพักต้น และหยุดดอกด้วย” นายสิริพงศ์ ระบุ
นายสิริพงศ์ กล่าวอีกว่า ยืนยันว่า นโยบายนี้สามารถทำได้จริง โดยในส่วนของวงเงินที่จะมารองรับนั้นจะเป็นไปในรูปแบบการออกพันธบัตรรัฐบาล ชื่อ พันธบัตร Thai Power หรือ พันธบัตรคนไทยรวมพลัง เพื่อจำหน่ายให้กับประชาชนผู้มีเงินฝากในสถาบันการเงินที่ได้ดอกเบี้ยไม่สูงมากนัก นำมาซื้อพันธบัตรระยะสั้นที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากประจำ แล้วนำเงินดังกล่าวมาแก้ปัญหาหนี้สินให้ประชาชน และเมื่อครบเวลาพักหนี้ 3 ปี ประชาชนก็จะมีความสามารถชำระหนี้ ได้เพิ่มขึ้น ลดปัญหาหนี้สินให้ประชาชน ลดปัญหาหนี้เสียให้สถาบันการเงิน หรือเจ้าหนี้ในระบบต่างๆ
นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง และ โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวเสริมว่า ในส่วนของหนี้ที่เข้าเงื่อนไขของนโยบายพักชำระหนี้ 3 ปี จะเป็นหนี้ในระบบที่มีการทำสัญญาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย กับเจ้าหนี้ที่รัฐรับรองให้ปล่อยเงินกู้ได้ ได้แก่ ธนาคาร, สถาบันการเงิน, บัตรเครดิต, ไฟแนนซ์, ลีซซิ่ง, สหกรณ์, กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.), กองทุนหมู่บ้าน และกองทุนสตรี เป็นต้น ส่วนกรอบวงเงินจะกำหนดไว้ที่ไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อราย จะเป็นหนี้กี่ที่ เจ้าหนี้กี่ราย พักได้ทั้งหมด แต่รวมกันแล้วต้องไม่เกิน 1 ล้านบาท ส่วนที่เกิน 1 ล้านบาท ต้องผ่อนชำระตามปกติ
“โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อแก้หนี้ที่มีอยู่ในปัจจุบันของประชาชน โดยไม่สนับสนุนให้ก่อหนี้เพิ่ม เพื่อประชาชน นำเงิน หรือรายได้ที่มี ใช้ยังชีพ เลี้ยงดูครอบครัว และมีเวลาตั้งหลัก เริ่มต้นใหม่ เป็นเวลา 3 ปี เพื่อให้มีความสามารถชำระหนี้เพิ่มขึ้น” นายภราดร ระบุ
นายภราดร อธิบายต่อถึงการกำหนดระยะเวลาพักหนี้ 3 ปี ว่า เพราะสถานการณ์โควิด ทำให้ประชาชนและผู้ประกอบการประสบปัญหามา 3 ปีเต็มๆ โดยเฉพาะช่วง 1-2 ปีแรกที่มีปัญหาหนักมาก ทั้งการล็อกดาวน์ปิดเมืองปิดประเทศ จนไม่สามารถทำมาหากิน หรือดำเนินธุรกิจได้ คนที่ไม่เคยเป็นหนี้ ก็ต้องไปกู้หนี้บัตรเครดิต หรือกู้หนี้อย่างอื่นมาแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ดังนั้นระยะเวลา 3 ปีที่สูญเสียไป จึงเป็นเหตุผลให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย คิดว่า การพักหนี้ 3 ปีเป็นระยะเวลาที่เหมาะสม