โฆษกก้าวไกล แฉ ไทยเทาพาทุนสีเทาเข้ามาเกี่ยวข้อง กมธ.กาสิโน ยกย่อง “เฮียชู” นำข้อมูลมาให้ จ่อชง ป.ป.ช.สอบ ผิดหวังนายกฯ ตอบไม่เคลียร์ ชี้ วันนี้ไม่ใช่ความล้มเหลวแก้ยาเสพติด แต่จงใจให้ได้รับประโยชน์สูงสุด เหน็บ ผบ.ตร.ไม่ทำอะไร ดีแต่ไหว้พระ
วันนี้ (16 ก.พ.) นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวว่า สิ่งที่ตนอภิปรายทุกคนเห็นและช่วยกันยืนยันว่า เป็นความจริงที่เกิดขึ้นในประเทศของเรา ตนขอเรียกว่า “ไทยเทา” กำลังเป็นปัญหาของประเทศ ซึ่งเชื่อมโยงกับกลุ่มเมียนมา และทุนจีนสีเทา ซึ่งพยายามเข้ามาในประเทศ และยังมีกลุ่มทุนจีนบางกลุ่มมาในรัฐสภา เพื่อเยี่ยมกรรมาธิการกาสิโน และอาจเกี่ยวข้องกับการค้าอวัยวะเถื่อน
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ในบันทึกชวเลขที่ได้มาจากสภา มีความพยายามเซ็นเซอร์ชื่อของผู้เข้าร่วมประชุม แต่พรรคก้าวไกลมี ส.ส. ในกรรมาธิการชุดนี้ จึงได้ข้อมูล ตนเห็นทุนสีเทาที่นำโดยไทยเทา พาเข้ามาเกี่ยวกับรัฐสภา ความเกี่ยวพันชัดเจนว่า เราไม่สามารถกำจัดได้ เพราะมีผู้มีอำนาจ แม้ตำรวจนครบาลทำหน้าที่ได้ดี สุดท้ายโดนย้าย” นายรังสิมันต์ กล่าว
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า การอภิปรายครั้งนี้ไม่ใช่การเปิดโปงและอยากจะสดุดีพลเมืองดีอย่าง นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ที่พยายามปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน หากเราไม่มี นายชูวิทย์ หรือตำรวจน้ำดี ที่พยายามนำข้อมูลต่างๆ มาให้ เราไม่สามารถอธิบายได้ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้น ตนจะไม่หยุดเพียงเท่านี้ จะนำข้อมูลทั้งหมดไปยื่นต่อ ป.ป.ช. และสำนักงานอัยการสูงสุด
เมื่อถามว่า กรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้ชี้แจงเพียงพอหรือไม่กับการอภิปราย นายรังสิมันต์ กล่าวว่า นายกฯ ชี้แจงเหมือนไม่ชี้แจง แม้จะไม่ละเอียดและไม่ตรงประเด็นอย่างเรื่องของ “ตู้ห่าว” ที่มีการพาดพิงนักการเมืองบางพรรค ท่านต้องจัดการ เพราะจะทำให้สังคมเห็นว่าเป็นผู้มีอำนาจที่สุดใน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สามารถจัดการได้ แต่คนใกล้ชิดของนายกฯ ไม่ว่าจะหลานชาย หรือ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ อดีตพี่เลิฟ ต้องตรวจสอบว่ามีการเกี่ยวพันหรือไม่ ขอให้มีการตรวจสอบก่อน อย่าทำตัวเหนือปัญหา ถ้าทำตัวแบบนี้ประชาชนจะไม่เชื่อถือ
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ในส่วนของ นายอุปกิต ปาจรียางกูร ส.ว. ที่ตนเปิดโปง แต่ นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่มีพยานหลักฐาน แต่การที่ตนอภิปรายเป็นชั่วโมง มีการนำหลักฐานแชตข้อมูลยืนยันว่า มี ส.ว. เข้าไปเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดหลังปี 2562 ต้องจะถามว่าท่านทำอะไรอยู่ ที่ทำการพรรครวมไทยสร้างชาติ อาจจะมาจากการฟอกเงินธุรกิจสีเทา อาจเกี่ยวกับการค้ายาเสพติด เราต้องเรียกว่า ประยุทธ์ เอสโคบาร์
“พล.อ.ประยุทธ์ ไม่คิดที่จะปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง วันนี้ไม่ใช่ความล้มเหลว แต่จงใจให้ตนเองได้รับประโยชน์สูงสุด ยาเสพติดจะคู่กับการฟอกเงิน และคิดว่า ส.ว. จะเกี่ยวข้องเพียงคนเดียวหรือไม่ ผมเหนื่อยใจกับตำรวจ ผบ.ตร. ไม่ทำอะไรเลย ดีแต่ไหว้พระ สิ่งที่ตนอภิปรายที่มีหลักฐานต่างๆ จะแนบข้อมูลส่งดีเอสไอ แม้ ส.ว.อุปกิต มีการคุ้มกันอยู่ แต่หลังจบสมัยการประชุมการคุ้มกันจะหายไป เจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องเร่งดำเนินการจับกุมทันที ร.อ.ธรรมนัส หรือ พลเอก ประวิตร จะเกี่ยวข้องหรือไม่ ต้องเร่งดำเนินการจัดการ หากเป็นนักการเมือง ขั้นต่ำต้องสอบสวนก่อน หลังเลือกตั้งรัฐบาลเปลี่ยนไป ไม่ต้องเกรงกลัว ดังนั้น นายกฯ ต้องเคารพกฎหมายให้ประชาชน กฎหมายจะศักดิ์สิทธิ์เมื่อผู้นำปฏิบัติตาม” นายรังสิมันต์ กล่าว
