“ส.ว.เลิศรัตน์” แจงวุฒิสภาไม่โหวต “อุ๊งอิ๊ง” นั่งนายกฯ เป็นความเห็นส่วนบุคคล ไม่แฟร์ถูกเหมารวม ยันยึดคุณสมบัตินำประเทศสู่ ปชต.เชื่อ 2ป.ไม่เสนอชื่อชนกัน
วันนี้ (13ก.พ.) พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กล่าวถึงกรณีที่ นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุ ส.ว.พร้อมแลนด์สไลด์ไม่โหวตเลือก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรี โดยให้ไปรวบรวมเสียงให้เกิน 376 เอง จนถูกกระแสตีกลับ ส.ว. ไม่เคารพเสียงประชาชน ว่า ไม่ใช่ความเห็นของคนทั้งหมด และจะไปห้าม ส.ส.หรือ ส.ว.ไม่ให้แสดงจุดยืนไม่ได้ ส่วนตัวนั้นมองว่า การจะเลือกนายกรัฐมนตรีเป็นครั้งสุดท้าย จะต้องพิจารณาหลายอย่างประกอบกัน ซึ่งอันดับแรก ส.ว.จะต้องวางตัวเป็นกลาง ต้องไม่สนับสนุนหรืออิงพรรคการเมืองหนึ่งพรรคการเมืองใด โดย ส.ว.จะพิจารณาเลือกนายกรัฐมนตรี จากเสียง ส.ส. ที่สนับสนุนผู้ที่จะได้รับ เลือกเป็นนายกรัฐมนตรี และตัวบุคคล ซึ่งจะคำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนและประสิทธิภาพเสถียรภาพในการบริหารงานของรัฐบาลในอนาคต ซึ่งแน่นอนว่า หากมีเสียง ส.ส. สนับสนุนเกินครึ่งหนึ่ง ตนเองเชื่อว่า ส.ว.จะสนับสนุน แต่หากมีเสียงเกินครึ่งแล้ว เราคิดว่าเป็นบุคคลที่ไม่เหมาะสมจะเป็นนายกรัฐมนตรี สู้อีกคนไม่ได้ ก็ต้องถอยกลับไป เสนอชื่อใหม่ เพราะฉะนั้นการที่พรรคการเมืองรวมตัวกันก็เป็นสิทธิ แต่การที่จะเสนอใครมาเป็นนายกรัฐมนตรี ก็ต้องมองในภาพรวมด้วย ยกตัวอย่างเช่น การเลือก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีในครั้งแรก คู่เปรียบเทียบแทบจะสู้ไม่ได้ เสียงจึงเทไปที่ พล.อ.ประยุทธ์ เกือบทั้งหมด อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญของ ส.ว. คือ ต้องวางตัวเป็นกลาง ใช้ดุลพินิจในการให้ความเห็น เลือกผู้ที่สมควรในการมาเป็นผู้นำรัฐบาลครั้งต่อไป ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในช่วงเปลี่ยนผ่านที่จะนำ ไปสู่การมีรัฐบาลที่เป็นประชาธิปไตยเต็มที่
เมื่อถามถึงข้อวิพากษ์วิจารณ์ว่า ส.ว. จะเลือกแค่สองลุง คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.เลิศรัตน์ กล่าวว่า เรื่องการเลือกใครจะต้องอยู่ที่สถานการณ์ ตนขอฟันธงว่าไม่มีวันที่ลุงตู่ และลุงป้อม จะได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีทั้งสองคน อาจจะต้องมีคนใดคนหนึ่งหรือไม่มีเลยทั้งสองคน ก็ได้ และเสียงของประชาชนที่สนับสนุนพรรคการเมืองจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่จะตอบโจทย์ เพราะฉะนั้น การจะพูดอะไรขณะนี้ก็เป็นสิทธิของแต่ละบุคคล
“การจะมาสะท้อนกลับต่อ ส.ว. ทั้งหมดก็ไม่แฟร์ เพราะแต่ละคนมีความคิดที่หลากหลาย อย่าไปคิดว่าสิ่งที่คนหนึ่งพูดไปจะนำไปสู่การดำเนินการทั้งหมด เพราะขนาดนี้ยังไม่รู้ว่าใครจะได้รับเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีบ้าง อยู่ที่ประชาชนจะเลือกใคร และอยู่ที่การรวมกลุ่มของพรรคการเมือง จะไปรู้กันวันนั้น แต่ส่วนตัวขอรับรองว่าการตัดสินใจของตนถูกใจสื่อมวลชนแน่นอน” พล.อ.เลิศรัตน์ กล่าว