ข่าวปนคน คนปนข่าว
** “ชูวิทย์” ขยี้ “อ่างทดลองเปิด” เสี่ยกำพลคืนชีพ เรื่องตลกของ “เฮียชู” แต่ “ความควาย” จะงานเข้า ผบช.น.จ้าว!กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาเมื่อ “เฮียชู” ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เจ้าเก่า โพสต์เฟซบุ๊กในหัวข้อ “ทดลองเปิดอาบอบนวด เรื่องตลกประจำวันอาทิตย์”
งานนี้ นอกจากข้อมูลจะพรั่งพรูจากปาก “อดีตเจ้าพ่ออ่าง” ตัวจริงเสียงจริง “เฮียชู” ที่กำลังฮอตฮิตติดลมบน กรณีกัดติด “ทุนจีนสีเทา” ตู้ห่าว เรื่อยมาจนถึงตำรวจรีดทรัพย์ต่างชาติ จนสั่นสะเทือนวงการสีกากีให้ร้อนลวกนั่งไม่ติด ยังสอนมวยตำรวจ สน.เจ้าของท้องที่ และไม่ลืมที่จะฝากไปถึง “น.1” พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.ที่นาทีนี้ “ความวัวไม่ทันหาย ความควายก็มารัวๆ”
“ชูวิทย์” เริ่มต้นบอกว่า...ประเทศไทยมีเรื่องตลกให้ผมหัวเราะได้ทุกวี่ทุกวัน วันอาทิตย์เอาเรื่องเบาๆ แล้วกัน
อาบอบนวดย่านรัชดาของ “นายกำพล วิคตอเรีย” ผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์เด็กสาวอายุต่ำกว่า 15 ปี หนีคดี มีหมายจับเมื่อหลายปีก่อน
แต่ดันกลับมาตกแต่งเปลี่ยนชื่อ ปัดฝุ่นเปิดอาบอบนวดของตัวเองใหม่ 2 ที่ ได้แก่ เดอะลอร์ด (เปลี่ยนชื่อเป็น เดอะพาเลซ) และอีกที่ โคปา คาบานา (เปลี่ยนชื่อเป็น ลาลิซ่า) อยู่ใจกลางรัชดาทั้งสองที่
เมื่อโดนคดีค้ามนุษย์ ต้องถูกอายัดทรัพย์สิน แต่ “เสี่ยกำพล” ใช้อิทธิฤทธิ์ผสมผสานมนต์เงินตรา ผ่านอัยการ ปปง. ดีเอสไอ ทำให้อาบอบนวดเครือข่ายไม่ถูกยึด แล้วเอากลับมาเปิดใหม่หากินต่อ เรื่องค้าๆ ขายๆ มนุษย์ ได้อีกเหมือนเดิม ให้มันได้อย่างนี้สิ
วันก่อน ตำรวจไปจับอาบอบนวด “ลาลิซ่า” ยังไม่ได้ขออนุญาตเปิด แต่อ้างว่า “ทดลองใช้ก่อน” พบแขก 1 คน กับผู้หญิงสาว
แหมๆ! ถึงขนาดต้องทดลองใช้กันเลยหรือ?
ผมเคยเป็น “เจ้าพ่ออาบอบนวด” 6 แห่ง ไม่ยักรู้ว่าต้องให้แขกกับหมอนวดมาทดลองอ่าง ทดลองเตียงกันก่อน ว่าเด้งดีไหม? น้ำร้อนพอดีไหม? เวลาลงแช่กัน 2 คน จะกลับตัวในอ่างกันได้ไหม?
โถ..อ้างไปได้
อันที่จริง “โคปา คาบานา” หรือ “ลาลิซ่า” สถานที่ใหญ่โต มีถึง 2 ตึกเชื่อมต่อกัน เขาเปิดทดลองมานานสักพักแล้ว
แต่กว่าตำรวจจะเดินไปถึงห้องตรวจ หลบออกประตูหลังเผ่นหมด เหลือแขกคนนี้ที่นุ่งผ้าไม่ทัน เพราะกำลังรบติดพันอยู่บนเตียง
ที่นี่เคยเป็นของผม เป็นคนสร้างเองกับมือ เบื่อจะทำ ขายนายกำพลไปเมื่อ 20 ปีก่อน
แล้วทำไมจะไม่รู้ว่าประตูเข้าทาง ออกอีกทาง มีทางหนีทางหลบตำรวจได้ตรงไหนบ้าง
จริงๆ วันนั้น กระแสทิพย์จากศาลเจ้าที่บอกผมว่า “มีแขกเกือบ 10 คน อยู่ห้องสูท”
แต่พอมีเชียร์แขกไปบอกว่าตำรวจมา เลยรีบนุ่งผ้าเผ่นออกประตูหลัง เชื่อมต่อไปอีกตึกหนึ่งหลบกันหมด
เหลือแขกคนนี้มัวแต่รบพันตูอยู่บนเตียงกับหมอนวดสาว เพื่อนเคาะประตูเท่าไหร่ ก็ไม่ยอมออก
การเปิดอาบอบนวด ต้องขออนุญาตให้ถูกต้องกับตำรวจท้องที่เสียก่อน ที่นี่ขึ้นกับ “สน.สุทธิสาร” ผู้กำกับเพิ่งโดนย้ายหลังจบคดี “ตู้ห่าว”
ไม่ใช่นึกอยากเปิดก็เปิด และอ้างมาทดลองเตียง ทดลองอ่างก่อน แต่หมอนวดจริง แขกจริง เพราะสถานบริการ จำนวนห้อง ต้องถูกควบคุม
ส่วน “เดอะลอร์ด” หรือ “เดอะพาเลซ” ร่วมทุน “ไทยเทากับจีนเทา” เพราะที่ดินเกี่ยวพันไปกู้กันถึง บริษัท เกจ สตรีท ตั้งอยู่บน “เกาะเคย์แมน” สวรรค์ของนักฟอกเงิน
โดยที่นี่ มีกฎไม่เปิดเผยรายชื่อผู้ถือหุ้นบริษัทว่าใครเป็นเจ้าของ “กำพล” ทำการหลบบังชื่อตัวเอง
เก่งแท้ๆ ไม่รู้จีนเทาจะเกี่ยวพันไปถึง “ตู้ห่าว” อีกไหม?
นี่ก็เปิด “ทดลอง” อีกเหมือนกัน เปิดมาร่วมครึ่งเดือนแล้วครับ ขึ้นกับ สน.ห้วยขวาง ผู้กำกับเพิ่งย้ายมา สดๆ ร้อนๆ จากหนองจอก เลยไม่รู้
อย่าหาเรื่องไปกินของแสลงนะครับ!!
ทั้งสองที่ ก็ดันไปขึ้นกับนครบาลเจ้าเดิมอีก ท่าน ผบช.น. “ธิติ แสงสว่าง”
หากเปิดก็เพิ่มบัญชีจ่ายส่วย “ตามน้ำ” มาให้ ...แต่ผมว่าไม่คุ้มหรอกครับ เพราะ “กำพล” แผลเก่ามีมาก แถมยังมีหมายจับ
หากเรื่องนี้ ผมรับประกันเตะตูดฟรี 1 ที ว่าผมรู้มากกว่าท่าน ทั้งกฎหมาย ข้อหลบเลี่ยงสารพัน แต่ไม่อยากทำให้ท่าน ผบช.น. ได้หายใจ หลังจากโดนจัดเต็มเรื่อง “ตู้ห่าว” มาถึง “ด่านรีดไถ” พาลจะมา “เรื่องซ่อง” อีก
“กำพล” หนีคดีค้ามนุษย์ วิ่ง ปปง. เอาทรัพย์สินออก วิ่งอัยการให้สั่งไม่ฟ้อง ลูก เมีย ถอนหมายจับ
แต่แปลกที่ยังนั่งบริหารเปิดกิจการอาบอบนวดใหม่ 2 ที่นี้ได้ กลับมาประกอบอาชีพเดิม ทั้งๆ ที่ควรจะหลบไปใช้เงินกับเมียน้อยให้สบายใจเฉิบ
หาเรื่องเข้าตัวแท้ๆ และ ผบช.น. งานจะเข้าอีก ...เดี๋ยวจะไปหาว่าผมจ้องจะเล่นงานท่าน ผบช.น.จ้าว
คิดอย่างนั้น “บาปกรรมตาย"
งานนี้บอกได้เลยปาดเหงื่ออีกแล้ว “น.1”
** “อุ๊งอิ๊ง” รับยังไม่ได้เป็นแคนดิเดตนายกฯ ส่วน ส. ตัวใหญ่ “สุรเกียรติ์ เสถียรไทย” ใช่ตัวจริงหรือไม่ บอกได้แค่ว่ายังไม่เคยเข้ามาคุยกันเลย!!
หลังจาก “กำนันป้อ” วีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.คมนาคม และกรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทย ประกาศยุติบทบาททางการเมือง เนื่องจากมีปัญหาสุขภาพ ขณะเดียวกัน บรรดาลูกหลานของ “กำนันป้อ” กลับถูกดูดไปเป็นว่าที่ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทย ในการชิง ส.ส.โคราช ครั้งนี้ เพื่อสานภารกิจ “แลนด์สไลด์” ด้วย
โดย “อาทิตย์ หวังศุภกิจโกศล” กำนัน ต.กุดโบสถ์ อ.เสิงสาง ลูกชายของ “วีรศักดิ์” จะลงสมัคร ส.ส.นครราชสีมา ในพื้นที่ อ.เสิงสาง ... ส่วน “นรเสฏฐ์ ศิริโรจนกุล” รองนายก อบจ.นครราชสีมา หลานชายของ “วีรศักดิ์” ก็จะลงสมัครในพื้นที่ อ.ปักธงชัย
เมื่อคนของบ้านใหญ่ย้ายค่ายเช่นนี้ สนามเลือกตั้งโดยรวมของ จ.นครราชสีมา ก็ถูกโฟกัสว่าจะต้องสู้กันดุเดือดเลือดพล่านแน่ “นิด้าโพล” ยังต้องไปสำรวจความคิดเห็น ว่า ถ้ามีการเลือกตั้งกันในวันนี้ “คนโคราชเลือกพรรคไหน” เลือกแคนดิเดตนายกฯ คนไหน ซึ่งผลก็ออกมาว่า...
แคนดิเดตนายกฯ อันดับ 1 คือ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร จากพรรคเพื่อไทย ได้ร้อยละ 37.80 อันดับ 2 เป็น “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” พรรคก้าวไกล ได้ร้อยละ 12.40 และ อันดับ 3 เป็น “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ร้อยละ 11.73
ส่วนพรรคการเมืองที่คนโคราชจะเลือกให้เป็น ส.ส.แบบแบ่งเขตนั้น อันดับ1 เป็นพรรคเพื่อไทย ได้คะแนนถึง ร้อยละ 48.40 อันดับ 2 พรรคก้าวไกล ได้ร้อยละ 13.80 ส่วนอันดับ 3 พรรครวมไทยสร้างชาติของ “ลุงตู่” ได้ร้อยละ 8.53
เรียกได้ว่าทั้ง ตัว “อุ๊งอิ๊ง” และพรรคเพื่อไทย ทิ้งห่างคู่แข่งต่างขั้ว อย่าง “ลุงตู่” และพรรครวมไทยสร้างชาติ แบบไม่เห็นฝุ่น!! เช่นเดียวกับก่อนหน้านี้ ที่ผลสำรวจคนกรุงเทพฯ ก็ออกมาไม่ต่างจากความเห็นของคนโคราช จึงมีแนวโน้มว่าหลังเลือกตั้ง เราจะมีนายกฯหญิงเป็นคนที่สอง จากตระกูลชินวัตร
แต่แล้วก็มีความเห็นจาก “ส.ว.วันชัย สอนศิริ” สมาชิกวุฒิสภา ก็มาเบรกอารมณ์ของกองเชียร์ฝั่งนี้ว่า แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย ที่คาดการณ์กันว่า จะเป็น “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร กับ “เศรษฐา ทวีสิน” นั้นเป็นแค่ตัวหลอก เอาไว้โฆษณาประชาสัมพันธ์เท่านั้น เพราะในสถานการณ์ที่ราหู และมฤตยู ยังมีอิทธิพลต่อดวงเมือง ไม่ว่าอักษรย่อ อ. หรือ พ. หรือ ศ. ไม่เป็นมงคลกับบ้านเมือง ยังไปไม่ถึงดวงดาว
ตัวจริงเสียงจริง ที่พรรคเพื่อไทย จะเสนอเป็นแคนดิเดต เบอร์ 1 นั้น “ส.ว.วันชัย” บอกว่า ชื่อมีอักษรย่อ ส. ตัวใหญ่ เข้าได้กับทุกคนรอบทิศ ทั้งซ้ายขวา หน้าหลัง ล่างบน ...ส่วน “อุ๊งอิ๊ง” นั้นเป็นเวลาให้นมลูก อยู่กับคุณตาไปพลางก่อน
เมื่อมีนักข่าวเอาเรื่องนี้ไปถาม “อุ๊งอิ๊ง” ก็ได้คำตอบว่า ไม่รู้จริงๆ ว่า ส.ตัวใหญ่ เป็นใคร ส่วนที่มีคนทายว่าเคยเป็นอดีตรัฐมนตรี สมัยรัฐบาลไทยรักไทย (ทรท.) น่าจะเป็น “สุรเกียรติ์ เสถียรไทย” อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ อดีต รมว.ต่างประเทศ นั้น ก็คงไม่ใช่ เพราะเขาไม่ได้มีการเข้ามาพูดคุยกับพรรคเพื่อไทยเลย
อย่างไรก็ตาม “นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย บอกว่า การพิจารณาคัดเลือกแคนดิเดตนายกฯของพรรค ยังไม่จบ 100% คือ ยังอยู่ในกระบวนการพิจารณา ขณะที่ “อุ๊งอิ๊ง” ก็ยอมรับว่า ชื่อของเธอ ยังไม่ผ่านกระบวนการพิจารณาของพรรค รวมทั้งชื่อของ “เศรษฐา” ด้วย เพียงแต่ทุกคนคาดเดากันไปเองว่า จะต้องเป็นเธอ แต่ทางพรรคไม่ได้มีการประกาศอย่างเป็นทางการ ....เช่นเดียวกับ “นพ.ชลน่าน” ก็ไม่รู้ว่าจะได้เป็นแคนดิเดตนายกฯคนที่ 3 ของพรรคหรือไม่
ขณะที่ “นพ.ชลน่าน” พูดถึงโอกาสของตนเองว่า พรรคอื่นอาจมีข้อบังคับพรรคว่า หัวหน้าพรรคต้องเป็นแคนดิเดตนายกฯ หรือปาร์ตี้ลิสต์ลำดับที่ 1 แต่ของพรรคเพื่อไทย เปิดกว้าง ไม่มีระเบียบข้อบังคับนี้ ดังนั้น จึงไม่ถือว่าตนเองถูก “บอนไซ”
ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า ใครคือแคนดิเดตนายกฯตัวจริงของพรรคเพื่อไทย แล้วจะมีแคนดิเดตนายกฯ 3 คน เหมือนการเลือกตั้งครั้งที่แล้วหรือไม่ เชื่อว่า อีกไม่กี่วันข้างหน้าได้รู้กัน