xs
xsm
sm
md
lg

ล่มรอบ 5 สภาถกร่างกัญชาแค่ 4 มาตรา ถูกโวยตีเช็คเปล่า ผู้มีอำนาจกดขี่ กมธ.ชี้เป็นตามข้อตกลงการค้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สภาล่มรอบที่ 5 หลังโหวตร่าง กม.กัญชาฯ แค่ 4 มาตรา ส.ส.รุมค้านนำเข้ากัญชา-ห้ามกีดกันการค้า-วางกฎขออนุญาต เหมือนตีเช็คเปล่าผู้มีอำนาจกดขี่ กมธ.แจงเป็นตามข้อตกลงองค์การค้าหวั่นเจอตอบโต้กลับสินค้าเกษตรอื่นๆ ลักลอบนำเข้าโทษหนัก อำนาจอนุญาตอยู่ที่เลขาฯ อย. ยันพิจารณารอบคอบ

วันนี้ (1 ก.พ.) เมื่อเวลา 14.35 น. ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้มีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ. ... วาระสอง ต่อจากครั้งที่ผ่านมา โดยมี นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯคนที่สอง ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม และสั่งให้ลงมติในมาตรา 11 ที่ค้างจากการประชุมครั้งที่แล้ว

อย่างไรก็ตาม ภาพรวมการพิจารณาเป็นไปอย่างราบรื่น กระทั่งถึงมาตรา 15 ซึ่งมีสาระเกี่ยวกับผู้ใดประสงค์จะปลูก ผลิต นำเข้า ส่งออกหรือขายกัญชง กัญชา หรือสารสกัดต้องได้รับอนุญาตจากผู้อนุญาต คือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นประธานกรรมการเป็นผู้อนุญาต โดยมีสมาชิกอภิปรายความเห็น

นายพิเชษ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลายคนกังวลว่าจะเป็นเช็คเปล่า เพราะไร้ขีดจำกัด จำนวนปริมาณเท่าไหร่ โซนนิ่งที่ไหน และที่ระบุว่ากฎกระทรวงต้องไม่มีผลกีดกันการผูกขาดหมายถึงการค้าเสรีใช่หรือไม่ ถือเป็นการค้าเสรีกัญชาใช่หรือไม่ เพราะไม่มีป.ป.ส.เข้ามาเกี่ยวข้องเลย

นายพิสิฐ ลี้อาธรรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนไม่เห็นด้วยที่จะให้มีการนำเข้าเพราะประเทศเพื่อนบ้านเป็นแหล่งปลูกกัญชาต้นทุนต่ำ หากจะให้เกษตรกรปลูกไม่เกิน 15 ต้น หรือให้ปลูกเพื่อเศรษฐกิจก็ไม่ควรให้ต่างประเทศส่งเข้ามา ตนจึงขอแปรญัตติให้ตัดคำว่า"นำเข้า"ออก หากจะผลิตก็ภายในประเทศเท่านั้น

นายณัฐพล สืบศักดิ์วงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายประเด็นการขออนุญาตและการอนุญาต ที่บัญญัติว่า “ผู้ใดประสงค์จะเพาะปลูกกัญชา กัญชง หรือผลิตนำเข้าส่งออกต้องไดรับการอนุญาตจากผู้อนุญาต” ถามว่า เท่ากับกีดกันผูกขาดกดทับหรือไม่อย่างไร เพราะวิถีการปลูกแบบดั้งเดิมของกลุ่มชาติพันธุ์จะถูกกีดกันด้วยการขออนุมัติหรือไม่ และต้องได้รับใบอนุญาต จากผู้อนุญาตคือบังคับให้ต้องปฏิบัติตามผู้มีอำนาจใช่หรือไม่ เพราะ รธน.ได้คุ้มครองวัฒนธรรมมดั้งเดิมด้วย และกฎกระทรวงต้องไม่มีผลในการกีดกัดผูกขาดทางการค้า ตนไม่แน่ใจว่า กลุ่มชาติพันธุ์ใช้กัญชงใช้ในเส้นใยเครื่องนุ่งห่ม ต้องขออนุญาตหรือไม่

ด้านน ายธีรวัฒน์ จงสงวนดี กมธ.ในสัดส่วนของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ชี้แจงว่า เหมือนกับการเขียนกฎหมายทั่วไปที่จะวางหลักการอนุญาตเอาไว้ ว่า สิ่งใดจะต้องขออนุญาตหากไม่ขอก็จะมีโทษตามบทกำหนดโทษ ส่วนการที่บอกว่าเรื่องใด อนุญาตอย่างไรจะเป็นเนื้อหากฎหมายต่อๆ ไป กรณีที่มีการปลูกกัญชา กัญชง ก่อนที่กฎหมายนี้จะใช้บังคับ เราจะมีการกำหนดในบทเฉพาะกาลรองรับไว้ใน ม.44/1 การจดแจ้งใน ม.44/2 โดยจะมีกระบวนการทำให้บุคคลดังกล่าวเข้ามาสู่กฎหมายนี้ได้อย่างราบรื่น ไม่กลายเป็นผู้ผิดกฎหมาย

ส่วนที่ไม่ได้ห้ามการนำเข้านั้น ทาง กมธ.มีการเชิญผู้แทนจากกระทรวงต่างประเทศ และกระทรวงพาณิชย์มาชี้แจง เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ซึ่งการนำเข้าสินค้าต่างๆ ต้องขึ้นอยู่กับความตกลงระหว่างในประเทศต่างๆคือข้อตกลงว่าด้วยภาษีศุลกากรและการค้าและข้อกำหนดต่างที่ขึ้นกับ WTO เพราะกังวลว่าหากไทยมีการขายสินค้าอะไรในประเทศไม่มีการต้องห้ามภายในประเทศ และมีการส่งออก หากห้ามนำเข้าอาจจะเข้าเงื่อนไขการกีดกันทางการค้าได้ สิ่งที่ตามมาคือการถูกตอบโต้กลับมาในสินค้าเกษตรอื่นๆ ได้ด้วย ทาง กมธ.จึงได้พิจารณาด้วยความรอบรอบและระบุไว้ในร่างกฎหมาย

ส่วนประเด็นเกี่ยวกับกลุ่มชาติพันธุ์จะบัญญัติไว้ใน ม.18 และ 18/1 เรื่องการจดแจ้งการใช้ประโยชน์จากราก ลำต้น และเส้นใย ซึ่งต่างจาก ม.15 ที่เป็นเรื่องของการอนุญาต ซึ่งการจดแจ้งจะมีขั้นตอนง่ายกว่า

ขณะที่ นายศุภชัย ใจสมุทร ในฐานะประธาน กมธ.ชี้แจงว่าการปลูกกัญชา กัญชง เราแยกเป็นหมวดการขออนุญาตและการอนุญาต โดยการขออนุญาตจะเป็นเชิงพาณิยช์ หากใครไม่ขออนุญาตถือว่าทำผิดกฎหมายมีโทษทางอาญา ส่วนโทษที่นำเข้าโดยไม่ได้รับอนุญาตคำจุกไม่เกิน 3 ปี

“การที่เราไม่เขียนเรื่องการอนุญาตไว้ต่างหากที่คือ “เสรี” ใครจะทำอะไร การเพาะปลูก การผลิต นำเข้าส่งออกหรือการขายจะต้องขออนุญาต แปลว่า รัฐมีหน้าที่เข้ามากำกับดูแล ซึ่งไม่ใช่การเสรี แต่สิ่งที่เสรีคือเวลานี้ที่ยังไม่มีกฎหมาายนี้ควบคุม ดังนั้น ที่บอกว่าวันนี้มีการนำเข้ามาจากต่างประเทศมากมาย เป็นเรื่องของขบวนการที่แอบนำเข้ามาแต่เราไม่มีกฎหมายที่จะไปดำเนินคดี ดังนั้นกฎหมายฉบับนี้จะทำให้การกำกับดูแลการใช้กัญชา กัญชงจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง”

ส่วนที่ระบุว่า กฎกระทรวงต้องไม่มีผลกีดกันทางการค้า เรื่องนี้มีการถกกันมากว่าเราควรจะมีคำนี้หรือไม่โดยเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงและเห็นว่าหากไม่เขียนไว้จะมีผลกระทบกับการค้าระหว่างประเทศ และยังมีการบัญญัติเรื่องห้ามนำเข้าในเวลา5 ปีอยู่ในมาตรา42 เพื่อสนับสนุนเกษตรกรภายในประเทศ แต่กมธ.เสียงข้างมากให้ตัดออกไป ตนยืนยันว่าการพิจารณาของกมธ.ยู่บนพื้นฐานความมีเหตุมีผล หากได้ดูทั้งหมดจะเห็นว่าการขออนุญาตปลูกกัญชา กัญชง แยกกันกับเรื่องของการจดแจ้ง และกลุ่มชาติพันธุ์ก็ยังสามารถปลูกได้เหมือนเดิม ไม่มีเรื่องอะไรที่ควบคุมเมล็ดพันธุ์ และในร่างกฎหมายยังกำหนดบทบาทหน้าที่ของ คกก.ในการสนับสนุนส่งเสริมการเพาะปลูกกัญชา กัญชง ไว้อย่างชัดเจน

“และที่สำคัญผู้อนุญาตไม่ใช่ รมว.สาธารณสุข แต่เป็นเลขาธิการสำนักงานอาคารและยา (อย.) และการออกกฎกระทรวงในแต่ละเรื่องต้องผ่านการพิจารณาของกฤษฎีกา และ ครม. ดังนั้น การเขียนไว้เพื่อให้มีการพิจารณาในขอบเขต ไม่ใช่เป็นการตีเช็คเปล่า ไม่มีอยู่อยู่ในประเทศที่ปกครองตามหลักนิติรัฐ นิติธรรมอย่างประเทศไทยแน่นอน” นายศุภชัย กล่าว

จากนั้น นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู็แทนราษฎร ในฐานะประธานที่ประชุม ได้ให้สมาชิกลงมติ โดยใช้เวลารอถึง 10 นาที แต่สมาชิกยังเสียบบัตรแสดงตนเป็นองค์ประชุมไม่ครบ ทำให้ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า น่าจะใช้เวลารอพอสมควรแล้ว แต่นายชวนขอให้รออีกระยะหนึ่ง เพราะขาดสมาชิกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และให้พรรคร่วมรัฐบาลไปตาม ส.ส.เข้าห้องประชุมด้วย

กระทั่งเวลา 17.09 น. มีสมาชิกแสดงตนครบเป็นองค์ประชุม จำนวน 218 คน แต่ในช่วงลงมติเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบกับมาตรา 15 นั้น พบว่า องค์ประชุมไม่ครบ โดยมี ส.ส.เพียง 204 คน ดังนั้น นายชวนจึงสั่งปิดในเวลา 17.22 น.

ทั้งนี้ การประชุมสภา ถือว่า ล่มเป็นครั้งที่ 5 นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา


กำลังโหลดความคิดเห็น